'คมนาคม' เตรียมพร้อมรับจีนเปิดประเทศ คาดปีนี้เที่ยวไทยพุ่ง 7 - 10 ล้านคน
“คมนาคม” ตรวจความพร้อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิรองรับผู้โดยสารช่วงเทศกาลปีใหม่ 2566 และพร้อมรับนักท่องเที่ยวจีน หลังประกาศเปิดประเทศ ด้าน ทอท.คาดทยอยเดินทางเข้าไทย ม.ค.นี้ พร้อมประเมินตลอดทั้งปีหน้ายอดเดินทางสูง 7 – 10 ล้านคน
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ตรวจเยี่ยมการเตรียมการรองรับผู้โดยสารช่วงเทศกาลปีใหม่ 2566 และเตรียมความพร้อมกรณีสาธารณรัฐประชาชนจีนเปิดประเทศ และติดตามความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาการขนถ่ายกระเป๋าสัมภาระล่าช้า พร้อมระบุว่า หลังจากที่ประเทศไทยเปิดประเทศเต็มรูปแบบ ส่งผลให้ปริมาณการเดินทางทางอากาศของประชาชนและนักท่องเที่ยวเข้าประเทศไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
โดยกระทรวงคมนาคมได้มอบนโยบายให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอำนวยความสะดวกผู้ใช้บริการท่าอากาศยานให้มีความสะดวกและรวดเร็ว ซึ่งที่ผ่านมากระทรวงคมนาคมได้เร่งแก้ไขปัญหาความแออัดภายในท่าอากาศยาน รวมทั้งความล่าช้าของขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองและการขนถ่ายกระเป๋าสัมภาระอย่างเร่งด่วน ซึ่งจากการดำเนินการพบว่าขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองเป็นไปด้วยความรวดเร็วยิ่งขึ้น ท่าอากาศยานมีความพร้อมในการรองรับผู้โดยสารที่จะมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น
ในส่วนของการให้บริการกระเป๋าสัมภาระผู้โดยสารได้ตรวจสอบระบบลำเลียงกระเป๋าสัมภาระ ได้กำชับผู้ให้บริการภาคพื้นที่ให้บริการขนถ่ายสัมภาระผู้โดยสารทั้ง 2 ราย คือ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) และ บริษัท บริการภาคพื้นการบินกรุงเทพเวิลด์ไวด์ไฟล์ทเซอร์วิส จำกัด ในการดำเนินการขนถ่ายสัมภาระให้ตรงตามเวลาที่กำหนด ปัจจุบันค่าเฉลี่ยเวลาในการลำเลียงกระเป๋าสัมภาระจากเครื่องบินจนถึงผู้โดยสาร First bag ใช้เวลาเฉลี่ย 27 นาที และ Last bag ใช้เวลาเฉลี่ย 44 นาที
ทั้งนี้ ระยะเวลาในการลำเลียงกระเป๋าสัมภาระในแต่ละเที่ยวบิน ขึ้นอยู่กับระยะทางของหลุมจอดอากาศยานกับจุดขนถ่ายสัมภาระ ซึ่งจากที่ผ่านมาพบว่าปัญหาความล่าช้าของกระเป๋าสัมภาระ ส่วนหนึ่งมาจากจำนวนเที่ยวบินล่าช้า (Flight Delay) รวมทั้งการขาดบุคลากรและอุปกรณ์ในการให้บริการภาคพื้น เนื่องจากช่วงของการแพร่ระบาดของโรค Covid-19 ผู้ประกอบการประสบปัญหาการขาดแรงงานที่มีทักษะ จึงได้สั่งการให้ผู้ให้บริการภาคพื้นเร่งจัดสรรกำลังคนมาบริหารจัดการสัมภาระผู้โดยสารเป็นอันดับแรก
สำหรับช่วงเทศกาลปีใหม่ประจำปี 2566 ระหว่างวันที่ 29 ธันวาคม 2565 - 4 มกราคม 2566 คาดว่าจะมีผู้โดยสารเดินทางผ่านทางท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและท่าอากาศยานของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. ประมาณกว่า 2 ล้านคน หรือเฉลี่ยวันละ 3 แสนคน เพิ่มขึ้น 170% เมื่อเทียบกับช่วงปีใหม่ 2565 และเพิ่มขึ้น 108% เมื่อเทียบกับสงกรานต์ปีที่ผ่านมา ส่วนเที่ยวบินรวมมีกว่า 12,000 เที่ยวบิน เฉลี่ยวันละกว่า 1,700 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 87% เมื่อเทียบกับช่วงปีใหม่ 2565 และเพิ่มขึ้น 40% เมื่อเทียบกับสงกรานต์
โดยเฉพาะท่าอากาศยานสุวรรณภูมิคาดว่าเที่ยวบินช่วงปีใหม่เติบโตกว่า 140% และผู้โดยสารเติบโต 260% จากปีใหม่ปีที่แล้ว ขณะที่ท่าอากาศยานดอนเมืองและท่าอากาศยานภูเก็ตคาดว่ามีเที่ยวบินช่วงปีใหม่เติบโต 90% และ 80% ส่วนผู้โดยสารคาดว่าเติบโต 130% และ 170% ตามลำดับ ทั้งนี้ ได้มีการจัดตั้งศูนย์ Single Command Center เพื่อบริหารจัดการเรื่องความแออัดของผู้โดยสารที่มาใช้บริการผ่านกล้อง CCTV ตลอด 24 ชั่วโมง โดยเฉพาะช่วงเวลา Peak Hour เพื่อให้การบริการเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
ส่วนกรณีที่สาธารณรัฐประชาชนจีนจะยกเลิกข้อกำหนดการกักกันสำหรับผู้โดยสารทุกคนที่เดินทางมาจากนอกพรมแดนของประเทศ เตรียมเปิดประเทศตั้งแต่วันที่ 8 มกราคม 2566 นั้น ทอท. คาดว่าตั้งแต่ช่วงก่อนปีใหม่จะเริ่มมีสายการบินทยอยแจ้งขอกลับมาทำการบินอีกครั้ง โดยเป็นการแจ้งล่วงหน้าก่อนวันหยุดปีใหม่เพื่อเตรียมเที่ยวบินให้พร้อมช่วงต้นเดือนมกราคม 2566 ที่จะเปิดประเทศ ซึ่งเบื้องต้นจะเป็นการกลับมาทำการบินที่กรุงเทพฯ เชียงใหม่และภูเก็ตก่อน รวมทั้งเที่ยวบินเช่าเหมาลำที่จะเข้ามาในช่วงเทศกาลตรุษจีนในช่วงกลางเดือน - ปลายเดือนมกราคม 2566
ซึ่งคาดการณ์ในช่วงเดือนปีใหม่ต่อเนื่องตลอดมกราคม 2566 ตลอดทั้งเดือนมกราคม 2566 ผู้โดยสารจะเดินทางเฉลี่ยวันละประมาณ 310,000 - 340,000 คน จากปัจจุบันเดือนธันวาคม 2565 มีผู้เดินทางเฉลี่ยวันละ 275,000 คน และเป็นผู้โดยสารของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเฉลี่ยวันละประมาณ 140,000 - 170,000 คน จากปัจจุบัน ธันวาคม 2565 มีผู้เดินทางเฉลี่ยวันละ 133,000 คน ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าตลอดปี 2566 จะมีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางผ่านท่าอากาศยานของ ทอท. ประมาณ 7 - 10 ล้านคน จากเดิมที่ก่อนการแพร่ระบาดของโรค Covid-19 มีจำนวน 20.5 ล้านคน
อย่างไรก็ตาม การที่เที่ยวบินจากสาธารณรัฐประชาชนจีนกลับเข้ามาทำการบินที่ประเทศไทยอย่างรวดเร็ว ได้กำชับให้ท่าอากาศยานต้องเตรียมการเรื่องการให้บริการของผู้ประกอบการภาคพื้น (ground handling) ให้พร้อม เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาความล่าช้าหรือความไม่พร้อมในการให้บริการ รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเตรียมความพร้อมรองรับนักท่องเที่ยวจีนในทุกด้าน