พาณิชย์เคาะประกันรายได้ข้าว งวด12 ธ.ส.ก. ยัน โอนเต็มตามสิทธิ์ ไม่มีหักหนี้
“พาณิชย์”เคาะส่วนต่างประกันรายได้ข้าว งวดที่ 12 จ่ายชดเชย 4 ชนิด ยกเว้นข้าวเปลือกเหนียวที่ราคาทะลุเป้าหมาย เผยข้าวเปลือกหอมมะลิรับสูงสุด ธ.ก.ส.จะโอนเงิน ภายในวันที่ 5 ม.ค. 2566
นายอุดม ศรีสมทรง รองอธิบดีกรมการค้าภายใน ในฐานะประธานที่ประชุมคณะอนุกรรมการกำกับดูแลและกำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว เปิดเผยว่า คณะอนุกรรมการฯ ได้พิจารณาราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงและการชดเชยส่วนต่างราคาตามโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2565/66 งวดที่ 12 สำหรับเกษตรกรกว่าสองหมื่นรายที่แจ้งวันเก็บเกี่ยวระหว่างวันที่ 24 - 30 ธ.ค. 2565
โดยมีราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงและส่วนต่าง ดังนี้ 1. ข้าวเปลือกหอมมะลิ เกณฑ์กลางตันละ 13,997.01 บาท ชดเชยตันละ 1,002.99 บาท ได้รับชดเชยสูงสุดครัวเรือนละ 14,041.86 บาท 2. ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ เกณฑ์กลางตันละ 13,452.29 บาท ชดเชยตันละ 547.71 บาท ได้รับชดเชยสูงสุดครัวเรือนละ 8,763.36 บาท 3. ข้าวเปลือกปทุมธานี เกณฑ์กลางตันละ 10,974.52 บาท ชดเชยตันละ 25.48 บาท ได้รับชดเชยสูงสุดครัวเรือนละ 637.00 บาท
4. ข้าวเปลือกเจ้า เกณฑ์กลางตันละ 9,749.90 บาท ชดเชยตันละ 250.10 บาท ได้รับชดเชยสูงสุดครัวเรือนละ 7,503.00 บาท และ 5. ข้าวเปลือกเหนียว เกณฑ์กลางตันละ 12,476.50 บาท ซึ่งสูงกว่าราคาเป้าหมายที่ตันละ 12,000 บาท จึงไม่มีการชดเชยส่วนต่างในงวดนี้ ซึ่งธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จะโอนเงินเข้าบัญชีเกษตรกรโดยตรงภายใน 3 วันทำการ หรือภายในวันที่ 5 ม.ค. 2566 และยืนยันว่าไม่มีการหักหนี้แต่อย่างใด ซึ่ง ธ.ก.ส. ส่วนกลางได้กำชับ ธ.ก.ส.สาขาในพื้นที่ไม่ให้หักเงินเกษตรกรไปเรียบร้อยแล้ว
นอกจากนี้ ได้เร่งทำความเข้าใจกับเกษตรกรโดยมีผู้แทนเกษตรกรช่วยประชาสัมพันธ์ข้อมูลอีกทางหนึ่งด้วย สำหรับผลการจ่ายเงินชดเชยส่วนต่าง ณ วันที่ 28 ธ.ค. 2565 ธ.ก.ส. ได้จ่ายเงินส่วนต่างให้เกษตรกรแล้ว ในงวดที่ 1 - 11 สำหรับเกษตรกรที่เก็บเกี่ยวภายในวันที่ 23 ธ.ค. 2565 จำนวน 2.558 ล้านครัวเรือน
ทั้งนี้ การโอนเงินชดเชยส่วนต่างให้เกษตรกรที่ผ่านมา ที่มีกรณีโอนเงินไม่สำเร็จจากปัญหาด้านบัญชีเงินฝาก ซึ่งจากการติดตามของ ธ.ก.ส. พบว่า ได้มีการแก้ไขปัญหาไประดับหนึ่งแล้วทำให้ยอดการโอนเงินให้เกษตรกรไม่สำเร็จลดลง แต่อย่างไรก็ตาม ขอให้เกษตรกรตรวจสอบบัญชีเงินฝากและติดต่อกับ ธ.ก.ส เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในการรับเงินชดเชยส่วนต่างตามโครงการ เช่น กรณีปัญหา ชื่อ – สกุล ไม่ตรง บัญชีปิด บัญชีถูกอายัด หรือหากยังไม่มีบัญชีเงินฝากกับ ธ.ก.ส. ขอให้เกษตรกรติดต่อเปิดบัญชีใหม่กับ ธ.ก.ส. สาขาในพื้นที่ เพื่อ ธ.ก.ส. จะได้ดำเนินการโอนเงินให้แก่เกษตรกรได้ต่อไป
สำหรับสถานการณ์ช่วงนี้ มีการซื้อขายข้าวเปลือกลดลงเนื่องจากติดเทศกาลปีใหม่ แต่ราคาโดยรวมปรับตัวสูงขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับสัปดาห์ก่อน สำหรับสถานการณ์ส่งออก ขณะนี้ส่งออกแล้วกว่า 7.7 ล้านตัน ซึ่งสูงกว่าปริมาณเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 7.5 ล้านตัน ทั้งนี้ โดยรวมราคาข้าวปีนี้อยู่ในระดับที่ดีกว่าปีที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม กรมฯ ได้เพิ่มการติดตามดูแลการซื้อขายข้าวเปลือก ทั้งในเรื่องของการปิดป้ายแสดงราคารับซื้อ รวมทั้งตรวจสอบความถูกต้องของเครื่องชั่งน้ำหนักและเครื่องวัดความชื้น ซึ่งหากพบเห็นว่าท่าข้าวหรือโรงสีใด ไม่ปิดป้ายแสดงราคารับซื้อ กดราคารับซื้อ โกงน้ำหนัก หรือมีพฤติกรรมใด ๆ ที่เป็นการเอาเปรียบชาวนา สามารถร้องเรียนได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน โทร 1569