รับนักท่องเที่ยวจีน รัฐบาลการ์ดอย่าตก
ตอนนี้ประเทศไทยอยู่ร่วมกับโควิดได้แล้วและกำลังเดินหน้าสู่ปีใหม่ที่เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มถดถอย ไม่ปฏิเสธว่าเราต้องการนักท่องเที่ยวจีน แต่จะทำอย่างไรให้ประชาชนปลอดภัยรัฐบาลต้องคิดเหมือนที่รัฐบาลประเทศอื่นคิดได้
วันสุขแห่งชาติ วันนี้มีความพิเศษเพราะเป็นวันศุกร์ส่งท้ายปี 30 ธ.ค. ที่มีเรื่องให้ดีใจและขบคิดใหญ่ระดับโลกส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคมไทยอย่างแน่นอน หลังจากจีนประกาศเมื่อต้นสัปดาห์ ตั้งแต่วันที่ 8 ม.ค.2566 อนุญาตให้นักเดินทางเข้าจีนได้ไม่ต้องกักตัว คนจีนทำหนังสือเดินทางขอวีซ่าไปท่องเที่ยวต่างประเทศได้ การจัดการโควิด-19 ที่เคยจัดการแบบ A ลดลงมาเหลือแบบ B
แวบแรกที่ได้ข่าวสร้างความฮือฮา ตลาดหุ้นขานรับทั่วโลก เพราะนั่นหมายความว่านักท่องเที่ยวจีน ตลาดท่องเที่ยวเอาท์บาวด์ใหญ่สุดของโลก ประเทศที่ใช้การท่องเที่ยวเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจอย่างไทยยินดีปรีดากันถ้วนหน้า
แต่ช้าก่อน... ประเทศที่ตั้งการ์ดสูงยังมี ในวันเดียวกันนั้นนายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะของญี่ปุ่น ประกาศว่า ตั้งแต่วันที่ 30 ธ.ค. นักเดินทางจากจีนหรือคนที่อยู่ในจีนในรอบ 7 วัน จะต้องถูกตรวจโควิดที่สนามบิน หากได้ผลเป็นบวกต้องถูกกักตัว 7 วัน หากบวกแต่ไม่แสดงอาการต้องถูกกักตัว 5 วัน โดยให้เหตุผลว่า “ความไม่ชัดเจนของสถานการณ์การระบาดในจีนทำให้เกิดความกังวล โดยเฉพาะประเด็นจำนวนผู้ติดเชื้อที่ประกาศโดยรัฐบาลและภาคเอกชนไม่ตรงกัน”
ท่าทีของญี่ปุ่นเข้าใจได้เพราะคนญี่ปุ่นระมัดระวังตัวกับทุกเรื่องอยู่แล้ว ตอนพัฒนาวัคซีนป้องกันโควิดได้ใหม่ๆ ญี่ปุ่นก็ใช้เวลาในการพิจารณานานกว่าจะอนุมัติให้ใช้ในประเทศ ส่วนที่กระทบต่อไทยคือ อินเดียที่กำหนดให้ผู้ที่เดินทางมาจากจีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ฮ่องกง และไทย ต้องแสดงผลตรวจโควิด-19 เป็นลบก่อนการเดินทางเข้าประเทศ และหากพบว่ามีอาการป่วยหรือตรวจเจอโควิดต้องกักตัวตามกำหนด
เท่ากับว่า คนไทยจะไปอินเดียก็ยุ่งยากขึ้น หลังจากเราเพิ่งดีใจกันว่า เราเป็นหนึ่งในปลายทางท็อปฮิตที่คนจีนอยากมาเที่ยวหลังเปิดประเทศ นอกจากนี้ยังมีสหรัฐ อิตาลี มาเลเซีย ไต้หวันก็ออกมาตรการมาใช้กับนักเดินทางจากจีน ถามว่าทำแบบนี้คือการกีดกันคนจีนหรือเปล่า ก็ไม่! เพราะรัฐบาลต้องมีหน้าที่ดูแลประชาชน
พูดถึงเรื่องนี้จำได้ว่านับตั้งแต่โควิด-19 เริ่มระบาดเมื่อต้นปี 2563 ตอนที่โลกยังงงๆ กันอยู่ ประชาชนเองก็ทำตัวไม่ถูก รัฐบาลพร่ำบอกออกสื่อทุกวันว่า “ประชาชนการ์ดอย่าตก” เกิดการติดเชื้อคลัสเตอร์นู่นนี่ก็กล่าวโทษว่าเป็นเพราะประชาชน “การ์ดตก” ทั้งๆ ที่โดยธรรมชาติเราคนไทยต้องดูแลตัวเองกันอยู่แล้ว
ขณะที่รัฐบาลจัดหาวัคซีนซิโนแวคมาให้ด้วยเหตุผลต่างๆ นานา แม้มีผลวิจัยออกมาว่าสู้วัคซีน mRNA ไม่ได้ ก็คนไทยด้วยกันนี่ล่ะ ที่ช่วยกันโวยวายจนได้ฉีด mRNA
ตอนนี้ประเทศไทยอยู่ร่วมกับโควิดได้แล้วและกำลังเดินหน้าสู่ปีใหม่ที่เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มถดถอย ไม่ปฏิเสธว่าเราต้องการนักท่องเที่ยวจีน แต่จะทำอย่างไรให้ประชาชนปลอดภัยรัฐบาลต้องคิดเหมือนที่รัฐบาลประเทศอื่นคิดได้ เรื่องนี้ขอเชิญชวนประชาชนชาวไทย กู่ก้องพร้อมกันเรียกร้องขอให้รัฐบาล “การ์ดอย่าตก!” ใครดูแลประชาชนไม่ได้ เห็นทีต้องสั่งสอนด้วยการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในไม่ช้า