"โลกแบ่งขั้ว" ซ้ำเติม "วิกฤติเศรษฐกิจ"

โลกก้าวสู่ปี 2023 ด้วยความคาดหวังว่า ความผันผวนตลอดทั้งปี 2022 จะมีแนวโน้มคลี่คลายลงในปีนี้ หรือควรจะมีปัจจัยบวกใดๆ เข้ามากอบกู้สถานการณ์วิกฤติในห้วงเวลากว่า 3 ปีที่โลกเผชิญความเลวร้ายมาอย่างยาวนาน ปรากฏการณ์วิกฤติที่เกิดขึ้นในรอบปีที่ผ่านมา ทั้งโรคระบาด อัตราเงินเฟ้อ สงครามรัสเซีย-ยูเครน ความขัดแย้งระหว่าง 2 ขั้วอำนาจโลก ล้วนสร้างความเจ็บช้ำให้ระบบเศรษฐกิจโลกจนยากจะเยียวยา ระบบซัพพลายเชนพังทั้งระบบ เกิดภาวะขาดแคลนวัสดุ อุปกรณ์ชิ้นส่วนที่สำคัญต่อภาคอุตสาหกรรมโลก

ยิ่งเมื่อมหาอำนาจของโลกอย่าง “จีน” พยายามควบคุมการระบาดของโควิดอย่างเข้มงวด แม้สุดท้ายต้องปลดล็อก ผ่อนคลาย เปิดประเทศ หากการใช้นโยบายที่สุดแสนจะเข้มงวดของจีน ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าส่งผลกระทบต่อกลไกเศรษฐกิจโลกอย่างมหาศาล การส่งออกสินค้าตกอยู่ในภาวะชะงักงัน ที่ผ่านมา จีนนับเป็นผู้ผลิตสินค้ารายใหญ่ และทรงอิทธิพล เมื่อทุกอย่างในจีนแผ่นดินใหญ่สะดุดลง โลกก็แทบจะหยุดหมุนตาม

เกิดปมปัญหาใหญ่ตามมา เมื่อโลกถูกแแบ่งเป็น 2 ขั้ว "ปัญหาภูมิรัฐศาสตร์” ทำให้โลกไม่ได้เป็นหนึ่งเดียวอีกต่อไป มาตรการกีดกันทางการค้าถูกหยิบขึ้นมาเป็นอำนาจในการต่อรอง เพิ่มความได้เปรียบให้ตัวเอง คำว่า "โลกาภิวัตน์" ที่ทั้งโลกหลงเพ้อรำพันมาหลายปี กลายเป็นคำที่ถูกลืม เมื่อ 2 ขั้วมหาอำนาจอย่างสหรัฐและจีนไม่ลงรอยกัน ตอบโต้กันไปมาด้วยมาตรการกีดกันต่างๆ กลายเป็นชนวนใหญ่กัดเซาะให้โลกทั้งใบ “ร้าวลึก” และพร้อมที่จะแตกเป็นเสี่ยงๆ 

หันกลับมามองประเทศไทย ลำพังแค่สถานการณ์ในประเทศ ภาวะการเมืองที่เปราะบาง นักการเมืองไร้คุณภาพ ความเหลื่อมล้ำในทุกมิติยังเป็นปัญหาโลกแตกที่ไม่รู้เมื่อไรจะแก้ได้ วิกฤติเศรษฐกิจที่ลากยาวทำประเทศซวนเซ ความหวังสูงสุดทั้งท่องเที่ยวและส่งออก ก็ยังไม่อยากมั่นใจว่าจะช่วยพลิกฟื้นเศรษฐกิจในปีนี้ได้จริงหรือไม่ เมื่อเศรษฐกิจไทยยังหลีกหนีไม่พ้นจากภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอยในหลายประเทศ ความขัดแย้งในเชิง ภูมิรัฐศาสตร์ ปัญหาเงินเฟ้อ รวมถึงการเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ยในโลก ที่แน่นอนว่าไทยได้รับผลกระทบโดยตรง

ความผันผวนของโลกที่แผ่ซ่านมาสู่ประเทศไทยอย่างหนักหน่วง ทั้งปัจจัยภายใน ภายนอกประเทศ ทำให้ปีนี้เรายังต้องเผชิญกับความผันผวน และความไม่แน่นอนเพิ่มเท่าทวีคูณ หยุดโลกสวยแล้วมองให้ลึกถึงความเป็นจริง หาทางรับมือ แก้ปัญหาให้ตรงจุด ตั้งรับ และพร้อมรุกไล่ ปรับตัวให้เร็ว “ฮึดสู้” กับความผันผวนทั้งปวง ทุกคนต้องร่วมมือกัน รัฐ เอกชน ภาคประชาสังคม ...หาทางออกประเทศให้เจอ