คลังโยน กบง. เคาะ ‘ตรึง’ LPG - แบงก์รัฐจ่อขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้
กรณีคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน หรือ กบง. เตรียมปรับขึ้นราคาก๊าซหุงต้ม LPG เป็น 423 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม จากปัจจุบันที่ 408 บาท ซึ่งจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค.นี้
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง อาคม เติมพิทยาไพสิฐ ระบุ กรณีคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน หรือ กบง. เตรียมปรับขึ้นราคาก๊าซหุงต้ม LPG เป็น 423 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม จากปัจจุบันที่ 408 บาท ซึ่งจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค.นี้ เรื่องดังกล่าวเป็นหน้าที่ของ กบง. ที่จะไปบริหารเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงให้สอดคล้องกับสภาวการณ์ปัจจุบัน ซึ่งการปรับราคา LPG จะมีผลต่อต้นทุนของภาคขนส่ง โลจิสติกส์ ภาคธุรกิจ รวมถึงภาคครัวเรือน ดังนั้น การจะพิจารณาตรึงราคาต่อหรือไม่ กบง.ต้องไปพิจารณาความสมดุลระหว่างผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับเงินกองทุนฯ ให้สมดุล
ส่วนภาษีน้ำมันดีเซล ปัจจุบันกระทรวงการคลังได้ลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันให้ 5 บาทต่อลิตร เพื่อช่วยดูแลราคาน้ำมัน ส่วนราคาดีเซลจะสามารถปรับลงได้ 1-2 บาทต่อลิตรหรือไม่ กระทรวงการคลังได้ชี้แจงไปกับ กบง. แล้ว ขึ้นอยู่กับกบง.จะบริหารเงินกองทุนน้ำมันอย่างไร เพื่อให้ประชาชนยังได้รับประโยชน์
แบงก์รัฐจ่อขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้
กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ หรือ ธอส. ในฐานะประธานกรรมการสมาคมสถาบันการเงินของรัฐ ฉัตรชัย ศิริไล ระบุ ในไตรมาส 1/2566 คาดว่าสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐจะเริ่มทยอยปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังจากที่ผ่านมาได้ตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับต่ำตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว เพื่อช่วยบรรเทาภาระประชาชน และช่วยให้ประชาชนได้มีเวลาปรับตัว หลังจากที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ กนง. จะปรับขึ้นดอกเบี้ย และส่งผลให้ธนาคารพาณิชย์ปรับขึ้นดอกเบี้ยมาก่อนหน้านี้แล้ว ซึ่งการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เพื่อรักษาระดับส่วนต่างระหว่างธนาคารพาณิชย์และธนาคารของรัฐ เพื่อไม่ให้ดอกเบี้ยธนาคารของรัฐห่างจากธนาคารพาณิชย์มากเกินไป
อย่างไรก็ตาม การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของแบงก์รัฐนั้น จะเป็นลักษณะการทยอยปรับ และจะไม่ปรับขึ้นในอัตราที่สูง โดยจะปรับราวครึ่งหนึ่งของธนาคารพาณิชย์เท่านั้นเพื่อช่วยดูแลภาระของลูกหนี้