ทอท.ยันไม่แบล็คลิสต์ 'เพาเวอร์ไลน์' ปมอาคารดอนเมืองถล่ม
ทอท.เผยผลสอบกำแพงอาคาร Service Hall ท่าอากาศยานดอนเมืองถล่ม ยันไม่แบล็คลิสต์ "เพาเวอร์ไลน์" ชี้ดำเนินการถูกต้องตามขั้นตอนวิศวกรรม และควักเงินรับผิดชอบความเสียหายเพิ่ม 12.9 ล้านบาท
นายพิศักดิ์ จิตวิริยะวศิน รองปลัดกระทรวงคมนาคม ประธานคณะกรรมการพิจารณาตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีกำแพงอาคาร Service Hall ท่าอากาศยานดอนเมืองพังถล่ม เมื่อวันที่ 18 เม.ย.2565 จากเหตุที่มีฝนตกหนักและท่อระบายน้ำไม่สามารถระบายน้ำได้ทันต่อสถานการณ์ โดยกระทรวงคมนาคมได้จัดตั้งคณะกรรมการฯ เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น และพบว่าความเสียหายไม่ได้กระทบต่อโครงสร้างหลักของอาคาร
แต่อย่างไรก็ดี คณะกรรมการฯ ได้ให้ข้อเสนอแนะเพื่อปรับปรุงความแข็งแรงของอาคารดังกล่าว ซึ่งขณะนี้ ทอท.และเอกชนคู่สัญญาได้ทำการซ่อมแซมอาคารดังกล่าว อีกทั้งออกแบบเสริมวัสดุให้กับโครงสร้างอาคารให้มีความแข็งแรงมากขึ้น
นายกีรติ กิจมานะวัฒน์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (สายงานวิศวกรรมและการก่อสร้าง) บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยว่า ขณะนี้กระทรวงคมนาคม ทอท.และคณะกรรมการสนับสนุนด้านวิศวกรรมและมาตรฐานการก่อสร้าง ประกอบด้วย ผู้ทรงคุณวุฒิจากวิศวกนรมสถานแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) สภาวิศวกร และสภาสถาปนิก ได้ร่วมกันดำเนินการตรวจสอบและซ่อมแซมความเสียหายของอาคาร Service Hall ท่าอากาศยานดอนเมืองที่พังถล่ม โดยได้มีการปรับปรุงตามมาตรฐานทางวิศวกรรม และทดสอบเสถียรภาพของโครงสร้างอาคารแล้วเสร็จ เตรียมเปิดให้บริการรองรับผู้โดยสารในวันที่ 8 ก.พ.นี้
"ความเสียหายที่เกิดขึ้นยังอยู่ภายใต้ระยะเวลาประกันผลงาน 2 ปี ซึ่งทางเอกชนคู่สัญญาได้รับผิดชอบต่อความเสียหาย และยังลงทุนเสริมวัสดุ อุปกรณ์ต่างๆ เช่น เท้าแขน เพื่อให้อาคารนี้สามารถมีศักยภาพรองรับปริมาณผู้โดยสารได้มากกว่าที่ประเมินไว้ ดังนั้นเอกชนจึงไม่ถือว่าเป็นผู้ทิ้งงาน จึงไม่ได้ติดแบล็คลิสต์กับ ทอท.ในการประมูลงานครั้งใหม่ ส่วนพนักงาน ทอท.ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการอนุมัติแบบก่อสร้างเดิมนั้น ก็พบว่าพิจารณาแบบตามขั้นตอนถูกต้องตามหลักวิศวกรรม ทอท.ได้ออกแบบก่อสร้างเบื้องต้นตามหลักวิศวกรรม และส่งมอบให้เอกชนนำไปดำเนินการ อีกทั้งยังได้ตรวจสอบผลการก่อสร้างตามขั้นตอน"
สำหรับอาคาร Service Hall จะเปิดให้บริการเพื่อรองรับผู้โดยสารกรุ๊ปทัวร์ และผู้โดยสารทั่วไปที่มาถึงท่าอากาศยานดอนเมืองก่อนเวลาเปิดเคาน์เตอร์เช็คอิน ราว 3-4 ชั่วโมง เพื่อระบายความแออัดบริเวณอาคารผู้โดยสาร เนื่องจากผู้โดยสารกรุ๊ปทัวร์นั้นมักจะมาก่อนเวลาเช็คอิน และก่อนหน้านี้ไม่มีพื้นที่รองรับ ทำให้เกิดความแออัดอยู่ที่อาคารผู้โดยสาร ซึ่งภายหลังเปิดให้บริการอาคารนี้ จะสามารถรองรับผู้โดยสารในความจุ 3,000 คน โดย ทอท.ยืนยันว่าอาคารนี้ปลอดภัย และมีการก่อสร้างคานรับน้ำหนักเพื่อกระจายไปที่เสาเข็มเดิมของอาคารแล้ว
ด้านตัวแทนของเอกชนคู่สัญญา บริษัท เพาเวอร์ไลน์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ PLE กล่าวว่า บริษัทฯ ได้รับผิดชอบในการซ่อมแซมความเสียหาย และปรับปรุงอาคาร เพิ่มความแข็งแรงให้กับอาคารตามข้อแนะนำของกระทรวงคมนาคม และผู้ทรงคุณวุฒิด้านวิศวกรรม ซึ่งบริษัทฯ ได้ใช้งบประมาณในการซ่อมแซมทั้งหมด 12.9 ล้านบาท และขอให้ผู้ใช้บริการมั่นใจในการใช้งานอาคาร Service Hall แห่งนี้