“สมาพันธ์เอสเอ็มอี” ชี้รายย่อยเผชิญ 7 ปัจจัยเสี่ยง 'ต้นทุนพุ่ง' เศรษฐกิจฝืด
“สมาพันธ์เอสเอ็มอี” ห่วง 7 ปัจจัยเสี่ยงกระทบธุรกิจ ต้นทุนสูงขึ้น เศรษฐกิจชะลอตัว วอนรัฐทบทวนกลไกดอกเบี้ยให้กลุ่มเปราะบางเข้าถึงแหล่งเงินทุนต้นทุนต่ำ ช่วยกลุ่มหนี้ครัวเรือน หนี้เสีย หนี้นอกระบบฟื้นตัวกลับมา
เครือเนชั่นจัดสัมมนา “อนาคตประเทศไทย : SME จะไปทางไหน” เมื่อวันที่ 15 ก.พ.2566 โดยมีผู้แทนภาครัฐภาคเอกชนและสถาบันการเงินร่วมนำเสนอแนวทางผลักดันธุรกิจเอสเอ็มอีเพื่อให้มีพลังงานขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ
นายแสงชัย ธีรกุลวาณิช ประธานสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย กล่าวว่า โครงสร้างผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยไม่ได้มีแค่ 3.2 ล้านคน แต่ยังมีกลุ่มเอสเอ็มอีแฝงอยู่ในส่วนอื่น คือกลุ่มเกษตรกร 10 ล้านคน รวมทั้งเอสเอ็มอีที่มีการจ้างงาน 11 ล้านคน ถือเป็นกลุ่มเศรษฐกิจฐานรากที่เป็นหัวใจสำคัญของประเทศ
ในวันนี้ยังมีความเสี่ยงที่รายล้อมหลายด้าน เช่น การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การแพร่ระบาดโควิด-19 ที่ยังไม่จบ เศรษฐกิจโลกถดถอย ซึ่งเรามองทางรอดของเอสเอ็มอี คือ เรื่องของเศรษฐกิจพอเพียง เศรษฐกิจสร้างสรรค์ เศรษฐกิจดิจิทัล โมเดลบีซีจี และการยกระดับสู่ S-Curve ถัดไป
นอกจากนี้ เอสเอ็มอี ยังมีปัญหาที่ต้องตระหนักประกอบด้วย วิกฤติ 5 ด้านคือ สุขภาพ, สงคราม, เศรษฐกิจ, สังคม และสิ่งแวดล้อม
รวมทั้งมี 7 ปัจจัยเสี่ยง ได้แก่ รายได้ลด, ต้นทุนเพิ่ม-พลังงานแพง, ค่าครองชีพสูง, เงินเฟ้อ-เศรษฐกิจฝืด, หนี้เพิ่ม, คนว่างงานเพิ่มและค่าแรงเพิ่ม-ขาดแรงงานที่มีทักษะ
นอกจากนี้ยังมี 3 ระเบิดเวลาที่กำลังรอระเบิด คือ หนี้ครัวเรือน หนี้เสีย และหนี้นอกระบบ ซึ่งทำให้กลุ่มเอสเอ็มอียังฟื้นกลับมาไม่ได้ โดยเฉพาะผู้ประกอบการรายย่อย
“ปัญหาหนี้บางส่วนเป็นหนี้ด้อยคุณภาพที่ขาดวินัยทางการเงิน ซึ่งปัจจุบันมีกลุ่มหนี้เสียกว่า 2.1 ล้านราย ตรงนี้รัฐจะมีกลไกอย่างไรเพื่อเข้าไปช่วยเหลือให้คนกลุ่มนี้ฟื้นตัวกลับมา และทบทวนกลไกให้กลุ่มเปราะบางที่มีความเสี่ยงสูงมีแต้มต่อและได้รับดอกเบี้ยต่ำ ปัจจุบันดอกเบี้ยของกลุ่มรายย่อยสูงกว่ารายใหญ่หลายเท่าตัว ทำให้กลุ่มนี้เป็นเพียงการทำงานหาใช้หนี้”
ทั้งนี้ การผลักดันนโยบายต่างๆ ของภาครัฐสำหรับกลุ่มเอสเอ็มอีต้องแก้ปัญหาเป็นรายเซคเตอร์และเป็นโฟกัสกลุ่มซึ่งแต่กลุ่มมีความต้องการที่ต่างกัน ให้เอสเอ็มอีไม่เจอทางตัน
สำหรับแนวทางที่เอสเอ็มอีมองเป็นทางรอด ประกอบด้วย เศรษฐกิจบีซีจี เน้นกลไกเศรษฐกิจหมุนเวียน มุ่งลดการพึ่งพาการนำเข้า การสร้างความยั่งยืนร่วมกับนวัตกรรมใส่ในธุรกิจเอสเอ็มอี รวมทั้งเชื่อมโยงกลไกทางการเงินและแผนการพัฒนาประเทศให้สอดคล้องกัน