ญี่ปุ่นขาดดุลการค้าสูงเป็นประวัติการณ์ในเดือนม.ค. หลังส่งออกชะลอตัว
กระทรวงการคลังญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า ยอดส่งออกเดือนม.ค.ขยับขึ้นเพียง 3.5% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งชะลอตัวลงอย่างมากจากเดือนธ.ค.ที่พุ่งขึ้น 11.5% เนื่องจากความต้องการสินค้าญี่ปุ่นในตลาดจีนอ่อนแรงลง
ขณะที่ยอดนำเข้าเดือนม.ค.เพิ่มขึ้น 17.8% หลังจากที่ปรับตัวขึ้น 20.7% โดยได้แรงหนุนจากการนำเข้าน้ำมันดิบ ถ่านหิน และก๊าซธรรมชาติเหลวที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก ซึ่งส่งผลให้ญี่ปุ่นขาดดุลการค้าในเดือนม.ค.สูงเป็นประวัติการณ์ถึง 3.49 ล้านล้านเยน (2.607 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ)
เมื่อพิจารณาเป็นรายประเทศพบว่า ยอดส่งออกสินค้าจากญี่ปุ่นไปยังประเทศจีนซึ่งเป็นคู่ค้ารายใหญ่สุดของญี่ปุ่นนั้น ลดลง 17.1% ในเดือนม.ค. เมื่อเทียบเป็นรายปี โดยถูกฉุดจากยอดส่งออกรถยนต์ ชิ้นส่วนรถยนต์ และอุปกรณ์ผลิตชิปที่ปรับลงอย่างมาก
ส่วนยอดส่งออกสินค้าจากญี่ปุ่นไปยังสหรัฐพุ่งขึ้น 10.2% โดยได้แรงหนุนจากความแข็งแกร่งของอุปสงค์รถยนต์, เครื่องจักรสำหรับอุตสาหกรรมเหมืองแร่ และเครื่องจักรสำหรับการถลุงโลหะ
การเปิดเผยข้อมูลการค้าในวันนี้มีขึ้นหลังจากญี่ปุ่นเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 4/2565 ขยายตัวเพียง 0.6% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าอาจจะขยายตัว 2.0% และบ่งชี้ว่าธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) กำลังเผชิญกับความท้าทายในการกระตุ้นอุปสงค์ภาคเอกชนเพื่อให้บรรลุเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจ ในขณะเดียวกันก็ต้องพยุงเงินเฟ้อให้อยู่เหนือเป้าหมายของ BOJ ที่ระดับ 2% อย่างยั่งยืน