คลังย้ำ 3 ช่องทางยืนยันสิทธิบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
คลังย้ำ 3 ช่องทาง ยืนยันสิทธิบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ พร้อมอัปเดตยอดยืนยันสิทธิวันนี้เกือบ 5 แสนราย และยอดอุทธรณ์สิทธิกว่า 1.7 แสนราย
นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่าวันที่ 1 มีนาคม 2566 เป็นวันแรกของการประกาศผลการพิจารณาคุณสมบัติโครงการลงทะเบียนเพื่อบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 (โครงการฯ)
สำหรับความคืบหน้าการยืนยันตัวตนของผู้ที่ผ่านการพิจารณาคุณสมบัติ และการยื่นอุทธรณ์ผลการพิจารณาคุณสมบัติของผู้ที่ไม่ผ่านเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติ ณ วันที่ 1 มีนาคม 2566 เวลา 17.00 น. พบว่า มีผู้ผ่านการพิจารณาคุณสมบัติยืนยันตัวตน จำนวน 495,035 ราย และผู้ลงทะเบียนที่ไม่ผ่านเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติยื่นอุทธรณ์ผลการพิจารณาคุณสมบัติ จำนวน 172,097 ราย
ในการนี้ การตรวจสอบผลการพิจารณาคุณสมบัติสามารถดำเนินการได้ 3 ช่องทาง ดังนี้
1. ตรวจสอบผลการพิจารณาคุณสมบัติผ่านทางเว็บไซต์ https://บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ.mof.go.th หรือhttps://welfare.mof.go.th ได้ตั้งแต่เวลา 6.00 น. ถึง 23.00 น. ของทุกวัน
2.ตรวจสอบผลการพิจารณาคุณสมบัติผ่านหน่วยงานรับลงทะเบียนทั้ง 7 หน่วยงาน ได้แก่
สาขาของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ธนาคารออมสิน ธนาคารกรุงไทยจำกัด (มหาชน)
สำนักงานคลังจังหวัดทั้ง 76 จังหวัดทั่วประเทศ สังกัดกรมบัญชีกลาง ที่ว่าการอำเภอทั้ง 878 อำเภอทั่วประเทศ ภายใต้กระทรวงมหาดไทย สำนักงานเขตกรุงเทพมหานคร ทั้ง 50 เขต และศาลาว่าการเมืองพัทยา ตามวันและเวลาทำการของแต่ละหน่วยงาน
สำหรับการตรวจสอบผลการพิจารณาคุณสมบัติในช่วงวันหยุดเสาร์ – อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ให้ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของหน่วยงานรับลงทะเบียนแต่ละแห่ง
3. ตรวจสอบผลการพิจารณาคุณสมบัติ โดยสามารถโทรศัพท์สอบถามได้ที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ Call Center โครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (โทร.02 109 2345) สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง(โทร.09 4858 9794) และสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (โทร.02 273 9020 ต่อ 3502, 3503, 3506, 3536, 3542, 3518 หรือโทร.08 5842 7102 , 08 5842 7103, 08 5842 7104 ,08 5842 7105, 08 5842 7106,08 5842 7107) ในช่วงวันจันทร์ – วันศุกร์ ตามเวลาทำการของแต่ละหน่วยงาน
สำหรับผู้ลงทะเบียนโครงการฯ ที่ตรวจสอบผลแล้วเป็นผู้ผ่านการพิจารณาคุณสมบัติ ขอให้ดำเนินการยืนยันตัวตน โดยสามารถดำเนินการได้ ดังนี้
1. ผู้ลงทะเบียนโครงการฯ ที่ผ่านการพิจารณาคุณสมบัติสามารถไปยืนยันตัวตนได้ที่
(1) ธนาคารกรุงไทยฯ
(2) ธนาคารออมสิน หรือ
(3) ธ.ก.ส. ได้ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2566 เป็นต้นไป
ทั้งนี้ จะต้องนำบัตรประจำตัวประชาชนอเนกประสงค์ (Smart Card) เพื่อใช้ในการยืนยันตัวตนด้วย ณ ธนาคารดังกล่าว
ตามวันและเวลาทำการของแต่ละธนาคาร
2.เมื่อยืนยันตัวตนเสร็จเรียบร้อยแล้วจะสามารถตรวจสอบสถานะการยืนยันตัวตนของตนเองผ่านทางเว็บไซต์ https://บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ.mof.go.th หรือ https://welfare.mof.go.th ในวันถัดไป หรือติดต่อสอบถามเจ้าหน้าที่หน่วยงานรับลงทะเบียนทั้ง 7 หน่วยงาน หรือโทรศัพท์สอบถามได้ที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ทั้งนี้ ผู้ลงทะเบียนโครงการฯ ที่ผ่านเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติต้องดำเนินการผูกบัญชีพร้อมเพย์กับหมายเลขประจำตัวประชาชนกับธนาคารใดก็ได้ เนื่องจากการผูกบัญชีพร้อมเพย์ไว้ล่วงหน้าจะทำให้ผู้ได้รับสิทธิโครงการฯ สะดวกในการรับสิทธิสวัสดิการ หากกรณีที่ภาครัฐมีสวัสดิการที่จะโอนเข้าบัญชีในอนาคต
3.หากดำเนินการยืนยันตัวตนภายในวันที่ 1 – 26 มีนาคม 2566 และตรวจสอบพบว่า ผ่านการยืนยันตัวตน (e-KYC) จะสามารถใช้สิทธิสวัสดิการผ่านบัตรประจำตัวประชาชนได้ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2566
หากผู้ผ่านการพิจารณาคุณสมบัติยืนยันตัวตนหลังวันที่ 26 มีนาคม 2566 จะได้ใช้สิทธิสวัสดิการแห่งรัฐได้ตามวันที่กระทรวงการคลังกำหนด สำหรับผู้ได้รับสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐปัจจุบันจะสามารถใช้สิทธิสวัสดิการแห่งรัฐผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐได้จนถึงวันที่ 31 มีนาคม 2566 เท่านั้น
สำหรับผู้ลงทะเบียนที่ไม่ผ่านเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติ สามารถยื่นขออุทธรณ์ได้ตั้งแต่วันที่
1 มีนาคม - 1 พฤษภาคม 2566 (62 วัน) โดยดำเนินการผ่าน 2 ช่องทาง ดังนี้
1. ขออุทธรณ์ด้วยตนเองผ่านทางเว็บไซต์ https://บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ.mof.go.th หรือhttps://welfare.mof.go.th ได้ตั้งแต่เวลา 6.00 น. ถึง 23.00 น. ของทุกวัน หรือ
2. ขออุทธรณ์ผลการพิจารณาคุณสมบัติผ่านหน่วยงานรับลงทะเบียนทั้ง 7 หน่วยงาน ได้แก่
ธนาคารออมสิน ธนาคารกรุงไทยฯ ธ.ก.ส. สำนักงานคลังจังหวัดทุกจังหวัด ที่ว่าการอำเภอทุกอำเภอสำนักงานเขตกรุงเทพมหานคร หรือศาลาว่าการเมืองพัทยา ตามวันและเวลาทำการของแต่ละหน่วยงาน
โดยให้เจ้าหน้าที่หน่วยงานรับลงทะเบียนเป็นผู้ดำเนินการยื่นอุทธรณ์ผลการพิจารณาคุณสมบัติ ซึ่งผู้ไม่ผ่านการพิจารณาคุณสมบัติจะต้องแสดงบัตรประจำตัวประชาชนกับเจ้าหน้าที่หน่วยงานรับลงทะเบียนก่อนดำเนินการยื่นอุทธรณ์
ทั้งนี้ เมื่อผู้ลงทะเบียนที่ไม่ผ่านเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติได้ทำการยื่นขออุทธรณ์ตามขั้นตอนเรียบร้อยแล้ว หากประสงค์ขอตรวจสอบ และ/หรือขอแก้ไขข้อมูลขอให้ดำเนินการติดต่อที่หน่วยงานตรวจสอบคุณสมบัติที่ผู้ลงทะเบียนไม่ผ่านเกณฑ์การพิจารณาด้วยตนเอง หรือเป็นไปตามเงื่อนไขที่หน่วยงานตรวจสอบคุณสมบัติกำหนด เพื่อขอปรับปรุงหรือแก้ไขข้อมูลในกรณีที่ข้อมูลไม่ถูกต้องให้ถูกต้อง โดยจะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 1 พฤษภาคม 2566
สำหรับข้อมูลข่าวสาร และรายละเอียดโครงการฯ ประชาชนสามารถติดตามได้เพิ่มเติมที่เว็บไซต์ https://บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ.mof.go.th หรือ https://welfare.mof.go.th
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์