ยืนยันสิทธิ์ 'บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ' บางคนชื่อหาย เช็กที่นี่บอกหมดแก้ง่ายๆ
ประชาชนแห่ยืนยันสิทธิ์ "บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ" บางคนชื่อหาย ต้องยื่นอุทธรณ์ทำไงอย่างไร ชี้ 3 เหตุผลทำไมต้องไปธนาคาร กรุงไทย , ออมสิน และ ธ.ก.ส.
วันนี้วันแรกที่รัฐบาลโดยกระทรวงการคลัง เปิดให้ เช็กสถานะยืนยันสิทธิ์ "บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ" ที่ธนาคารกรุงไทย สาขาตรัง วันแรกของการเปิดยืนยันสิทธิ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
นอกจาก จะยืนยันผ่านระบบออนไลน์แล้ว ยังสามารถเดินทางไปยืนยันสิทธิ์ที่ธนาคาร 3 แห่ง คือ กรุงไทย , ออมสิน และ ธ.ก.ส. ประชาชนที่อาจจะไม่สะดวกในการยืนยันสิทธิ์ด้วยคนเองผ่านระบบออนไลน์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ผ่าน - ไม่ผ่าน การพิจารณาคุณสมบัติ ต้องทำไงต่อ เช็กเลย!
-
บัตรสวัสดิการแห่งรัฐบัตรคนจน 2566 เช็กสถานะยืนยันตัวตนใช้สิทธิ์
ทั้งนี้ พบว่าตลอดทั้งวันมีประชาชนจำนวนมากเดินทางไปที่ธนาคารด้วยเหตุผล 3 อย่าง คือ
1. ส่วนใหญ่ตรวจสอบรายชื่อแล้วพบว่าตัวเองมีสิทธิ์ จึงเดินทางไปยืนยันสิทธิ์ที่ธนาคารด้วยตนเอง เนื่องจากไม่ต้องห่วงความยุ่งยากหากทำด้วยตนเองไม่ได้ ซึ่งบางส่วนเป็นผู้สูงอายุ อาจไม่สะดวกที่จะยืนยันสิทธิ์ผ่านระบบออนไลน์ และไม่มีลูกหลานช่วย
2. บางคนยังไม่ตรวจสอบว่าตนเองมีรายชื่อหรือไม่ แต่ที่ผ่านมาได้รับบัตรทุกครั้ง จึงเดินทางมาให้เจ้าหน้าที่ช่วยตรวจสอบรายชื่อ หากมีชื่อก็ยืนยันสิทธิ์ในทันที
3. พบบางรายตรวจสอบแล้วไม่มีรายชื่อ ทั้งๆ ที่ผ่านมาได้รับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐมาต่ออย่างเนื่อง แต่ครั้งนี้รายชื่อตกหล่น จึงเดินทางมายื่นอุทธรณ์ ซึ่งที่ธนาคารก็มีเจ้าหน้าที่ให้คำแนะนำ และอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนอย่างเต็มที่ และแต่ละรายก็ใช้เวลาแค่ไม่นาทีก็ดำเนินการแล้วเสร็จอย่างรวดเร็ว สร้างความสบายใจแก่ประชาชนอย่างมาก
อย่างไรก็ตาม ประชาชนที่เดินทางไปยืนยันสิทธิ์ที่ธนาคาร แต่ละคนบอกว่าที่ผ่านมาเคยรับเงินช่วยเหลือผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ บางคนได้เดือนละ 200 , 300 , 500 บาท ซึ่งไม่เท่ากัน
บางคนสงสัยอยู่ในฐานะยากจนเหมือนกัน แต่ได้การจัดสรรเงินไม่เท่ากัน ไม่ทราบว่าเขาคิดอย่างไร ซึ่งเงินที่ได้ทั้งหมด นำไปซื้อสินค้าจำเป็น เช่น ข้าวสาร น้ำมัน ของใช้ในครัว แม้จะไม่มาก แต่ก็ช่วยบรรเทาปัญหาได้
ทั้งนี้ อยากให้รัฐเพิ่มจำนวนเงินช่วยเหลืออย่างน้อยคนละ 500 บาท จะได้มีเงินเพิ่มขึ้นในการซื้อสินค้าจำเป็นในครัวเรือน เพราะขณะนี้สินค้าทุกอย่างมีราคาแพง ทั้งข้าวสาร น้ำมัน และอื่นๆราคาสูงขึ้นมาก
ประกาศผลผ่าน-ไม่ผ่าน ขั้นตอนยืนยันตัวตนและยื่นอุทธรณ์
กรณีผ่านการพิจารณาคุณสมบัติ
ยืนยันตัวตนได้ที่ ธนาคารกรุงไทยฯ ธนาคารออมสิน และ ธ.ก.ส. ได้ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2566 เป็นต้นไป โดยจะต้องนำบัตรประจำตัวประชาชนอเนกประสงค์ (Smart Card) เพื่อใช้ในการยืนยันตัวตนด้วย
เมื่อยืนยันตัวตนเสร็จเรียบร้อยแล้วจะสามารถตรวจสอบสถานะการยืนยันตัวตนของตนเองผ่านทางเว็บไซต์กระทรวงการคลังในวันถัดไป หรือติดต่อสอบถามเจ้าหน้าที่หน่วยงานรับลงทะเบียนทั้ง 7 หน่วยงาน หรือโทรศัพท์สอบถามได้ที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ดำเนินการผูกบัญชีพร้อมเพย์กับหมายเลขประจำตัวประชาชนเพื่อรับสิทธิบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โดยสามารถผูกบัญชีพร้อมเพย์กับธนาคารใดก็ได้
สามารถใช้สิทธิสวัสดิการผ่านบัตรประจำตัวประชาชนได้ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2566 ในกรณีที่ผู้ผ่านการพิจารณาคุณสมบัติที่ยืนยันตัวตนสำเร็จตั้งแต่วันที่ 1-26 มีนาคม 2566 ส่วนในกรณีผู้ผ่านการพิจารณาคุณสมบัติที่ยืนยันตัวตนหลังวันที่ 26 มีนาคม 2566 จะได้ใช้สิทธิสวัสดิการแห่งรัฐตามที่กระทรวงการคลังกำหนด
กรณีไม่ผ่านการพิจารณาคุณสมบัติ
ผู้ลงทะเบียนสามารถยื่นขออุทธรณ์ผลการพิจารณาคุณสมบัติได้ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม - 1 พฤษภาคม 2566 ได้ตั้งแต่เวลา 6.00-23.00 น. ของทุกวันผ่าน 2 ช่องทาง ได้แก่
ยื่นอุทธรณ์ผ่านหน่วยงานรับลงทะเบียนทั้ง 7 หน่วยงาน ประกอบด้วย
ธนาคารออมสิน
ธนาคารกรุงไทยฯ
ธ.ก.ส.
สำนักงานคลังจังหวัดทุกจังหวัด
ที่ว่าการอำเภอทุกอำเภอ
สำนักงานเขตกรุงเทพมหานคร
ศาลาว่าการเมืองพัทยา
หลังจากดำเนินการยืนยันการขออุทธรณ์ตามขั้นตอนเรียบร้อยแล้ว จะต้องดำเนินการขอตรวจสอบและแก้ไขข้อมูลที่หน่วยงานตรวจสอบคุณสมบัติที่ผู้ลงทะเบียนไม่ผ่านเกณฑ์การพิจารณาด้วยตนเอง หรือเป็นไปตามเงื่อนไขที่หน่วยงานตรวจสอบคุณสมบัติกำหนด เพื่อขอปรับปรุงหรือแก้ไขข้อมูลในกรณีที่ข้อมูลไม่ถูกต้องให้ถูกต้อง โดยจะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 1 พฤษภาคม 2566
อ้างอิง - กระทรวงการคลัง