“ไทย” เร่งดึงบริษัทญี่ปุ่น ผนึกขยายฐานผลิต “อาเซียน”

“ไทย” เร่งดึงบริษัทญี่ปุ่น ผนึกขยายฐานผลิต “อาเซียน”

นักธุรกิจไทย-ญี่ปุ่น เปิดเวทีหารือความร่วมมือการค้าและการลงทุน ยกระดับสู่ความเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจทุกมิติ โดยญี่ปุ่นย้ำความสำคัญไทยเป็นฐานผลิตในอาเซียน พร้อมเดินหน้าลงทุนภายใต้ยุทธศาสตร์ Asia-Japan Investing for the Future หรือ AJIF และนโยบาย BCG ของไทย

การประชุมคณะกรรมการร่วมทางการค้าและเศรษฐกิจไทย-ญี่ปุ่น หรือ Thai-Japan Joint Trade and Economic Committee 2023 วันที่ 16 มี.ค.2566 ระหว่าง คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ร่วมกับ สมาพันธ์ธุรกิจญี่ปุ่น (เคดันเรน) ซึ่งเป็นองค์กรภาคเอกชนขนาดใหญ่ของญี่ปุ่น โดยทั้ง กกร. และ เคดันเรน ได้มีความร่วมมือที่ใกล้ชิดกันมาเป็นระยะเวลานาน โดยถือเป็นการประชุมครั้งที่ 24 และเป็นการจัดประชุมครั้งแรกในรอบ 8 ปี

เกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และประธาน กกร. เปิดเผยว่า ปีที่่ผ่านมาผู้นำญี่ปุ่นและไทยเจรจากันหลายครั้งนำไปสู่การเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ระหว่างไทยกับญี่ปุ่น โดยได้ยกระดับสถานะความสัมพันธ์จากหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ เป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์อย่างรอบด้าน ทำให้เกิดการริเริ่มและความร่วมมือที่เพิ่มหลายด้าน
 

“ด้วยนโยบายการลงทุนที่สอดคล้องในการมุ่งสู่เป้าหมายสังคมคาร์บอนต่ำ ทำให้นักลงทุนญี่ปุ่นให้ความสำคัญกับไทยในฐานะฐานการผลิตของภูมิภาคนี้ โดยเฉพาะการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมาย ยานยนต์ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ ออโตเมชั่น ยาและบีซีจี ด้วยจุดแข็งของไทยด้านความพร้อมโลจิสติกส์ รวมทั้งการเร่งผลักดันเรื่อง ease of doing business ซึ่งจะมุ่งไปสู่การบริการในระบบดิจิทัลมากขึ้น" 

ครั้งนี้เป็นการยกระดับความสัมพันธ์จากความไว้วางใจที่ยาวนาน สู่การเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจร่วมมือกันทุกมิติ โดยให้น้ำหนักคนไทยได้มีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์ co-creation โมเดลใหม่ซึ่งจะขยายความร่วมมือไปยังทุกอุตสาหกรรม

สำหรับการประชุมร่วมกันในครั้งนี้ เคดันเร็น ได้จัดตั้งคณะกรรมการเพื่อส่งเสริมความร่วมมือของภาคเอกชนไทย-ญี่ปุ่น โดยมีบริษัทใหญ่ของญี่ปุ่นเข้าร่วมจำนวนมาก และเป็นโอกาสที่จะนำไปสู่การแลกเปลี่ยนความรู้ ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ ที่ทั้ง 2 ฝ่ายสนใจร่วมกัน รวมทั้งผู้แทนฝ่ายไทยและญี่ปุ่นได้เห็นชอบลงนามความร่วมมือ (MOU) ประกอบด้วย 

1.การแลกเปลี่ยนเรียนรู้สภาพแวดล้อมทางธุรกิจ และแนวโน้มการลงทุนของไทยและญี่ปุ่น

2.การกำหนดทิศทางความร่วมมือทางธุรกิจของทั้งสองประเทศ

3.การส่งเสริมการค้าการลงทุนทวิภาคีระหว่างไทยและญี่ปุ่น ซึ่งจะส่งเสริมความร่วมมือให้มีความใกล้ชิดกันมากขึ้น รวมถึงผลักดันประเด็นที่ทั้งสองฝ่ายให้ความสำคัญต่อไป

ความร่วมมือ ไทย-ญี่ปุ่น กอบศักดิ์ ดวงดี เลขาธิการสมาคมธนาคารไทย กล่าวว่า ทั้ง 2 ฝ่าย ได้ร่วมให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์และนำไปสู่การหารือเชิงลึกในมีประเด็นที่ที่มีความสนใจร่วมกัน เป็นหัวข้อที่สะท้อนถึงมุมมองที่กว้างขวางและหลากหลายของพัฒนาการทางด้านเศรษฐกิจในยุคปัจจุบันของทั้งสองประเทศ ได้แก่ เศรษฐกิจ BCG, การบริหารจัดการพลังงานสะอาด, การลงทุนด้านอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า, การบริหารจัดการด้านโลจิสติกส์ การขยายการผลิตในไทย รวมทั้งการพัฒนาศักยภาพการค้าระหว่างประเทศผ่านระบบดิจิทัล