รัฐได้ฤกษ์ 24 มี.ค.หั่น ‘ดีเซล’ เหลือ 33.50 บาท/ลิตร
กบน.ปรับลดราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลลงอีก 50 สตางค์ เหลือ 33.50 บาท/ลิตร มีผลตั้งแต่วันศุกร์ที่ 24 มีนาคม นี้ หลังราคาน้ำมันโลกปรับตัวลดลงและกระทรวงการคลังลดภาษีสรรพสามิตต่อจนถึงเดือนกรกฎาคม ล่าสุดสถานะกองทุนน้ำมันฯ ติดลบลดลงเหลือ 9.9 หมื่นล้านบาท
ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง วิศักดิ์ วัฒนศัพท์ ระบุ ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง หรือ กบน. เห็นชอบปรับลดราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลลงอีก 50 สตางค์ ส่งผลให้ราคาขายปลีกดีเซลอยู่ที่ 33.50 บาท/ลิตร โดยราคาขายปลีกดีเซลใหม่นี้จะมีผลตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคม 2566 เป็นต้นไป ซึ่งการปรับลดครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 3 หลังจากช่วงเดือนกุมภาพันธ์ปรับลดไปแล้ว 2 ครั้งรวม 1 บาท/ลิตร
เนื่องจากค่าเฉลี่ยราคาน้ำมันเชื้อเพลิงตลาดโลกโดยเฉพาะน้ำมันดีเซลลดลงแต่ไม่มากนัก และยังมีปัจจัยผันผวนอีกหลายด้านที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด โดยเดือนมกราคมเฉลี่ยอยู่ที่ 114 ดอลลาร์/บาร์เรล กุมภาพันธ์ 103 ดอลลาร์/บาร์เรล และ 1 – 15 มีนาคม เฉลี่ย 102 ดอลลาร์/บาร์เรล
รวมถึงการขยายระยะเวลาปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลลงลิตรละ 5 บาท ออกไปอีก 2 เดือน ตั้งแต่วันที่ 21 พฤษภาคม - 20 กรกฎาคม 2566
และสถานะของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเริ่มดีขึ้นมีฐานะติดลบต่ำกว่าหลักแสนล้านบาทแล้ว จึงเห็นควรปรับลดราคาขายปลีกดีเซลให้กับประชาชน ซึ่งนอกจากจะช่วยประคับประคองค่าครองชีพประชาชนแล้ว ยังมีส่วนช่วยไม่ให้ราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลเพิ่มสูงขึ้นจนเป็นอุปสรรคต่อการฟื้นตัวเศรษฐกิจของประเทศอีกด้วย
ทั้งนี้ ความผันผวนของราคาน้ำมันยังคงมีหลายปัจจัย โดยมีเหตุการณ์สำคัญๆ หลายด้านที่ทำให้ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงผันผวนปรับขึ้นลง อาทิ ประเทศรัสเซียปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน 5 แสนบาร์เรล/วันในเดือนมีนาคมนี้ หรือคิดเป็น 5% ของปริมาณการผลิตทั้งหมด
การขยายตัวทางเศรษฐกิจของจีนหลังเปิดประเทศ ธนาคารกลางสหรัฐฯ ส่งสัญญาณปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นอีก ความผันผวนค่าเงินดอลลาร์ และกรณีรัฐบาลสหรัฐฯ สั่งปิดกิจการของซิลิคอน วัลเลย์ แบงก์ (SVB) และซิกเนเจอร์ แบงก์ (SB) รวมทั้งสถานะการเงินที่ต้องการความช่วยเหลือของธนาคารเครดิตสวิส ที่เป็นธนาคารรายใหญ่อันดับ 2 ของสวิตเซอร์แลนด์
สำหรับฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงล่าสุด ณ วันที่ 12 มีนาคม 2566 กองทุนฯ ติดลบ 9.9 หมื่นล้านบาท