'สุพัฒนพงษ์'รับรัฐบาลรักษาการลดค่าไฟไม่ได้ แต่พร้อมดูแลกลุ่มเปราะบาง
“สุพัฒนพงษ์” รับค่าไฟ 4.77 บาท/หน่วย งวด พ.ค. - ส.ค. ไม่สามารถเปลี่ยนได้ ต้องยืนตามมติ กกพ. รับเป็นรัฐบาลรักษาการทำอะไรไม่ได้มาก แต่พร้อมเสนอดูแลค่าไฟกลุ่มเปราะบางโดยจะขอความเห็นชอบทั้ง ครม.และส่ง กกต.โต้ “มิ่งขวัญ” ลดก๊าซหุงต้มเหลือ 250 บาททำได้แต่เป็นภาระประเทศ
นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน กล่าวถึงอัตราค่าไฟฟ้าที่คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ประกาศอัตราค่าไฟฟ้าเดือน พ.ค. - ส.ค.ปีนี้ที่ 4.77 บาทต่อหน่วย เหลืออัตราเดียวทั้งภาคครัวเรือนและภาคอุตสาหกรรม
โดยในส่วนของภาคครัวเรือนนั้นค่าไฟฟ้าปรับขึ้น 0.05 สตางค์ต่อหน่วยว่าในเรื่องนี้ได้รับรายงานมาจาก กกพ.แล้ว ได้มีการสอบถามข้อมูลว่าการคำนวณอัตราค่าไฟนั้นทำถูกต้องหรือไม่ ทั้งในส่วนต้นทุนของการผลิตไฟฟ้า และในส่วนที่คำนวณที่เกี่ยวข้องกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิต (กฟผ.)
เมื่อถามว่าอัตราค่าไฟที่ 4.77 บาทต่อหน่วยนั้นถือว่าเพิ่มขึ้นซึ่งต่างจากที่รัฐบาลเคยบอกว่าจะตรึงค่าไฟฟ้าเอาไว้สำหรับภาคครัวเรือนที่ 4.72 บาทต่อหน่วย นายสุพัฒนพงษ์กล่าวว่าต้องยอมรับว่าทำอะไรไม่ได้มากเนื่องจากตอนนี้เป็น ครม.รักษาการแล้วไม่ได้มีอำนาจเต็ม
อย่างไรก็ตามในส่วนของค่าไฟฟ้าที่ช่วยเหลือกลุ่มเปราะบาง ที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หน่วยต่อเดือนที่รัฐบาลได้ช่วยเหลือมาต่อเนื่องและได้มีการของบประมาณจากงบกลางรายการสำรองจ่ายกรณีฉุกเฉินและจำเป็นปี 66 ไว้ช่วยเหลือประชาชนในเดือน เม.ย.แล้ว หลังจากนั้นในเดือนต่อๆไปก่อนที่จะมีรัฐบาลใหม่รัฐบาลก็พร้อมจะเสนอ ครม.เพื่อของบกลางฯเพิ่มเติม
โดยเมื่อ ครม.อนุมัติแล้วก็จะขอความเห็นชอบในการใช้งบประมาณจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (ก.ก.ต.) เพื่อให้สามารถใช้งบประมาณในส่วนนี้ได้
สำหรับกรณีที่นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ที่ปรึกษานโยบายของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงนโยบายลดราคาแก๊สหุงต้ม 15 กิโลกรัม เหลือถังละ 250 บาท นั้นก็ต้องถามว่าทำได้จริงหรือไม่ เพราะทำแล้วมีค่าใช้จ่ายมาก
“ใครอยากจะพูดอะไรก็ต้องดูว่า ทำแล้วเหมาะสมหรือไม่ และเป็นภาระประเทศหรือไม่ พูดแล้วแล้วก็ต้องรับผิดชอบด้วย”นายสุพัฒนพงษ์ กล่าว