'อรรถพล' ให้คำมั่นผู้ถือหุ้น ปตท. ผลดำเนินงานปี 66 เติบโต ธุรกิจน้ำมันไปดี
“อรรถพล” ให้คำมั่นผู้ถือหุ้น ผลดำเนินงานปี 2566 เติบโต ปัจจัยเศรษฐกิจฟื้น ธุรกิจน้ำมันยังไปได้สวย กำลังผลิตก๊าซในอ่าวไทยเพิ่มขึ้น ผู้ถือหุ้น ปตท. ไฟเขียวจ่ายงานปันผลงวดครึ่งหลังปี 2565อัตราหุ้นละ 0.70 บาท กำหนดจ่าย 28 เม.ย.นี้
นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวในที่ประชุมผู้ถือหุ้นประจำปี 2566 ว่า ที่ประชุมกว่า 99% รับทราบและรับรองผลการดำเนินงานกลุ่ม ปตท. ปี 2565 ที่ 3,367,203 ล้านบาท
ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 91,175 ล้านบาท โดยได้จัดสรรกำไรสุทธิสำรองเพื่อกองทุนประกันวินาศภัยจำนวน 21 ล้านบาท และเสนอจ่ายปันผลสำหรับผู้ประกอบการปี 2565 ให้กับผู้ถือหุ้นในอัตรา 2 บาทต่อหุ้น คิดเป็น 63% ของกำไรสุทธิ
ทั้งนี้ คณะกรรมการฯ เห็นสมควรเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาอนุมัติการจัดสรรกําไรสุทธิ และการจ่ายเงินปันผลสําหรับผลประกอบการปี 2565 ในอัตราหุ้นละ 2.00 บาท จํานวน 28,562,996,250 หุ้นรวมเป็นจํานวน 57,126 ล้านบาท ซึ่งเมื่อหักเงินปันผลระหว่างกาล
สําหรับผลประกอบการครึ่งแรกของปี 2565 ในอัตราหุ้นละ 1.30 บาท ซึ่งคิดเป็นจํานวน เงิน 37,132 ล้านบาท ที่ได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลดังกล่าวให้กับผู้ถือหุ้น เมื่อวันที่ -5- 12 ตุ.ค. 2565 แล้ว (เงินปันผลระหว่างกาลดังกล่าวจ่ายจากกําไรสะสมที่ยังไม่ได้ จัดสรรในส่วนของกําไรสุทธิที่ผ่านการเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลในอัตรา 20%
โดยผู้ถือหุ้นประเภทบุคคลธรรมดาได้รับสิทธิเครดิตภาษีเงินปันผลตามมาตรา 47 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร และกําไรจากเงินปันผลจากบริษัท ปตท. สํารวจและผลิต ปิ โตรเลียม จํากัด (มหาชน) (ปตท. สผ.) ที่ผ่านการเสียภาษีเงินได้ปิ โตรเลียมในอัตรา 50% ผู้ถือหุ้นจะไม่ได้รับสิทธิเครดิตภาษีเงินปันผล) และมีเงินปันผลที่จะจ่าย
อย่างไรก็ตาม กลุ่มปตท. มีสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง โดยคาดการณ์ว่า การดำเนินงานกลุ่มปตท. ปี 2566 จะยังเติบโต โดยหากจำแนกตามกลุ่มธุรกิจ อาทิ
ธุรกิจขุดเจาะและสำรวจฯ ที่รายได้จะขึ้นตรงกับราคาน้ำมันตลาดโลก โดยปีนี้จะยังอยู่ในระดับราคาที่สูง เพราะวิกฤติสงครามทางการเมืองรัะหว่างรัสเซียและยูเครนที่ยังไม่หมดไป อีกทั้ง กลุ่มโอเปกพลัส ได้ประกาศลดอัตรากำลังผลิตน้ำมันลงทำให้ราคาจะยังคงขึ้นสูงอยู่
นอกจากนี้ การที่ บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) มีแนวโน้มในการผลิตก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทย โดยเฉพาะแหล่งเอราวัณได้มากขึ้น จากปัจจุบันมีกำลังผลิตในปริมาณ 200 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน จะเพิ่มในช่วงกลางปี 2565 เป็น 400 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน และช่วงปลายปี 2566 จะเป็น 600 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน
ส่วนธุรก๊าซฯ ถือว่ามีแนวโน้มดีขึ้น จะต่างจากปี 2565 ที่ไม่ค่อยดี เนื่องจากต้นทุนราคาก๊าซที่สูงมาก อีกทั้ง เมื่อมีก๊าซฯ จากอ่าวไทยเพิ่มขึ้นกลางปีนี้ และราคานำเข้า LNG สปอร์ตที่อ่อนตัวลง บวกกับการจำหน่ายที่เพิ่มขึ้นจากเศนษฐกิจฟื้น
ธุรกิจปิโตรเคมี ในปีนี้มองว่าจะมีการดำเนินงานใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา อีกทั้ง โรงงานปีที่ผ่านมาได้ชัตดาวน์ไปหลายที่ ซึ่งปีนี้เศรษฐกิจดีขึ้น ปริมาณผลิตจะดีขึ้นเช่นกัน
ธุรกิจโรงกลั่น ในปีนี้ การซื้อน้ำมันดิบอาจจะไม่ใช่ราคาที่ระบุในตลาดเหมื่อนปีที่ผ่านมาที่เรียกว่า ราคาพรีเมียม ที่ค่อนข้างสูง แม้ว่าปีนี้ค่าการกลั่นจะลดลง แต่จะเจอค่าพรีเมียมน้อยลงเช่นกัน อีกทั้ง การผลิตก็จะเพิ่มมากขึ้นเช่นกัน
ธุรกิจน้ำมัน ผ่าน บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR จะเติบโตได้จากภาวะเศรษฐกิจที่ดีขึ้น ส่วนธุรกิจไฟฟ้า ก็จะดีขึ้นเช่นกัน เนื่องจากต้นทุนก๊าซในการผลิตไฟฟ้าจะลดลง
สำหรับข้อสอบถามประเด็นในเรื่องของกำไรไตรมาส 3 ปี 2565 ลดลง นั้น จะเห็นได้ชัดเจนว่าผลดำเนินงานครึ่งปีแรกของปี 2565 ราคาน้ำมัน ปิโตรเคมี สูงมาก มาจากปัจจัยสงครามรัสเซีย-ยูเครน ซึ่งผลดำเนินงานไตรมาส 1-2 ปี 2565 ดีจริง และไตรมาส 3 ผลดำเนินงานลดลง ปัจจัยส่งผลกระทบในเชิงลบ ตามราคาน้ำมันตลาดโลกที่ลดลง
อีกทั้ง โรงแยกก๊าซฯ อิงราคาน้ำมันตลาดโลกเช่นกัน โดยไตรมาส 3 ค่าการกลั่นลดลง ปิโตรเคมีก็ลดลง กลุ่ม ปตท.ขาดทุนจากสต็อกน้ำมัน และอีกปัจจัยสำคัญ คือค่าเงินบาที่อ่อนตัวลงถึง 2 บาท ต่อดอลลาร์