อคส.ชนะคดีทุจริตโครงการรับจำนำสินค้าเกษตร
อคส. เฮ ศาลตัดสินชนะคดีแพ่งทุจริตจำนำข้าวโพด 1 คดี และข้าวเปลือกอีก 1 คดี ได้เงินชดใช้ความเสียหาย 245 ล้านบาท แต่ยังไม่ครบ เดินหน้าอุทธรณ์ต่อ ขณะที่พนักงานอคส.เอี่ยวทุจริต ป.ป.ท.ชี้มูลความผิด และผิดวินัยร้ายแรง ไล่ออกแล้ว 18 ราย
นายเกรียงศักดิ์ ประทีปวิศรุต ผู้อำนวยการ องค์การคลังสินค้า (อคส.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการดำเนินคดีแพ่ง และอาญาผู้เกี่ยวข้องกับการทุจริตโครงการรับจำนำสินค้าเกษตร ทั้งข้าวเปลือก มันสำปะหลัง ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และอื่นๆ เฉพาะในส่วนที่อคส.รับผิดชอบตั้งแต่ปี 24 ว่า เมื่อวันที่ 31 มี.ค.66 ศาลปกครองกลาง ได้อ่านคำพิพากษาให้อคส.ชนะคดีที่อคส.ได้ฟ้องแย้งเจ้าของคลังสินค้าฝากเก็บข้าวโพด ในโครงการรับจำนำข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ปี 51/52 เมื่อเดือนมี.ค.64 เรียกค่าเสียหายรวม 812 ล้านบาท หลังจากเจ้าของคลังรายนี้ได้ฟ้องร้องอคส.เมื่อเดือนมี.ค.62 เรียกเงินค่าฝากเก็บข้าวโพด 100 ล้านบาท รวมดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี
“อคส. ชนะคดีนี้ ได้รับชดใช้ค่าเสียหาย 240 ล้านบาท ยังมีผลต่างอีกกว่า 572 ล้านบาท ซึ่งจะอุทธรณ์ในชั้นศาลปกครองสูงสุด มั่นใจว่า มีข้อมูลเพิ่มเติมและหลักฐานสำคัญเรียกเก็บเงินเติมให้ครบแน่นอน เพื่อรักษาผลประโยชน์ของราชการ ถือเป็นวิบากกรรมของอคส. ที่ต้องสะสางคดีไม่สิ้นสุด เพราะยังมีงานบังคับคดี และพิทักษ์ทรัพย์ล้มละลายอีกจำนวนมาก ที่จะต้องดำเนินการ”
นอกจากนี้ ก่อนหน้านี้ ศาลปกครองสูงสุดได้พิพากษาให้ อคส. ชนะคดีทุจริตโครงกรจำนำข้าวเปลือกปี 48/49 อีก 1 คดี ได้ทุนทรัพย์ 5.67 ล้านบาท และศาลจังหวัดหลังสวน ได้ออกหมายบังคับคดี ยึดอายัดทรัพย์สินจากคู่สัญญาซื้อขายทุเรียนกับ อคส. 27.04 ล้านบาท ซึ่ง อคส. จะเร่งบังคับคดีเรียกชำระคืนความเสียหายต่อไป
สำหรับโครงการรับจำนำข้าวโพด ปี 51/52 ใช้งบประมาณ 8,350 ล้านบาท รับจำนำข้าวโพด 1 ล้านตัน กิโลกรัม (กก.) ละ 8.20 บาท และ 8.50 บาท อคส. ขาดทุนจากการดำเนินการ 6,300 ล้านบาท และได้ฟ้องร้องดำเนินคดีผู้เกี่ยวข้องกับการทุจริต 5 คดี ความเสียหาย 1,449 ล้านบาท ซึ่ง อคส. ชนะแล้ว 3 คดี
นายเกรียงศักดิ์ กล่าวอีกว่า โครงการรับจำนำสินค้าเกษตร ตั้งแต่ปี 24 เฉพาะที่ดำเนินการ โดยอคส. มี 37 โครงการ ซึ่งอคส.ได้ฟ้องร้องดำเนินคดี ทั้งแพ่ง และอาญา ประมาณ 1,400 คดี ความเสียหาย 526,048 ล้านบาท หากรวมผลขาดทุนจากการขายสินค้าเกษตรในโครงการจำนำอีก 584,337 ล้านบาทแล้ว อคส.มีความเสียหายสูงถึง 1.11 ล้านล้านบาท ในจำนวนนี้ เป็นความเสียหายจากโครงการปี 51 และปี 54-57 รวม 9 โครงการ รวม 1.05 ล้านล้านบาท แบ่งเป็น ผลขาดทุนที่เกิดขึ้นแล้ว 522,085 ล้านบาท และอยู่ระหว่างฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายอีก 524,394 ล้านบาท
สำหรับคดีฟ้องร้องประมาณ 1,400 คดีนั้น เป็นคดีทุจริตจำนำข้าวปี 51-57 รวม 1,179 คดี ความเสียหาย 503,809 ล้านบาท อคส.ชนะคดีแพ่ง 37 คดี เงินชดเชย 2,345 ล้านบาท, คดีทุจริตมันสำปะหลังปี 51-57 รวม 172 คดี ความเสียหาย 20,585 ล้านบาท อคส.ชนะ 85 คดี ชดเชย 6,060 ล้านบาท, คดีทุจริตข้าวโพด ปี 51-57 รวม 5 คดี ความเสียหายกว่า 1,449 ล้านบาท อคส.ชนะ 3 คดี และทุจริตจำนำสินค้าเกษตรอื่นๆ ตั้งแต่ปี 24 อีก 20 คดี ความเสียหายกว่า 204 ล้านบาท
“โครงการรับจำนำแทบทุกโครงการ ล้วนเกิดทุจริตและการเอารัดเอาเปรียบ แสวงหาผลประโยชน์โดยคนกลุ่มเล็กๆ กลุ่มเดียว แต่สร้างความเสียหายและสร้างภาระให้คนรุ่นต่อไปมากมาย โดยเฉพาะ อคส. ที่ไม่รู้ชะตากรรมตัวเองว่าจะพ้นวิบากกรรมนี้เมื่อไหร่” นายเกรียงศักดิ์ กล่าว
ขณะที่การเอาผิดเจ้าหน้าที่อคส.ที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตในโครงการจำนำสินค้าเกษตรนั้น สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ได้ชี้มูลความผิดจำนวนมาก ซึ่งมีความผิดวินัยร้ายแรงถึงขั้นไล่ออกแล้ว 18 ราย แต่ได้มีการฟ้องร้องอคส.ต่อศาลแรงงาน รวม 6 คดี และศาลตัดสินให้กลับเข้าทำงานในอคส.แล้ว 1 ราย