ตรวจสอบ 'ประกันรายได้เกษตรกร' 65/66 งวด 6 จ่ายส่วนต่าง ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์
ตรวจสอบ "ประกันรายได้เกษตรกร" ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปี 65/66 งวดที่ 6 กรมการค้าภายใน ประกาศเกณฑ์กลางอ้างอิง เคาะงดจ่ายเงินส่วนต่าง ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ หลังราคาตลาดพุ่งเกินราคาประกันรายได้ข้าวโพด
ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2566 เห็นชอบให้ดำเนินโครงการ "ประกันรายได้เกษตรกร" ผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปี 2565/66 กรอบวงเงินงบประมาณ 716.10 ล้านบาท มีเกษตรกรได้รับประโยชน์ประมาณ 0.20 ล้านราย พื้นที่เพาะปลูก "ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์" 6.95 ล้านไร่
โดยประกาศของคณะอนุกรรมการกำกับดูแลและกำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2566 งวดที่ 1-5 สำหรับเกษตรกรที่แจ้งวันเก็บเกี่ยวก่อนวันที่ 20 พฤศจิกายน 2565 ถึงวันที่ 19 มีนาคม 2566 จำนวน 245,471 ครัวเรือน พื้นที่ 3.85 ล้านไร่ กำหนดราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงสูงกว่าราคาประกัน จึงไม่มีการจ่ายเงินส่วนต่าง ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ สำหรับงวดดังกล่าวนั้น
ล่าสุด เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2566 กรมการค้าภายใน ออกประกาศ คณะอนุกรรมการกำกับดูแลและกำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ งวดที่ 6 ความว่า
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
เพื่อให้การดำเนินโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปี 2565/66 เป็นไปด้วยความเรียบร้อย คณะอนุกรรมการกำกับดูแลปละกำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงโครงการ "ประกันรายได้เกษตรกร" ผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ได้มีมติในคราวประชุม ครั้งที่ 2/2566 เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2566 เห็นชอบการกำหนดราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงตามโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ปี 2564/65 หรือ ประกันรายได้ข้าวโพด (งวดที่ 6) ดังนี้
ข้อ 1 ราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงประจำวันที่ 20 เมษายน 2566 เพื่อใช้ในการชดเชยส่วนต่างตามโครงการ "ประกันรายได้เกษตรกร" ผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ปี 2565/66 หรือ "ประกันรายได้ข้าวโพด" (งวดที่ 6) สำหรับเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์กับกรมส่งเสริมการเกษตร โดยมีวันเพาะปลูกตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2565 ถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2566 และระบุวันที่คาดว่าจะเก็บเกี่ยวตั้งแต่วันที่ 20 มีนาคม ถึงวันที่ 19 เมษายน 2566 สำหรับข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เมล็ดความชื้นไม่เกิน 14.5% กิโลกรัมละ 11.90 บาท
ข้อ 2 การชดเชยส่วนต่าง เมื่อคำนวณส่วนต่างจากราคาเป้าหมาย กับราคาเกณฑ์กลางอ้างอิง ตามข้อ 1 แล้ว ราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงในครั้งนี้สูงกว่าราคาเป้าหมาย (กิโลกรัมละ 8.50 บาท) จึงไม่มีการจ่ายชดเชยส่วนต่างให้แก่เกษตรกร
ที่มา : กรมการค้าภายใน
