ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสปรับตัวลง 1.87 ดอลล์
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ปิดวันพฤหัสบดี(20เม.ย.) ร่วงลง 1.87 ดอลลาร์ ท่ามกลางความกังวลที่ว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐเผชิญภาวะถดถอย และกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมัน
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ส่งมอบเดือนพ.ค. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาดไนเม็กซ์ ลบ 1.87 ดอลลาร์ หรือ 2.4% ปิดที่ราคา 77.29 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ร่วงลง 2.02 ดอลลาร์ หรือ 2.4% ปิดที่ราคา 81.10 ดอลลาร์/บาร์เรล
นักลงทุนมีความกังวลต่อเศรษฐกิจสหรัฐ หลังเฟดเปิดเผยรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจทั้ง 12 เขต หรือ Beige Book เมื่อวานนี้ โดยระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐประสบภาวะชะงักงันในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยการจ้างงานชะลอตัวลง ขณะที่ธนาคารพาณิชย์เพิ่มความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ หลังเกิดวิกฤตภาคธนาคารในช่วงที่ผ่านมา
รายงาน Beige Book ดังกล่าว แตกต่างจากฉบับที่มีการเปิดเผยในเดือนมี.ค. ซึ่งบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังคงมีความแข็งแกร่ง แม้เฟดได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลายครั้งเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ
ขณะเดียวกัน สหรัฐเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจที่อ่อนแอในวันนี้ โดยเฟดสาขาฟิลาเดลเฟีย เปิดเผยดัชนีภาคการผลิตในภูมิภาคมิด-แอตแลนติก ปรับตัวลงสู่ระดับ -31.3 ในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค.2563 และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ -19.2 จากระดับ -23.2 ในเดือนมี.ค.
ดัชนียังคงปรับตัวต่ำกว่าระดับ 0 ซึ่งบ่งชี้ว่า ภาคการผลิตในภูมิภาคมิด-แอตแลนติกอยู่ในภาวะหดตัว โดยหดตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 8
นอกจากนี้ สหรัฐเปิดเผยยอดขายบ้านมือสองปรับตัวลงในเดือนมี.ค. ขณะที่ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานสูงกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้ว
ราคาน้ำมันยังได้รับผลกระทบจากการที่สหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว ท่ามกลางอุปสงค์ที่ซบเซา
นอกจากนี้ นักลงทุนวิตกเกี่ยวกับปริมาณน้ำมันที่เพิ่มขึ้นในตลาด หลังรัสเซียมีแนวโน้มส่งออกน้ำมันจากท่าเรือฝั่งตะวันตกในเดือนนี้แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2562 โดยสูงกว่าระดับ 2.4 ล้านบาร์เรล/วัน