ร้านกาแฟ ‘ช็อค’ ค่าไฟหลักแสน! วอนรัฐบาลเร่งแก้ระยะยาว

สถานการณ์ค่าไฟฟ้าปรับเพิ่มขึ้นได้ส่งผลให้พี่น้องประชาชนต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ผู้สื่อข่าวได้สอบถามนายมารุต ชุ่มขุนทด ผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท คลาส คอฟฟี่ จำกัด ซึ่งเป็น ซีอีโอClass Caféกาแฟแบรด์ดัง มี 12 สาขา ตั้งอยู่ย่านสถาบันการศึกษาและแหล่งชุมชนทั้งใน จ.นครราชสีมาและต่างจังหวัด เปิดเผยว่า ผลกระทบจากยอดบิลค่าไฟฟ้าเพิ่มเฉลี่ยร้อยละ 30 และค่าFtทำให้ต้องจ่ายค่าไฟฟ้าเพิ่มขึ้นเท่าตัว เดิมค่าไฟฟ้าเฉลี่ยเดือนละ 6-8 หมื่นบาท ล่าสุดแทบตกใจเมื่อเจอบิลค่าไฟฟ้าประมาณ 110,000-120,000 บาท ถือเป็นปัญหาซ้ำเติมกับธุรกิจกาแฟที่กำลังฟื้นตัวจากภาวะเศรษฐกิจซบเซาหลังวิกฤตโควิด เนื่องจากถูกบีบให้ต้องจ่ายเงินกู้จากสถาบันการเงินที่นำมาฟื้นฟูธุรกิจช่วงก่อนหน้านี้ รวมทั้งต้องแข่งกับทุนใหญ่ที่เป็นแบรด์ดังส่วนกลางเข้ามาแชร์ส่วนแบ่งการตลาด ทำให้กลุ่มเอสเอ็มอีรู้สึกถูกโดดเดี่ยว ภาครัฐไม่มีมาตรการช่วยเหลือที่ชัดเจนเป็นรูปธรรม ไม่ใช่ปล่อยให้ธุรกิจเอสเอ็มอีที่ล้มง่าย ฟื้นตัวยากได้ทยอยล้มหายตายจากซึ่งแตกต่างกับธุรกิจขนาดใหญ่ที่ภาครัฐให้ความสำคัญและยังอุ้มกันอยู่

ทั้งนี้ได้ใช้มาตรการทุกอย่างเพื่อประหยัดค่าไฟฟ้า เช่นจัดรอบเวรล้างทำความสะอาดเครื่องปรับอากาศให้ถี่ขึ้น ลดช่วงเวลาเปิด-ปิดให้เหมาะสม ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นกลุ่มนักเรียน นักศึกษาและวัยทำงานได้เข้าใจกับสภาพปัญหาที่เกิดขึ้น ฝากถึงรัฐบาลทำกันอย่างนี้ได้ยังไง ค่าไฟฟ้าแพงกระทบต่อประชาชนทุกสถานะ ทำไมต้องรอให้เกิดปัญหาก่อนถึงจะแก้เสนอตัวเป็น “ฮีโร่” ที่รัฐบาลกำลังดำเนินการอยู่ในขณะนี้ หวังเรียกคะแนนเสียงความนิยมซึ่งไม่ถูกต้อง แต่สิ่งที่ควรทำไม่ควรปล่อยให้ค่าFtเพิ่มสูงขึ้น อย่างไรก็ตามสิ่งที่กระทบต่อความรู้สึกประชาชนอย่างมากคือข่าวประชาสัมพันธ์ผลกำไรของโรงไฟฟ้าและตัวเลขที่เป็นผลกำไรมหาศาลของเจ้าของกลุ่มทุนที่มีความใกล้ชิดกับพรรคการเมือง ขณะนี้พี่น้องประชาชนรู้เท่าทันจะสั่งสอนให้นักการเมืองที่ฉกฉวยประโยชน์จากความเดือดร้อนต้องรับกรรมในวันหย่อนบัตรเลือกตั้ง ส.ส