ร้อนทะลุพีค 'พลังงาน' ลุยแคมเปญ 'ลดค่าไฟ & คืนลมหายใจสะอาด'
กระทรวงพลังงาน พพ. และ กฟผ. ผนึกกำลังพันธมิตร เดินหน้าแคมเปญรณรงค์ประหยัดพลังงาน หนุนคนไทยใช้พลังงานไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพ ลดภาระค่าใช้จ่ายทั้งในภาคครัวเรือน ธุรกิจ และอุตสาหกรรม พร้อมเสริมสร้างคุณภาพอากาศที่ดี เพื่ออนาคตที่ยั่งยืนของคนไทย
นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน และประธานกรรมการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เป็นประธานเปิดกิจกรรมรณรงค์การประหยัดพลังงานในฤดูร้อน ปี 2566 พร้อมปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “รวมพลังคนไทย ลดใช้พลังงาน Save Energy for ALL”
นายกุลิศ กล่าวว่า ภาพรวมการใช้ไฟฟ้าในฤดูร้อนปีนี้มีแนวโน้มสูงขึ้น เนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนจัด โดยเฉพาะเดือนเม.ย. 2566 มีอากาศร้อนที่สุดส่งผลให้เกิดความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุด (Peak) ของระบบ 3 การไฟฟ้าแล้วถึง 4 ครั้ง โดยครั้งล่าสุดเกิดเมื่อวันที่ 20 เม.ย. 2566 ที่ผ่านมา เวลา 14.56 น. ที่ระดับ 33,384.7 เมกะวัตต์ ซึ่งหากฝนยังไม่ตกในช่วงนี้ อุณหภูมิอาจสูงสุดถึง 3.4 หมื่นเมกะวัตต์ ดังนั้น มาตรการประหยัดพลังงานจึงถือเป็นหนึ่งแนวทางสำคัญในการลดปริมาณการใช้ไฟฟ้าในฤดูร้อนและลดค่าไฟฟ้า เนื่องจากค่าไฟฟ้าของประเทศไทยเป็นอัตราก้าวหน้า (Progressive Rate) ยิ่งใช้ไฟฟ้ามาก ค่าไฟฟ้าต่อหน่วยจะยิ่งสูงขึ้น นอกจากนี้การประหยัดพลังงานยังสามารถช่วยประเทศลดการนำเข้าเชื้อเพลิงราคาแพงได้อีกด้วย
"อุณหภูมิที่เพิ่มขึ้น 6 องศาฯ ส่งผลถึงหน่วยความร้อนสูงขึ้น 14% ยิ่งใช้ไฟฟ้ามากขึ้น หน่วยการคิดค่าไฟเป็นขั้นบันไดก็เพิ่มมากขึ้นจะเห็นได้ชัดว่าค่าไฟเดือน ม.ค.-ก.พ 2566 ถือว่าอยู่ในช่วงอุณหภูมิไม่สูงมาก มีการเปิดแอร์น้อย และแอร์ทำงานไม่มาก แต่เมื่ออากาศร้อนมากในเดือนนี้ แอร์ทำงานมากขึ้น ทำให้ค่าไฟที่ไม่รวมค่า Ft อีก 93 สตางค์ เพิ่มสูง"
นายประเสริฐ สินสุขประเสริฐ อธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) กล่าวว่า การประหยัดพลังงานในหน้าร้อนด้วยหลักง่าย ๆ คือ “ปรับ ล้าง ตั้ง ลด” คือ ปรับการแต่งกายใส่เสื้อเชิ้ตแขนสั้น งดใส่สูท ผูกไทด์ ล้างแผ่นกรองอากาศแอร์ทุก 1-2 เดือน และล้างทำความสะอาดใหญ่ทุก 6 เดือน ตั้งอุณหภูมิแอร์ที่ 26-27 องศาฯ และเปิดพัดลมช่วยกระจายความเย็น ลดระยะเวลาการเปิดแอร์ลง 1 ชั่วโมงต่อวัน (เปิด 09.00 น. ปิด 16.00 น.) ซึ่งหากล้างแอร์ จะช่วยลดค่าไฟฟ้าได้ 10% ประหยัดได้ 210 บาทต่อเดือน และปรับเพิ่มอุณหภูมิขึ้นอีก 1 องศาฯ จะช่วยลดค่าไฟฟ้าได้ 4.5% ประหยัดได้อีก 100 บาทต่อเดือน รวม 2 มาตรการนี้ จะลดค่าไฟฟ้าลงได้ไม่ต่ำกว่า 300 บาทต่อเดือนต่อเครื่อง
นอกจากนี้ พพ. ยังได้จัดทำมาตรการเชิงลึกทั้งในและระยะยาวที่เหมาะสมในแต่ละกลุ่มเป้าหมาย คาดว่าจะก่อให้เกิดผลประหยัดจากมาตรการประหยัดพลังงานที่จะขอความร่วมมือจากกลุ่มหน่วยงานภาครัฐ ครัวเรือน อาคารธุรกิจ สถานประกอบการ SME รวมประหยัดไฟฟ้าได้กว่า 340 ล้านหน่วยต่อเดือน เป็นเงินที่ประหยัดได้ 1,700 ล้านบาทต่อเดือน อีกทั้ง ยังจัดกิจกรรม พพ.ช่วยคลายร้อน สอนล้างแอร์ด้วยตนเอง สอนล้างแอร์ด้วยตัวเองให้กับผู้ที่สนใจฟรี ผ่านศูนย์บริการวิชาการทั้ง 10 แห่งทั่วประเทศ จำนวน 1,300 คน ปัจจุบันได้ดำเนินการอบรมแล้ว 32 ครั้ง มีผู้เข้าร่วมการอบรมกว่า 900 คน
นายบุญญนิตย์ วงศ์รักมิตร ผู้ว่าการ กฟผ. กล่าวว่า กฟผ. ได้ดำเนินงานจัดการด้านการใช้ไฟฟ้า (DSM) ก้าวเข้าสู่ปีที่ 30 ด้วยกลยุทธ์ 3 อ. ได้แก่ อุปกรณ์ประหยัดไฟฟ้าเบอร์ 5 อาคารและอุตสาหกรรมประสิทธิภาพพลังงานสูง และอุปนิสัยการใช้พลังงาน สำหรับฤดูร้อนนี้ กฟผ. ได้ร่วมกับพันธมิตรจัดทำโครงการรณรงค์การประหยัดพลังงานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน ลดภาระค่าไฟฟ้าให้กับผู้ใช้ไฟฟ้า รวม 6 โครงการ ประกอบด้วย
1. โครงการล้างแอร์ช่วยชาติ (Clean your air, Care your life) กฟผ. ร่วมกับห้างสรรพสินค้าและผู้ค้าปลีกบริการล้างแอร์ให้แก่ประชาชนครึ่งราคา จำนวน 10,000 สิทธิ์ สำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 500 หน่วยต่อเดือน โดยประชาชนจ่ายค่าล้างแอร์ 300 บาท จำกัดครัวเรือนละ 1 สิทธิ์ต่อการล้างแอร์ 1 เครื่อง โดยต้องเป็นแอร์แบบติดผนังขนาดไม่เกิน 24,000 บีทียูต่อชั่วโมง เพียงแสดงบัตรประชาชนและบิลค่าไฟย้อนหลัง 2 เดือน ณ จุดขายของห้างสรรพสินค้าที่เข้าร่วมโครงการ ได้แก่ โฮมโปร เพาเวอร์บาย เดอะมอลล์ ดิเอ็มโพเรียม สยามพารากอน และบลูพอร์ต ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. – 31 ก.ค. 2566
นอกจากนี้ ยังร่วมกับสมาคมผู้ค้าเครื่องปรับอากาศไทยตั้งเป้าล้างแอร์ในโรงพยาบาลรัฐขนาดใหญ่ นำร่อง 5 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า โรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์ (วัดไร่ขิง) โรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ โรงพยาบาลสะเมิง และโรงพยาบาลบางกรวย ประมาณ 800 เครื่อง ดำเนินการในช่วงเดือน มี.ค. – เม.ย. 2566 เพื่อลดค่าใช้จ่ายให้แก่โรงพยาบาลและสร้างคุณภาพอากาศที่ดีให้แก่บุคลากรทางการแพทย์และประชาชนที่มาใช้บริการ
2.โครงการคืนอากาศบริสุทธิ์ด้วย City Tree ติดตั้งนวัตกรรมต้นไม้ฟอกอากาศในโรงพยาบาลที่ดำเนินการล้างแอร์ทั้ง 5 แห่ง เพื่อแก้ไขปัญหาฝุ่นภายในเมือง โดยผสมผสานระหว่างเครื่องฟอกอากาศประจุลบ ดักจับฝุ่น PM 2.5 และฆ่าเชื้อโรค ร่วมกับสวนแนวตั้งต้นไม้ฟอกอากาศ เพื่อบำบัดอากาศบริเวณพื้นที่ผู้ใช้บริการหนาแน่นในโรงพยาบาล ทั้งนี้ City Tree สามารถช่วยกรองฝุ่น บำบัดอากาศครอบคลุมพื้นที่ 200 ตารางเมตร และยังสามารถรณรงค์สื่อสารข้อมูลฝุ่นและมาตรการลดการใช้พลังงานผ่านจอมอนิเตอร์ให้กับประชาชน
3.โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน ดำเนินโครงการที่ปรึกษาพลังงานนำร่องให้กับผู้ประกอบการภาคธุรกิจและอุตสาหกรรม 8 แห่ง ได้แก่ โรงแรมและรีสอร์ทเครือเซ็นทารา ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร เทศบาลเมืองทุ่งสง บริษัท ซาบีน่า จำกัด (มหาชน) บริษัท ทีเอ็นแอลเอ็กซ์ จำกัด บริษัท สุมิพล คอร์ปอเรชั่น จำกัด ร้านอาหารครัวเจ๊ง้อ และบริษัท เอราวัณสิ่งทอ จำกัด เพื่อเป็นต้นแบบธุรกิจและอุตสาหกรรมประหยัดพลังงาน พร้อมขยายผลการดำเนินงานในเชิงพาณิชย์ร่วมกัน โดยจะดำเนินการในช่วงเดือน เม.ย. 2566 – ธ.ค. 2567
4.โครงการผ้าม่านเบอร์ 5 ร่วมมือกับผู้ประกอบการผ้าม่าน 8 ราย พัฒนาและกำหนดมาตรฐานเพื่อทดสอบและเกณฑ์ประสิทธิภาพเบอร์ 5 ซึ่งจะช่วยลดความร้อนจากกระจกเข้าสู่เข้าตัวอาคารประมาณ 30% ลดการใช้แอร์เมื่อเทียบกับการติดผ้าม่านบังแดดทั่วไป 5-6% โดยจะเริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. 2566 เป็นต้นไป
5.โครงการส่งเสริมการใช้ชุดนักเรียนเบอร์ 5 ซึ่งเป็นชุดนักเรียนที่มีคุณสมบัติสวมใส่สบาย ยับยาก จึงช่วยประหยัดพลังงานในการรีดถึงตัวละ 60 สตางค์ต่อการรีด 1 ครั้ง โดยนำร่องมอบชุดนักเรียนเบอร์ 5 ให้แก่นักเรียนที่เรียนดีในพื้นที่ อ.บางกรวย จ.นนทบุรี จำนวน 26 โรงเรียน รวม 520 ชุด
6.กิจกรรม “รวมพลังเซฟเว่อร์x3” กฟผ. ร่วมกับการไฟฟ้านครหลวง และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เตรียมจัดกิจกรรมรณรงค์ประหยัดพลังงาน “รวมพลังเซฟเว่อร์x3” ในวันที่ 2 พ.ค. นี้ ที่ชั้น 9 อาคาร Siam Scape สยามสแควร์ ซึ่งภายในงานจะมีกิจกรรมแนะนำเคล็ดลับการใช้ไฟฟ้าอย่างไรให้ประหยัด พร้อมเชิญชวนประชาชนร่วมลดใช้พลังงาน รวมถึงการแสดงมินิคอนเสิร์ตจากวง Paper Planes หัวหน้าแก๊งฟันน้ำนมอีกด้วย