'กกพ.' เผย ร้อนจัด 'ค่าพีค' ไฟฟ้าทำสถิติใหม่ทะลุเกิน 34,000 เมกะวัตต์

'กกพ.' เผย ร้อนจัด 'ค่าพีค' ไฟฟ้าทำสถิติใหม่ทะลุเกิน 34,000 เมกะวัตต์

"กกพ."  เผย อากาศร้อนมากในช่วงวันหยุดยาว ทำให้มีความต้องการใช้ไฟฟ้าสูง วันที่ 6 พ.ค. 2566 เวลา 21.41 น. เกิดสถิติค่าพีคใหม่ อยู่ที่ 34,826.50 เมกะวัตต์ สูงกว่าพีคเดิม วันที่ 28 เม.ย. 2565 เวลา 14.30 น. ที่ 33,177.30 เมกะวัตต์        

จากสภาพอากาศร้อนจัดในช่วงวันหยุดยาวต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 4 - 7 พฤษภาคม 2566 ส่งผลประชาชนมีความต้องการใช้ไฟฟ้าเพื่อคลายร้อน อีกทั้งเครื่องทำความเย็นประเภทต่างๆ ได้แก่ เครื่องปรับอากาศ ตู้เย็น พัดลมมีความต้องการใช้ปริมาณไฟฟ้ามากขึ้นเพื่อทำความเย็นให้มากขึ้นตามภาวะอากาศร้อนจัดเช่นกัน

 

\'กกพ.\' เผย ร้อนจัด \'ค่าพีค\' ไฟฟ้าทำสถิติใหม่ทะลุเกิน 34,000 เมกะวัตต์

สำนักงาน กกพ. ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนผู้ใช้ไฟร่วมกันประหยัดการใช้พลังงาน ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ไฟฟ้า 5 ป. ได้แก่ 

  1. ปิดไฟที่ไม่ใช้ หรือไม่จำเป็น 
  2. ปรับแอร์ที่อุณหภูมิ 26 องศาเซลเซียส 
  3. ปลดปลั๊กไฟเมื่อเลิกใช้ 
  4. เปลี่ยนหลอดไฟเป็นแบบ LED
  5. ปลูกต้นไม้เพื่อเป็นร่มเงาและช่วยลดอุณหภูมิให้กับตัวบ้าน

ร่วมกันประหยัดและเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน ลดภาระค่าไฟฟ้า

พร้อมกันนี้ ขอให้ประชาชนได้มีการตรวจสอบ “หน่วยการใช้ไฟฟ้า” ในการเรียกเก็บค่าไฟฟ้าในบิลค่าไฟรอบเดือนพฤษภาคม 2566 ของท่านว่ามีความผิดปกติหรือไม่ด้วย เพราะค่าไฟที่เพิ่มอาจจะเป็นได้ทั้งจากการเรียกเก็บค่าไฟฟ้าผิดปกติ และอีกสาเหตุหนึ่งเกิดจากสภาวะอากาศทำให้หน่วยการใช้ไฟฟ้าสูงขึ้นกว่าเดิมได้และส่งผลค่าไฟฟ้าเรียกเก็บเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ซึ่งปัจจุบันสำหรับประชาชนผู้ใช้ไฟฟ้าส่วนใหญ่การเรียกเก็บค่าไฟฟ้าเป็นแบบอัตราค่าไฟฟ้าอัตราก้าวหน้า

 

\'กกพ.\' เผย ร้อนจัด \'ค่าพีค\' ไฟฟ้าทำสถิติใหม่ทะลุเกิน 34,000 เมกะวัตต์

 

คือ  ยิ่งใช้ไฟฟ้าจำนวนหน่วยมากขึ้นก็จะถูกเรียกเก็บค่าไฟในอัตราที่แพงขึ้นด้วย เพื่อสะท้อนต้นทุนการผลิตไฟฟ้าที่สูงขึ้น จากกระบวนการผลิตไฟฟ้าของไทยจะผลิตจากต้นทุนที่มีราคาถูกก่อน และเมื่อการใช้ไฟฟ้าสูงขึ้นจะมีการผลิตไฟฟ้าที่มีต้นทุนสูงขึ้น แม้ค่าไฟฟ้าในงวดเดือน พ.ค. - ส.ค. 66 จะไม่ได้ปรับขึ้น ซึ่งเรียกเก็บในอัตราค่าไฟฟ้า 4.70 บาทต่อหน่วยก็ตาม

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติเห็นชอบให้ขออนุมัติ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อใช้เงินงบประมาณในการดำเนินมาตรการช่วยเหลือค่าไฟฟ้าของผู้ใช้ไฟฟ้ากลุ่มเปราะบาง สำหรับงวดเดือนพฤษภาคม - สิงหาคม  2566 (4 เดือน) โดยผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัยที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หน่วยต่อเดือน จะได้รับส่วนลดแบบขั้นบันได กำหนดให้เป็นส่วนลดค่าไฟฟ้าก่อนการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตราส่วนลดเดียวกันกับช่วงเดือน มกราคม - เมษายน 2566 ดังนี้

\'กกพ.\' เผย ร้อนจัด \'ค่าพีค\' ไฟฟ้าทำสถิติใหม่ทะลุเกิน 34,000 เมกะวัตต์

1. ผู้ใช้ไฟฟ้าบ้านอยู่อาศัยที่ใช้ไฟฟ้าระหว่าง 1-150 หน่วยต่อเดือน
ให้ส่วนลดค่าไฟฟ้าจำนวน 92.04 สตางค์ต่อหน่วย โดยมีผลต่างค่าไฟฟ้า ตามสูตรการปรับอัตราค่าไฟฟ้าอัตโนมัติ (ค่า Ft) เรียกเก็บและส่วนลด 1.39 สตางค์ต่อหน่วย

2. ผู้ใช้ไฟฟ้าบ้านอยู่อาศัยที่ใช้ไฟฟ้าระหว่าง 151-300 หน่วยต่อเดือน ให้ส่วนลดค่าไฟฟ้าจำนวน 67.04 สตางค์ต่อหน่วย โดยมีผลต่างค่าไฟฟ้าตามสูตรการปรับอัตราค่าไฟฟ้าอัตโนมัติ (ค่า Ft) เรียกเก็บและส่วนลด 26.39 สตางค์ต่อหน่วย ทั้งนี้ คาดว่าจะมีผู้ได้รับการช่วยเหลือรวมทั้งสิ้นประมาณ 18.36 ล้านราย ใช้งบประมาณรวมในกรอบไม่เกิน 7,602 ล้านบาท