อัปเดตบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2566 เดือนพฤษภาคมจ่ายอะไรบ้าง รับเงินสด 2 งวดติด
กรมบัญชีกลาง อัปเดตสิทธิบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ รอบใหม่ 2566 เดือนพฤษภาคมจ่ายอะไรบ้าง ผู้มีสิทธิจะสามารถใช้สิทธิผ่านบัตรประจำตัวประชาชนแบบสมาร์ทการ์ดตามรายละเอียด ดังนี้
กรมบัญชีกลาง อัปเดตสิทธิบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ รอบใหม่ 2566 เดือนพฤษภาคมจ่ายอะไรบ้าง โดยผู้มีสิทธิจะสามารถใช้สิทธิผ่านบัตรประจำตัวประชาชนแบบสมาร์ทการ์ด สามารถเช็กรายละเอียดที่นี่
นางสาววารี แว่นแก้ว โฆษกกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า โครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐปี 2565 ผู้มีสิทธิจะสามารถใช้สิทธิผ่านบัตรประจำตัวประชาชนแบบสมาร์ทการ์ด ซึ่งในเดือนพฤษภาคม 2566 จะได้รับวงเงิน ดังนี้
วันที่ 1 พฤษภาคม 2566 (ไม่สามารถถอนเป็นเงินสดได้ และไม่สะสมในเดือนถัดไป)
- วงเงินซื้อสินค้า 300 บาทต่อคนต่อเดือน
- วงเงินส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม 80 บาทต่อคนต่อ 3 เดือน (เมษายน – มิถุนายน 2566)
- วงเงินค่าเดินทางผ่านระบบขนส่งสาธารณะ 750 บาทต่อคนต่อเดือนประกอบด้วย
- บขส.
- รถไฟ
- ขสมก.
- รถไฟฟ้า (MRT/BTS/ARL)
วันที่ 18 พฤษภาคม 2566 (สามารถถอนเป็นเงินสดได้)
- ค่าไฟฟ้า ไม่เกิน 315 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน
- ค่าน้ำประปา ไม่เกิน 100 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน (กรณีใช้น้ำประปาเกิน 100 บาท แต่ไม่เกิน 315 บาท)
***ผู้มีสิทธิรายเดิมตามโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2560 และโครงการลงทะเบียน เพื่อสวัสดิการแห่งรัฐเพิ่มเติมภายใต้โครงการไทยนิยมยั่งยืน ในกลุ่มผู้พิการ ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง หรือผู้ที่ไม่สามารถเดินทางมาลงทะเบียนได้ในปี 2560 ที่ได้รับสิทธิในการชดเชยค่าไฟฟ้าและ/หรือค่าน้ำประปา กรมบัญชีกลางจะโอนเงิน e-Money เข้าบัตรสวัสดิการแห่งรัฐในเดือนพฤษภาคม 2566 เป็นครั้งสุดท้าย
***ผู้มีสิทธิรายใหม่ตามโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 จะต้องลงทะเบียนเพื่อขอรับสิทธิ ตามมาตรการฯ กับผู้ให้บริการไฟฟ้าได้ 1 แห่ง และผู้ให้บริการน้ำประปาได้ 1 แห่ง (การไฟฟ้านครหลวง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค กิจการไฟฟ้าสวัสดิการสัมปทานกองทัพเรือ การประปานครหลวง และการประปาส่วนภูมิภาค)
ผู้ที่ได้รับสิทธิในการชดเชยค่าไฟฟ้าและ/หรือค่าน้ำประปา ตามเงื่อนไขของการให้สิทธิสวัสดิการ ไม่ต้องชำระค่าไฟฟ้าและ/หรือค่าน้ำประปา โดยกระทรวงการคลัง จะดำเนินการจ่ายเงินคืนให้แก่หน่วยงานที่ให้บริการโดยตรง
วันที่ 19 พฤษภาคม 2566 (โอนเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารที่ผูกพร้อมเพย์ด้วยเลขบัตรประชาชน 13 หลักของผู้มีสิทธิ หรือบัญชีเงินฝากธนาคารของผู้มีสิทธิหรือผู้รับมอบอำนาจที่ใช้รับเงินเบี้ยความพิการ 800 บาท)
- เงินเพิ่มเบี้ยความพิการ 200 บาทต่อเดือน
สำหรับผู้มีสิทธิที่เป็นผู้พิการ ซึ่งมีบัตรประจำตัวคนพิการและได้รับเงินเบี้ยความพิการ 800 บาทต่อเดือน โดยจะต้องทำการยืนยันตัวตนกับธนาคารกรุงไทย ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ภายในวันที่ 26 เมษายน 2566
สำหรับเดือนเมษายน 2566 กรมบัญชีกลาง รายงานผลการจ่ายเงินสวัสดิการแห่งรัฐ ข้อมูลตั้งแต่วันที่ 1- 30 เมษายน 2566 ดังนี้
1. สวัสดิการที่ให้เป็นวงเงิน (บัตรประจำตัวประชาชน)
- วงเงินค่าซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค 3,682.36 ล้านบาท
- วงเงินส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม 259.40 ล้านบาท
- วงเงินค่าโดยสารรถเมล์และรถไฟฟ้า 28.32 ล้านบาท
- วงเงินค่าโดยสารรถบริษัทขนส่ง จำกัด 10.42 ล้านบาท
- วงเงินค่าโดยสารรถไฟ 25.50 ล้านบาท
รวมจำนวนเงิน 4,006.01 ล้านบาท
2. สวัสดิการที่ให้ผ่านระบบพร้อมเพย์ (บัตรประจำตัวประชาชน)
- มาตรการเงินเพิ่มเบี้ยความพิการ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 28 มกราคม 2563 (โอนเงินให้แก่ผู้มีสิทธิ เมื่อวันที่ 20 เม.ย. 66) 162.19 ล้านบาท
รวมจำนวนเงิน 162.19 ล้านบาท
3.สวัสดิการที่ให้ผ่านกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Money) ในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
- มาตรการบรรเทาภาระค่าไฟฟ้า 183.22 ล้านบาท
- มาตรการบรรเทาภาระค่าน้ำประปา 18.37 ล้านบาท
- มาตรการเงินเพิ่มเบี้ยความพิการ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 28 มกราคม 2563 (โอนเงินให้แก่ผู้มีสิทธิ เมื่อวันที่ 22 เม.ย. 66) 2.93 ล้านบาท
รวมจำนวนเงิน 204.52 ล้านบาท
รวมจำนวนเงินทั้งสิ้น 4,372.72 ล้านบาท