เช็คสิทธิ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 66 ผูกบัญชีพร้อมเพย์ไม่ได้ต้องทำยังไง ?

เช็คสิทธิ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 66 ผูกบัญชีพร้อมเพย์ไม่ได้ต้องทำยังไง ?

เช็คสิทธิ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 66 อัปเดตบัตรคนจนล่าสุด คลังแจงวิธีรับเงิน สำหรับ ผู้ผ่านคุณสมบัติ แต่ผูกบัญชีพร้อมเพย์กับเลขประจำตัวประชาชน ไม่ได้ต้องทำยังไง ?

อัปเดตต่อเนื่อง เช็คสิทธิ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 66 ประชาชนยังติดตาม ตรวจสอบบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ผ่าน-ไม่ผ่าน สำหรับ แนวทางการโอนเงินให้แก่ผู้ที่ผ่านเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติตาม โครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 ที่ไม่สามารถผูกบัญชีพร้อมเพย์กับเลขประจำตัวประชาชนได้

นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบการดำเนินโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐปี 2565 (โครงการฯ) "บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ" รวมถึงการใช้บัตรประจำตัวประชาชนแทนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐสำหรับผู้ได้รับสิทธิตามโครงการฯและเมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2565 คณะกรรมการประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม(คณะกรรมการฯ) ในฐานะหน่วยงานรับผิดชอบโครงการฯ มีมติเห็นชอบให้ใช้การโอนเงินผ่านระบบพร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขประจำตัวประชาชนเป็นช่องทางการโอนเงินสดให้แก่ ผู้ผ่านเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติตามโครงการฯแทนการโอนเงินผ่านช่องกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Money) ในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

ซึ่งปัจจุบันการให้สิทธิสวัสดิการสำหรับผู้ผ่านเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติตามโครงการฯ จะเป็นการตั้งวงเงินสิทธิในบัตรประจำตัวประชาชนเท่านั้นโดยจะไม่มีการโอนเงินสด ยกเว้นเงินเพิ่มเติมเบี้ยความพิการเดือนละ 200 บาท เฉพาะผู้พิการที่มีบัตรประจำตัวคนพิการ และผ่านเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติตามโครงการฯที่ได้รับเบี้ยความพิการจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) เดือนละ 800 บาท และจะได้รับเงินเพิ่มเติมเบี้ยความพิการเดือนละ 200 บาท ทุกวันที่ 20 ของแต่ละเดือน

เช็คสิทธิ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 66 ผูกบัญชีพร้อมเพย์ไม่ได้ต้องทำยังไง ?

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : 

แนวทางการโอนเงินสำหรับผู้ที่ผ่านเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติ ที่ยังไม่สามารถผูกบัญชีพร้อมเพย์กับเลขประจำตัวประชาชนได้ ดังนี้

1. กลุ่มผู้พิการที่มีบัตรประจำตัวคนพิการที่ได้รับเบี้ยความพิการของ อปท. เดือนละ 800 บาท และผ่านเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติตามโครงการ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งจะได้รับเงินเพิ่มเติมเบี้ยความพิการอีกเดือนละ 200 บาท จำนวนทั้งสิ้น 1,138,257ราย (ข้อมูล ณ วันที่ 27 มีนาคม 2566) กระทรวงการคลังโดยกรมบัญชีกลางจะดำเนินการโอนเงินเพิ่มเติมเบี้ยความพิการเดือนละ200 บาทผ่านช่องทางดังต่อไปนี้

1.1 โอนเข้าบัญชีพร้อมเพย์ (กรณีผู้ผ่านเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติตามโครงการฯมีบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขประจำตัวประชาชนณ วันที่ 27 มีนาคม 2566) จำนวน 871,270 ราย ซึ่งกลุ่มนี้ได้รับเงินเพิ่มเติมเบี้ยความพิการตั้งแต่เดือนเมษายน 2566 ที่ผ่านมาแล้ว

1.2 โอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากเดิมที่ผู้ผ่านเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติ ตามโครงการฯใช้รับเบี้ยความพิการจาก อปท. เดือนละ 800 บาท (กรณีไม่สามารถรับเงินผ่านบัญชีพร้อมเพย์ตามข้อ 1.1) มีจำนวน 233,489 ราย โดยกลุ่มนี้จะได้รับเงินเพิ่มเติมเบี้ยความพิการย้อนหลังตั้งแต่เดือนเมษายน 2566 ในเดือนพฤษภาคม 2566 (รวมเงินเพิ่มเติมเบี้ยความพิการ 2 เดือน เป็นจำนวนทั้งสิ้น 400 บาท)

1.3 ผู้ผ่านเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติตามโครงการ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่รับเบี้ยความพิการจาก อปท. เดือนละ 800 บาท เป็นเงินสดจะโอนเงินเข้าบัญชีพร้อมเพย์ที่เปิด และผูกกับเลขประจำตัวประชาชนขึ้นมาใหม่

โดยขอความร่วมมือเจ้าหน้าที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ร่วมกับคณะผู้บริหารการคลังประจำจังหวัด อปท. กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร และธนาคารออมสิน ลงพื้นที่เพื่อเปิดบัญชีเงินฝาก และผูกบัญชีพร้อมเพย์กับเลขประจำตัวประชาชนให้แก่ผู้ผ่านเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติตามโครงการฯ หรือผู้รับมอบอำนาจรับเบี้ยความพิการของ อปท.แทนผู้พิการ จำนวน 33,498 ราย ซึ่งกลุ่มนี้หากดำเนินการเปิดบัญชีและผูกบัญชีพร้อมเพย์แล้วจะได้รับเงินเพิ่มเติมเบี้ยความพิการเดือนละ 200 บาท ย้อนหลังตั้งแต่เดือนเมษายน 2566 เป็นต้นไป

2. กลุ่มผู้พิการที่ไม่มีบัตรประจำตัวคนพิการผู้ป่วยติดเตียง และผู้สูงอายุที่ไม่สามารถเดินทางไปเปิดบัญชีเงินฝากและผูกบัญชีพร้อมเพย์ได้

2.1 โอนเข้าบัญชีร่วมของผู้ผ่านเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติตามโครงการฯที่เป็นผู้พิการผู้ป่วยติดเตียงและผู้สูงอายุกับผู้ดูแลโดยมีรายละเอียดขั้นตอนการดำเนินการ ดังนี้

2.1.1 ผู้ได้รับสิทธิตามโครงการฯต้องกรอกข้อมูลและลงลายมือชื่อในหนังสือให้ความยินยอมโอนเงินสวัสดิการเข้าบัญชีร่วมกับบุคคลอื่น (เอกสารแนบ 1)

2.1.2  ผู้ได้รับสิทธิตามโครงการฯ ต้องส่งหนังสือให้ความยินยอมดังกล่าวให้กรมบัญชีกลาง (สำหรับกรุงเทพมหานคร) หรือสำนักงานคลังจังหวัด( สำหรับต่างจังหวัด)

2.2 โอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากที่ผูกบัญชีพร้อมเพย์กับเลขประจำตัวประชาชนของผู้ที่ได้รับความยินยอมจากผู้ผ่านเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติตามโครงการฯเป็นผู้พิการผู้ป่วยติดเตียงและผู้สูงอายุ ให้รับโอนเงินสวัสดิการเข้าบัญชีเงินฝากแทน โดยมีรายละเอียดขั้นตอน ดังนี้

2.2.1 ผู้ได้รับสิทธิตามโครงการฯต้องกรอกข้อมูลและลงลายมือชื่อในหนังสือให้ความยินยอมโอนเงินสวัสดิการเข้าบัญชีบุคคลอื่น(เอกสารแนบ2)

2.2.2 ผู้ได้รับสิทธิตามโครงการฯต้องส่งหนังสือให้ความยินยอมดังกล่าวให้กรมบัญชีกลาง (สำหรับกรุงเทพมหานคร) หรือสำนักงานคลังจังหวัด (สำหรับต่างจังหวัด)

ทั้งนี้ การดำเนินการตามข้อ 2.1 และข้อ 2.2 ผู้ได้รับสิทธิตามโครงการฯ จะต้องจัดส่งเอกสารทั้งหมดให้กรมบัญชีกลางหรือสำนักงานคลังจังหวัด ดังนี้

  • หนังสือให้ความยินยอมโอนเงินสวัสดิการเข้าบัญชีร่วมกับบุคคลอื่น (การดำเนินการตามข้อ 2.1) หรือหนังสือให้ความยินยอมโอนเงินสวัสดิการเข้าบัญชีบุคคลอื่น (การดำเนินการตามข้อ 2.2) โดยผู้ได้รับสิทธิตามโครงการฯสามารถดาวน์โหลดหนังสือให้ความยินยอมได้จากเว็บไซต์ของโครงการฯ ได้ที่ https://บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ.mof.go.th (คลิก) หรือ https://welfare.mof.go.th หรือติดต่อขอรับจากหน่วยงานรับลงทะเบียนทุกหน่วยทั่วประทศ
  • สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ได้รับสิทธิตามโครงการฯ พร้อมลงนามรับรองสำเนาถูกต้อง
  • สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ถือบัญชีร่วม (การดำเนินการตามข้อ 2.1) หรือสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้รับเงินโอนสวัสดิการแทน (การดำเนินการตามข้อ 2.2) พร้อมลงนามรับรองสำเนาถูกต้อง
  • เอกสารแสดงความสัมพันธ์ระหว่างผู้ได้รับสิทธิตามโครงการฯ และผู้ถือบัญชีร่วม (การดำเนินการตามข้อ 2.1)หรือผู้รับเงินโอนสวัสดิการแทน (การดำเนินการตามข้อ 2.2) เช่น สำเนาสูติบัตร สำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาเอกสารทางราชการอื่นที่สามารถแสดงความสัมพันธ์ได้เป็นต้น พร้อมลงนามรับรองสำเนาถูกต้อง
  • สำเนาหน้าสมุดบัญชีเงินฝากธนาคารประเภทออมทรัพย์/สะสมทรัพย์/เผื่อเรียก/กระแสรายวัน (ยกเว้นประเภทเงินฝากประจำ/ออมทรัพย์พิเศษ/บัญชีที่มีเงื่อนไข) ที่จะรับเงินสวัสดิการพร้อมลงนามรับรองสำเนาถูกต้อง
  • ใบรับรองแพทย์ (ถ้ามี)


3. กลุ่มบุคคลล้มละลาย หากกระทรวงการคลังมีมาตรการหรือโครงการที่ชัดเจนที่จะต้องโอนเงินสวัสดิการให้บุคคลล้มละลายที่ผ่านเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติตามโครงการฯ บุคคลล้มละลายที่ได้รับสิทธิตามโครงการฯ จะต้องติดต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เพื่อขอเปิดบัญชีเงินฝากสำหรับการรับเงินสวัสดิการตามโครงการฯต่อไป ซึ่งเป็นไปตามมาตรา 67 (1) และมาตรา 67 (2) แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483

โฆษกกระทรวงการคลังเน้นย้ำว่า แนวทางการโอนเงินสำหรับผู้ได้รับสิทธิตามโครงการฯ ตามข้อ 2 และข้อ 3 จะเป็นการเตรียมการเพื่อรองรับมาตรการหรือโครงการใด ๆ ที่ภาครัฐอาจจะให้ความช่วยเหลือเป็นเงินโอนเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารในอนาคตเท่านั้น

ทั้งนี้ ผู้ได้รับสิทธิสามารถติดตามข่าวสารโครงการฯ สำหรับสวัสดิการต่าง ๆ ในอนาคตได้จากเว็บไซต์ของโครงการฯได้ที่ (คลิก) หรือ https://welfare.mof.go.th

สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง โทร. 09 4858 9794 (เวลาทำการ 08.30 – 16.30 น.)
สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง โทร. 02 273 9020 ต่อ 35023503 3506 3536 3542 3518 หรือโทร. 0858427102, 0858427103,
0858427104 ,0858427105, 0858427106, 0858427107 08 5842 7109(เวลาทำการ 08.30 – 16.30 น.)
ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โทร. 021092345 (เวลาทำการ 08.30 – 17.30 น.)