เอกชนยูเครนเมินสงคราม แห่จดทะเบียนจัดตั้งบริษัทใหม่กว่า 1.2 ล้านราย
นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลยูเครน หนุนเอกชนยูเครน จดทะเบียนจัดตั้งบริษัทใหม่ เมินผลกระทบสงคราม เผย ธุรกิจบริการ 32.8% รั้งอันดับ 1
สงครามรัสเซียและยุเครน ดำเนินมาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลากว่า 1 ปีและดูเหมือนว่าจะมีแนวโน้มยืดเยื้อต่อไปอีก ซึ่ง ได้สร้างความเสียหายให้กับทั้ง 2 ประเทศ ทั้งชีวิต ทรัพย์สิน รวมทั้งเศรษฐกิจภายใน และผลพวงจากสงครามและความขัดแย้งในครั้งนี้ขยายเป็นวงกว้างและยังส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั่วโลก โดยเฉพาะ การพุ่งขี้นของราคาพลังงาน ทั้งน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ ราคาอาหาร และอื่นอีก
อย่างไรก็ตามแม้ว่าเศรษฐกิจของทั้ง 2 ประเทศ จะได้รับผลกระทบอย่างมหาศาล โดยเฉพาะประเทศยูเครน มีรายงานว่า จำนวนบริษัทที่จดทะเบียนเพื่อประกอบธุรกิจในประเทศยูเคร กลับมีจำนวนเพิ่มขึ้น จากรายงานของ Kyiv Post สื่อด้านเศรษฐกิจและการเมืองของยูเครน รายงานว่า จํานวนบริษัทที่จดทะเบียนและเปิดทําการในยูเครน ณ เดือนเม.ย. 2566 มีจํานวนประมาณ 1.2 ล้านราย ซึ่งมีจํานวนมากกว่าจํานวนบริษัทที่ปิดตัวลงในช่วงปี 2565ถึง 5.6 เท่า (บริษัทที่ปิดตัวลงในปี 2565 มีจํานวนประมาณ 203,921 ราย)
ทั้งนี้ ในช่วงระยะเวลา 1 ปีของภาวะสงครามในยูเครน มีผู้ประกอบการขอจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทใหม่ถึง 208,936 ราย โดยส่วนใหญ่เป็นกลุ่มบริษัทขนาดใหญ่ ขณะที่กลุ่มบริษัท SMEs มีการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทจํานวน
ประมาณ 32,000 ราย
สำหรับสัดส่วนประเภทธุรกิจที่มีการขอจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทในยูเครน ได้แก่ ธุรกิจบริการ 32.8% ธุรกิจ
ค้าส่ง 15.2 %องค์กรสาธารณะ 13.1% ธุรกิจการเกษตร 4.0% ธุรกิจการก่อสร้าง 3.1% ธุรกิจ
ค้าปลีก 3.0% ธุรกิจการขนส่ง 2.7% ธุรกิจ IT 2.2% และธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 2.0%
นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กล่าวว่า ได้รับรายงานจากนายสุดเขต บริบูรณ์ศรี ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย ได้วิเคราะห์ถึงสถานการณ์ดังกล่าวว่า จํานวนการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทในยูเครนที่สูงกว่าจํานวนบริษัทที่ปิดกิจการแสดงให้เห็นถึงความมั่นใจต่อทิศทางที่ดีและความคาดหวังต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ รวมถึงความเป็นนักสู้ของผู้ประกอบการยูเครนในช่วงภาวะสงครามได้เป็นอย่างดี
โดยนักวิเคราะห์ทางเศรษฐกิจของยูเครนได้ให้ความเห็นว่า สาเหตุที่ทําให้ผู้ประกอบการยังคงเดินหน้าประกอบธุรกิจและจัดตั้งบริษัทเพิ่มขึ้นนั้น ส่วนหนึ่งมาจากความมั่นใจในการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศที่เป็นผลมาจากการดำเนินนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลยูเครน ทั้งการลดหย่อนภาษี การผ่อนผันการชําระหนี้ธนาคาร การสนับสนุนทางการเงิน รวมถึงการที่รัฐบาลเร่งเจรจาขอรับเงินทุนสนับสนุนจากองค์กรระหว่างประเทศ อาทิ สหภาพยุโรป
และ IMF เป็นต้น
ขณะที่สาเหตุอีกส่วนหนึ่งเป็นไปได้ว่าในช่วงแรกของภาวะสงคราม หน่วยงานผู้รับผิดชอบในการจดทะเบียนบริษัทต้องหยุดให้บริการทำให้ฐานข้อมูลและการเข้าถึงระบบหยุดชะงักลงช่วงระยะเวลาหนึ่ง ก่อนจะกลับมาดําเนินการอีกครั้งในช่วงกลางปี 2565 ซึ่งทำให้จำนวนเลขดังกล่าวเพิ่มสูงขึ้นอย่างมากนั่นเอง