หอการค้าไทย เดินหน้าพัฒนา SMEs ปูทางขยายตลาดสู่โมเดิร์นเทรด
หอการค้าไทย จับมือ 4 บริษัทพันธมิตร ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ โครงการ Business Accelerator รุ่น 4 พัฒนาศักยภาพ ถ่ายทอดองค์ความรู้และประสบการณ์ทางธุรกิจ เพื่อเตรียมความพร้อมผู้ประกอบการ SMEs สู่ช่องทางขายกับโมเดิร์นเทรด
นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ปีนี้ เป็นปีเฉลิมฉลอง 90 ปี หอการค้าไทย ซึ่งเน้นการขับเคลื่อนองค์กรและเศรษฐกิจประเทศ ภายใต้แนวคิด Connect - Competitive - Sustainable โดยเฉพาะประเด็นด้าน Competitive ที่หอการค้าไทยให้ความสำคัญกับการยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของ SMEs ซึ่งเป็นวัตถุประสงค์หลักประการหนึ่งของโครงการ Business Accelerator ที่มุ่งเน้นการเตรียมความพร้อมให้กับผู้ประกอบการ SMEs ในการยกระดับธุรกิจและพัฒนาสินค้า เพื่อมุ่งสู่ช่องทางการขายกับ โมเดิร์นเทรด (Modern Trade)
ในช่วงวิกฤตโควิด 19 ที่ผ่านมา SMEs ไทยได้รับผลกระทบอย่างมาก ในวันนี้เรามอง SMEs เป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มที่ 1 คือ กลุ่มที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากวิกฤตในช่วงที่ผ่านมา และไม่สามารถแข่งขันได้ หรือต้องปิดกิจการไป แต่ก็ยังต้องการกลับมาดำเนินธุรกิจในอนาคต
กลุ่มที่ 2 เป็นกลุ่มที่ยังดำเนินกิจการอยู่ แต่ไม่มีความเข้มแข็ง ขาดทั้งทุน ขาดเทคโนโลยี ขาดแนวทางการบริหารจัดการเบื้องต้น ซึ่งกลุ่มนี้ หอการค้าฯ พยายามผลักดันกับรัฐบาล มาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เห็นความสำคัญและเกิดมาตรการช่วยเหลือต่าง ๆ โดยเฉพาะการเข้าถึงแหล่งเงินทุน เพื่อให้กลุ่มนี้สามารถลุกขึ้นมาแข่งขันได้ต่อไป
กลุ่มที่ 3 เป็นกลุ่ม SMEs ที่มีความเข้มแข็งในธุรกิจ มี Product ที่ชัดเจน และอยู่ในช่วงที่จะขยายกิจการ หรือต้องการเพิ่มช่องทางการขยายตลาดใหม่ ๆ โดยเฉพาะใน Modern Trade
โครงการ Business Accelerator จะมาตอบโจทย์และช่วยสนับสนุนผู้ประกอบการได้ทั้ง 3 กลุ่ม คนกลุ่มแรก อาจจะต้องการการปูพื้นความรู้ใหม่ สร้างความเข้าใจจนรากฐานมีความมั่นคง แล้วค่อยต่อยอดไปในระดับที่สูงขึ้น กลุ่มที่ 2 เป็นการเติมเครื่องมือบางอย่างที่ยังขาด เติมมุมมอง ปรับกระบวนการ เพื่อการเติบโตในอนาคต ส่วนกลุ่มที่ 3 เป็นกลุ่มที่พร้อมจะก้าวกระโดดแล้ว แต่อาจจะยังขาดผู้รู้หรือพี่เลี้ยงที่มีประสบการณ์ มาช่วยเติมเต็ม ให้ข้อคิด และเทคนิคในการบริหารขั้นสูง เพื่อมุ่งสู่ Modern Trade หรือขยายไปยังตลาดต่างประเทศเพิ่มขึ้น
นายพลิษศร์ ภิรมย์ภักดี รองประธานกรรมการหอการค้าไทย และประธานคณะกรรมการเพิ่มความเข้มแข็งให้สมาชิก กล่าวว่า โครงการ Business Accelerator ริเริ่มมาจากการที่หอการค้าไทย ร่วมกับ บริษัทพันธมิตรเห็นถึงความสำคัญในการบ่มเพาะผู้ประกอบการ เพื่อเตรียมตัวให้พร้อมก่อนการขยายช่องทางการขายกับ Modern Trade โดยเริ่มต้นจาก 7 บริษัท พันธมิตร ได้แก่ 1.บริษัท ซีพี ออลล์ จํากัด (มหาชน) 2. สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ (PIM) 3. บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน)
4.บริษัท เอก-ชัย ดิสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด (Lotus) 5. บริษัท ศรีไทยซุปเปอร์แวร์ จำกัด (มหาชน) 6.บริษัท บุญรอด บริวเวอรี่ จำกัด และ 7.ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (SME D Bank)
หอการค้าไทยและพันธมิตรทั้งหมด ได้นำองค์ความรู้ที่จำเป็นต่อการวางแผนและการดำเนินธุรกิจ มาบ่มเพาะ เพื่อเตรียมความพร้อมให้กับผู้ประกอบการ เป็นระยะเวลา 4 เดือน และเมื่อผู้ประกอบการมีความพร้อมอย่างเต็มที่แล้ว ก็จะได้รับโอกาสเข้าร่วมกิจกรรม Pitching เพื่อซักซ้อมการนำเสนอสินค้าเสมือนจริงกับ Modern Trade ต่าง ๆ ซึ่งที่ผ่านมา เรามีผู้ประกอบการจากโครงการฯ เข้าไปขายใน Modern Trade แล้วหลายราย จึงถือว่าโครงการนี้เป็นโครงการที่สร้างความเข้มแข็งให้กับสมาชิกผู้ประกอบการ ตลอดจนสร้างโอกาสในการขยายตลาดที่กว้างมากยิ่งขึ้นได้เป็นอย่างดี
ปัจจุบันหอการค้าไทยมีพันธมิตรเพิ่มขึ้นอีก 4 แห่ง ร่วมแสดงเจตนารมณ์ในการส่งเสริมผู้ประกบการภายใต้โครงการ ได้แก่ 1. บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เข้ามาช่วยเติมเต็มองค์ความรู้ด้านการเงิน การบริหารจัดการหนี้ รวมถึงการค้ำประกันสินเชื่อสำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการเข้าถึงแหล่งเงินทุน 2. บริษัท ซีพี ซีดดิ้ง โซเชียลอิมแพคท์ จำกัด เข้ามาร่วมผลักดันผู้ประกอบการ ให้เข้าสู่ช่องทางการขายผ่านเครือข่ายพันธมิตร และโครงการจับคู่ธุรกิจของหอการค้าไทย 3. บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ประเทศไทย จำกัด ช่วยเสริมองค์ความรู้ ด้านการบริหารจัดการธุรกิจที่จำเป็นกับผู้ประกอบการ โดยเฉพาะด้านการผลิตและ4. ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอ็ม ดับเบิลยู แอคเคาน์ติ้ง ส่งเสริมให้ผู้ประกอบการมีระบบบัญชีเดียว ที่ถูกต้องตามมาตรฐานบัญชี เพื่อการขยายธุรกิจในอนาคต
นายปิยะวัฒน์ ฐิตะสัทธาวรกุล กรรมการบริหารหอการค้าไทย และ รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซีพี ออลล์ จํากัด (มหาชน) กล่าวว่า โครงการ Business Accelerator ที่ผ่านมา 3 รุ่น เราบ่มเพาะผู้ประกอบการไปมากกว่า 190 บริษัท ผลักดันเข้าสู่ช่องทางการเจรจาทางการค้ากับ Modern Trade ได้มากกว่า 30 บริษัท ถือเป็นโอกาสที่ดีของผู้ประกอบการ SMEs เพราะจะเป็นการขยายตลาดให้กว้างมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะหลังจากสถานการณ์โควิดที่มีผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจ ผู้ประกอบการ SMEs จึงจำเป็นต้องแสวงหาทางเลือกอื่น เพื่อให้ธุรกิจยังคงดำเนินต่อไปได้ อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการจำนวนไม่น้อยที่ยังไม่เข้าใจว่า การจะเข้าสู่ตลาด Modern Trade ได้นั้น จะต้องพบกับเรื่องอะไรหรือต้องเตรียมรับกับเรื่องอะไรบ้าง หากขาดความเข้าใจในเรื่องเหล่านี้ ก็อาจจะไม่ประสบความสำเร็จในช่องทางดังกล่าวได้ โครงการนี้จะเป็นการเปิดมุมมองในทุกมิติให้กับผู้ประกอบการได้เข้าใจได้อย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้น
“สำหรับวันนี้ เรามีการ Kickoff รุ่นที่ 4 โดยเพิ่มความเข้มข้นในเนื้อหาหลักสูตรมากยิ่งขึ้น เสริมในส่วนของประสบการณ์ตรงจากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิในภาคธุรกิจจริง และยังเพิ่มเติมแนวทางจากการถอดบทเรียน โดยรุ่นพี่ ของโครงการที่จบหลักสูตรไปแล้ว มาถ่ายทอดแนวความคิด และวิธีการพัฒนาศักยภาพให้กับเพื่อน SMEs ในรุ่นที่ 4 อีกด้วย” นายปิยะวัฒน์ กล่าว