กยท. เตรียมดีลภาครัฐ! ดันใช้ 'ผ้าเคลือบน้ำยางสำหรับปูสระ' หนุนใช้ยางในปท.
กยท. เตรียมดีลภาครัฐ! ดันใช้ "ผ้าเคลือบน้ำยางสำหรับปูสระ" เพิ่มความแข็งแรง คงทน และยืดอายุการใช้งาน เผยเพียงตำบลละ 1 แห่ง ช่วยเพิ่มปริมาณการใช้ยางในประเทศได้จำนวนมาก
นายสุขทัศน์ ต่างวิริยกุล รองผู้ว่าการด้านปฏิบัติการ การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) เปิดเผยว่า กยท. ประสบผลสำเร็จในการส่งเสริมและสนับสนุนชุมนุมอุตสาหกรรมยางพาราภาคใต้ จำกัด ผลิต “ผ้าเคลือบน้ำยางสำหรับปูสระ” ภายใต้โครงการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตเพื่อส่งเสริมการใช้ยางภายในประเทศ โดยได้จัดสรรเงินอุดหนุนตามมาตรา 49 (3) ของพระราชบัญญัติการยางแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2558 เพื่อเป็นทุนต่อยอดให้กับชุมนุมอุตสาหกรรมยางพาราภาคใต้ จำกัด นำไปปรับปรุงพัฒนาเครื่องจักรเพื่อเพิ่มกำลังการผลิตสินค้าและผลิตภัณฑ์ใหม่ ตลอดจนจัดหาอุปกรณ์และเครื่องจักรเพื่อการผลิต ผ้าเคลือบน้ำยางสำหรับปูสระ เป็นจำนวนเงินรวมกว่า 28.8 ล้านบาท
ทั้งนี้ กยท. ได้ให้ความสำคัญเรื่องการผลักดันและส่งเสริมการเพิ่มมูลค่ายางพารา โดยการแปรรูปยางพาราเป็นผลิตภัณฑ์คุณภาพ สอดรับกับความต้องการของตลาด ควบคู่กับการสนับสนุนและส่งเสริมให้เกิดการใช้ยางภายในประเทศมากขึ้น ยกระดับยางพาราเป็นวัตถุดิบสำคัญในการแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อใช้ในสาธารณูปโภคของประเทศในด้านต่างๆ ทั้งด้านการแพทย์ ด้านคมนาคม ด้านชลประทานเพื่อสนับสนุนด้านการทำเกษตรกรรม เช่นเดียวกับผ้าเคลือบน้ำยางสำหรับปูสระ เป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์แปรรูปจากยางพาราที่ถูกนำมาใช้งานด้านชลประทาน ช่วยในการกักเก็บน้ำเพื่อการเกษตร แก้ปัญหาขาดแคลนน้ำในฤดูแล้งหรือฝนทิ้งช่วงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
อย่างไรก็ตาม เพื่อให้มีการใช้ "ผ้าเคลือบน้ำยางสำหรับปูสระ" เพิ่มขึ้น กยท. จะเป็นตัวกลางในการเจรจากับหน่วยงานภาครัฐ ที่มีการขุดสระเก็บน้ำให้กับเกษตรกร เช่น กรมพัฒนาที่ดิน หน่วยงานทหารพัฒนา เป็นต้น ให้นำผ้าเคลือบน้ำยางสำหรับปูสระไปใช้ ซึ่งการปูพื้นสระชั้นเดียวจะต้องใช้น้ำยางข้นในปริมาณ 0.69 กิโลกรัม (กก.)/ตารางเมตร(ตร.ม.) และถ้าปูสระสองชั้นจะใช้น้ำยางข้นในปริมาณ 2.43 กก./ตร.ม. เพราะต้องใช้น้ำยางพ่นและชุบผ้ามากกว่าการเคลือบผ้าชั้นเดียว
ดังนั้น หากขุดสระเก็บน้ำขนาด 1 ไร่ (กว้างxยาวxลึก : 40x40x 5 เมตร) ถ้าปูชั้นเดียวจะต้องใช้น้ำยางข้น 1,655 กก. และถ้าปูสระสองชั้นจะใช้น้ำยางข้นถึง 5,832 กก. หากสามารถขุดสระกักเก็บน้ำตำบลละ 1 แห่ง ประเทศไทยมีประมาณ 7,255 ตำบล ถ้าปูสระเพียงแค่ชั้นเดียวจะต้องใช้น้ำยางข้นรวมกันมากกว่า 12,000 ตัน และหากปูสองชั้นใช้มากกว่า 42,000 ตัน ซึ่งจะช่วยเพิ่มปริมาณการใช้ยางในประเทศตามนโยบายของรัฐบาลได้อย่างเห็นผล เป็นรูปธรรม และจะทำให้ราคายางมีเสถียรภาพมากขึ้นอย่างแน่นอน
“การนำน้ำยางมาเคลือบผ้าสำหรับปูสระนั้น นอกจากเป็นการนำยางพารามาใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิต เพื่อเพิ่มปริมาณการใช้ยางในประเทศแล้ว ยังช่วยให้ต้นทุนการขุดสระเก็บน้ำมีต้นทุนถูกกว่าการใช้วัสดุอื่นๆ และยังช่วยเพิ่มอายุการใช้งาน มีความแข็งแรงและคงทนมากกว่า รวมทั้งสามารถใช้กักเก็บน้ำในสระหรือบ่อรูปทรงต่างๆ ได้หลากหลาย เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ไม่ก่อให้เกิดอันตรายในการนำน้ำไปใช้ เป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์จากยางพาราอีกด้วย” รองผู้ว่าการ กยท. กล่าวในตอนท้าย