'อีเอ' ตั้งเป้ารายได้ปี 66 โต 50% ปัจจัยอีวีโต ทุ่ม 1 หมื่นล้าน อัปโรงงานแบต
"อีเอ" ตั้งเป้ารายได้ปี 2566 โตกว่า 50% ปัจจัยการเติบโตธุรกิจอีวี พร้อมปรับกำลังผลิตโรงงานแบตเตอรี่เป็น 4 กิกะวัตต์ชั่วโมง พร้อมทุ่มงบลงทุนปีนี้กว่า 1 หมื่นล้าน
นายวสุ กลมเกลี้ยง Executive Vice President บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ (EA) กล่าวในเวทีสัมมนา Investment Forum : New Chapter, New Opportunity หัวข้อ "ล้วงลึก หุ้นมหาชน แผนธุรกิจรับบริบทใหม่ประเทศไทย" จัดโดย "กรุงเทพธุรกิจ" ว่า การดึงโอกาสที่มีอยู่ในตลาดทั้งในเรื่องของวิกฤติโรคภัย ฝุ่น PM2.5 มาทำให้โลกเปลี่ยนนั้นคือ คนปัจจุบันคำนึงถึงนโยบาย ESG มากขึ้น ซึ่งปัจจุบันได้เข้ามาในตลาดทุนเช่นกัน อีกทั้ง หากสุดท้ายแล้วเรื่องภาษีคาร์บอนเกิดขึ้น จะต้องทรานฟอร์เมชั่น
อย่างไรก็ตาม เราผลิตปาล์มออยล์ถือเป็นอันดับ 3 ของโลก สามารถผลิตกรีนดีเซลได้ ที่สามารถนำมาใช้ทดแทนเพื่อลดคาร์บอน จะเห็นว่าโรงไฟฟ้าเดิมที่ใช้ถ่านหินปัจจุบันนี้ จะเป็นพลังงานลม และพลังงานแสงอาทิตย์มากขึ้น ซึ่งบริษัทก็ได้เริ่มทำแล้ว ส่วนตัวแบตเตอรี่ในช่วงนี้ หากนำมาใช้เพื่อเก็บไฟจะไม่คุ้มทุน ดังนั้น จึงมองว่าการทำธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า (อีวี) จะเป็นทางออกที่ดีกว่า
"ในช่วง 5-10 ปีที่ผ่านมา มีการพูดถึงรถอีวี ซึ่งตอนนี้พบว่ามีการเติบโตก้าวกระโดด จะเห็นได้จากช่วงวิกฤติโควิด-19 อีกทั้ง ด้วยตัวเทคโนโลยี และอีโคโนมิคที่เปิดกว้างมากขึ้น จึงถือเป็นโอกาส โดยเริ่มจากต้นน้ำด้วยการตั้งโรงงานแบตเตอรี่ โรงงานผลิตรถอีวี อาทิ รถบัส รถทรัค หรือแม้แต่ติดตั้งสถานีชาร์จรถอีวี ปัจจุบันมีกว่า 400 โลเคชั่น มากกว่า 4,000 หัวชาร์จ ซึ่งการที่เราได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานส่งเสริมการลงทุน (BOI) แม้ตลาดไม่ใหญ่แต่เพียงพอที่ทำให้เราเดินหน้าต่อในตลาดนี้ได้ อีกทั้ง บริษัทมีทั้ง อี สมาร์ทเฟอร์รารี่ อีวีบัส ที่ส่งมอบแล้วกว่า 2 พันคัน มี มินิทรัค มายทรัค ก็ได้เริ่มส่งแล้ว ซึ่งขณะนี้ อยู่ระหว่างทดสอบรถไฟร่วมกับการรถไฟแห่งประเทศไทย"
ทั้งนี้ บริษัท จะขยายโรงงานแบตเตอรี่จากขนาด 1 กิกะวัตต์ชั่วโมง เป็น 4 กิกะวัตต์ชั่วโมง ตามเทรนด์เทคโนโลยีที่เปลี่ยนไปโดยใช้ แบตเตอรี่ LFP เพื่อตอบสนองตลาด โดยตัวรถปัจจุบัน 3,000 คัน เราเป็นโรงผลิตรถ ไม่ได้ประกอบรถใหญ่สุดในอาเซียน และปลายปีนี้จะเห็นโลจิสติกส์หลายบริษัทเอาทรัคบริษัทไปใช้
นายวสุ กล่าวว่า บริษัทอยู่ระหว่างพัฒนาแอปพลิเคชัน เพื่อเชื่อมต่อการใช้งานทั้ง รถ เรือ และราง โดย 3 ปีเรามีรายได้โต 34% ถือว่าเติบโต 1.85 เท่า โดยมาจาก อีวี อีโคซิสเต็ม ซึ่งเป้าหมายปีนี้จะโตมากกว่า 50% ของปี 2565 ถือว่าเป็นปีที่มีการเติบโตเป็นประวัติศาสตร์ ส่วนปีถัดไปเราพยายามบาลานซ์พอร์ตที่มีอยู่ ยังมีตัวที่จะรีเทิร์น ปลายปีนี้จะเห็นโปรดักต์ใหม่ออกสู่ตลาด และปีนี้คาดว่าจะใช้งบลงทุนราว 1 หมื่นล้านบาท
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์
