จัดตั้งธุรกิจใหม่เดือนพ.ค.สูงสุดในรอบ 10 ปี ขณะที่ยอดรวม 5 เดือนแรกพุ่ง 18 %
“จุรินทร์”เผยบริษัทจัดตั้งใหม่เดือนพ.ค.จำนวน 7,437 ราย เพิ่มขึ้น 23% ด้านกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ยอดตัวเลขตั้งธุรกิจใหม่เฉพาะเดือนพ.ค.สูงสุดในรอบ 10 ปี ขณะที่ 5 เดือนแรกปี 66 จัดตั้งรวม สูงสุดในรอบ 10 ปี เช่นเดียวกัน โดยเพิ่มขึ้นถึง 17.90% ธุรกิจท่องเที่ยวโตแรง
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงผลการจดทะเบียนธุรกิจของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ประจำเดือน พ.ค.2566 ว่า มีผู้ประกอบธุรกิจยื่นขอจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่ทั่วประเทศ จำนวน 7,437 ราย เพิ่มขึ้น 23% เมื่อเทียบกับเดือน เม.ย.2566 และเพิ่มขึ้น 26% เมื่อเทียบกับพ.ค.2565 มีมูลค่าทุนจดทะเบียน 28,414.47 ล้านบาท โดยประเภทธุรกิจจัดตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ รองลงมา คือ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป และธุรกิจภัตตาคาร ร้านอาหาร
ส่วนธุรกิจเลิกประกอบกิจการ มีจำนวน 1,234 ราย เทียบกับเม.ย.2566 เพิ่ม 32% เทียบกับ พ.ค.2565 เพิ่มขึ้น 12% มีมูลค่าทุนจดทะเบียนเลิกประกอบกิจการ 8,239.90 ล้านบาท โดยประเภทธุรกิจที่เลิกประกอบกิจการสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจภัตตาคาร ร้านอาหาร
ปัจจุบันมีธุรกิจดําเนินกิจการอยู่ทั้งสิ้น ณ วันที่ 31 พ.ค.2566 จำนวน 876,953 มูลค่าทุน 21.30 ล้านล้านบาท จําแนกเป็นบริษัทจํากัด จํานวน 672,424 ราย คิดเป็น 76.68% ห้างหุ้นส่วนจํากัด ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล จํานวน 203,124 ราย คิดเป็น 23.16% และบริษัทมหาชนจํากัด จํานวน 1,405 ราย คิดเป็น 0.16% ตามลําดับ
ด้านนายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กล่าวว่า ภาพรวมการจัดตั้งธุรกิจในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2566 มีจำนวนการจัดตั้งธุรกิจเพิ่มขึ้น โดยการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจในเดือนพ.ค. 2566 เป็นการจดทะเบียนจัดตั้งใหม่สูงสุดในรอบ 10 ปี ของเดือนพ.ค. (พ.ค. 2557 - 2566) และสูงสุดในรอบ 10 ปี เป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกัน (ม.ค. - พ.ค. 66) ส่งผลให้สถิติการจัดตั้งธุรกิจใหม่ 5 เดือนแรก 39,660 ราย เพิ่ม 17.90% สูงสุดในรอบ 10 ปี เช่นเดียวกัน
ทั้งนี้ ประเภทธุรกิจที่มีการจัดตั้งสูงสุด 3 อันดับแรกในเดือนพ.ค. 2566 ได้แก่ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจก่อสร้างทั่วไป และธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหาร โดยมีสัดส่วนคิดเป็น 7.50%, 6.46% และ 4.96% ตามลำดับ และประเภทธุรกิจที่มีการจัดตั้งสูงสุดในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2566 ได้แก่ ก่อสร้างอาคารทั่วไป อสังหาริมทรัพย์ และภัตตาคาร/ร้านอาหาร โดยมีสัดส่วนคิดเป็น 7.57%, 7.33% และ 4.69% ตามลำดับ
นอกจากนี้ พบว่า ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวยังคงมาแรง ในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2566 โดยมีสัดส่วนการจัดตั้งใหม่คิดเป็น 8.10% ของธุรกิจที่จัดตั้งใหม่ทั้งหมด และมีอัตราการจัดตั้งใหม่เพิ่มขึ้นถึง 96.63% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (ม.ค. - พ.ค. 65) โดยเฉพาะธุรกิจแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศที่เพิ่มขึ้นถึง 3.89 เท่า รองลงมาคือ ธุรกิจตัวแทนการเดินทาง เพิ่มขึ้น 2.81 เท่า ธุรกิจจัดนำเที่ยว เพิ่มขึ้น 2.25 เท่า ธุรกิจภัตตาคาร ร้านอาหาร เพิ่มขึ้น 67.18% และธุรกิจ โรงแรม รีสอร์ท และห้องชุด เพิ่มขึ้น 49.14% ตามลำดับ
นอกจากนี้ พบว่า ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวยังคงมาแรง ในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2566 โดยมีสัดส่วนการจัดตั้งใหม่คิดเป็น 8.10% ของธุรกิจที่จัดตั้งใหม่ทั้งหมด และมีอัตราการจัดตั้งใหม่เพิ่มขึ้นถึง 96.63% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (ม.ค. - พ.ค. 65) โดยเฉพาะธุรกิจแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศที่เพิ่มขึ้นถึง 3.89 เท่า รองลงมาคือ ธุรกิจตัวแทนการเดินทาง เพิ่มขึ้น 2.81 เท่า ธุรกิจจัดนำเที่ยว เพิ่มขึ้น 2.25 เท่า ธุรกิจภัตตาคาร ร้านอาหาร เพิ่มขึ้น 67.18% และธุรกิจ โรงแรม รีสอร์ท และห้องชุด เพิ่มขึ้น 49.14% ตามลำดับคาดว่าเป็นผลจากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศซึ่งสะท้อนผ่านดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากปัจจัยดังกล่าวข้างต้น
ทั้งนี้กรมพัฒนาธุรกิจการค้าคาดการณ์การจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2566 อยู่ที่ประมาณ 42,000 - 45,000 ราย และตลอดทั้งปี 2566 อยู่ที่ประมาณ 75,000 - 78,000 ราย” “นายทศพล กล่าว