ทอท.แจงเหตุทางเลื่อนดอนเมือง รับใช้งานมานาน 27 ปี
ทอท.พร้อมเยียวยาเหตุทางเลื่อนดูดขาผู้โดยสาร รับใช้งานมานานกว่า 27 ปี แต่ตรวจสอบอุปกรณ์ตามมาตรฐานกำหนด ล่าสุดตรวจเมื่อ 21 มิ.ย.ที่ผ่านมา กางแผนหลังจากนี้เตรียมเร่งเสนอของบจัดซื้อใหม่ เน้นเทคโนโลยีระบบความปลอดภัยสูง
นายกีรติ กิจมานะวัฒน์ ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. กล่าวว่า เมื่อเวลา 08.40 น. ทาง ทอท.ได้รับแจ้งอุบัติเหตุเท้าผู้โดยสารเพศหญิงติดทางเลื่อน บริเวณทางเดิน South Corridor ระหว่าง Pier 4 - Pier 5 ของอาคารผู้โดยสารภายในประเทศ อาคาร 2 ท่าอากาศยานดอนเมือง (ทดม.) ขณะกำลังจะเดินทางด้วยเที่ยวบิน DD552 ดอนเมือง - นครศรีธรรมราช จนผู้โดยสารได้รับบาดเจ็บสาหัส
ในเบื้องต้น ทางทีมแพทย์ประจำท่าอากาศยานดอนเมือง ได้เข้าดูแลพร้อมนำผู้บาดเจ็บนำส่งโรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช กรมแพทย์ทหารอากาศเพื่อรับการรักษาอย่างเร่งด่วนในทันที และเมื่อเวลา 13.00 น. ได้ทำการเคลื่อนย้ายผู้บาดเจ็บไปรับการรักษาต่อที่โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ โดยคณะผู้บริหาร ทอท. ได้เดินทางเข้าเยี่ยมผู้บาดเจ็บ เพื่อติดตามการรักษา และได้รับข้อมูลจากคณะแพทย์ว่า ขณะนี้ผู้ป่วยอยู่ในกระบวนการรักษาจากทีมแพทย์อย่างใกล้ชิด และจะติดตามผลการรักษาต่อไป
ทั้งนี้ ในส่วนของทางเลื่อนปัจจุบันได้ทำการปิดการใช้เป็นการชั่วคราว และทีมวิศวกรได้เข้าสำรวจเพื่อเร่งหาสาเหตุอย่างละเอียด และตรวจสอบความปลอดภัยอีกครั้ง โดย ทอท. ได้สั่งการให้ดำเนินการตรวจสอบทางเลื่อน บันไดเลื่อนทุกตัวในพื้นที่ ทดม. และทุกท่าอากาศยาน รวมถึงได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หากพบว่ากรณีดังกล่าวเกิดจากความบกพร่อง หรือประมาท จะดำเนินการลงโทษโดยเคร่งครัด
อย่างไรก็ดี ทอท. ขอแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างยิ่ง พร้อมรับผิดชอบดูแลค่ารักษาพยาบาล และจะดำเนินการเรื่องค่าชดเชยเยียวยาผู้บาดเจ็บอย่างดีที่สุด
ด้านนายการันต์ ธนกุลจีรพัฒน์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานดอนเมือง กล่าวว่า จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิด ซึ่งเห็นภาพในระยะไกล พบว่าผู้บาดเจ็บเป็นเพศหญิง เดินทางคนเดียวกำลังจะเดินทางไปยัง จังหวัดนครศรีธรรมราช จุดเกิดเหตุบริเวณทางเดิน South Corridor ระหว่าง Pier 4 – Pier 5 อาคารผู้โดยสารภายในประเทศ อาคาร 2 โดยเหตุที่เกิดขึ้นถือว่ารุนแรง ผู้โดยสารได้รับบาดเจ็บสาหัส ขาโดนดูดเข้าไปจนถึงหัวเข่าจนขาซ้ายขาด
อย่างไรก็ดี ทดม.ขอยืนยันว่าอุปกรณ์ทางเลื่อนดังกล่าวได้รับการตรวจสอบตามมาตรฐานของบริษัทเจ้าของเทคโนโลยีตามกำหนด โดยทางเลื่อนที่ ทดม.ใช้งานอยู่นั้นเป็นของบริษัทฮิตาชิ ซึ่งมีสยามฮิตาชิเป็นตัวแทนจำหน่ายและบริการหลังการขาย ได้รับรองจากญี่ปุ่นโดยตรง มีความเชี่ยวชาญตรวจสอบตามเช็คลิสต์กำหนดเป็นประจำทุก 3 เดือน และ 1 ปี โดยเบื้องต้นจากการตรวจสอบพบว่าอุปกรณ์ทางเลื่อนในขณะเกิดเหตุไม่ได้สะดุดหรือเสียหาย แต่ทั้งนี้ ทดม.ขอตรวจสอบระบบรักษาความปลอดภัยอัตโนมัติอย่างละเอียดอีกครั้ง
ทั้งนี้ อุปกรณ์ทางเลื่อนดังกล่าวถูกติดตั้งและใช้งานมาตั้งแต่ปี 2539 โดยมีระยะเวลาใช้งานมากว่า 27 ปี โดย ทดม.ได้สอบถามไปยังบริษัทฮิตาชิมาอย่างต่อเนื่องถึงความปลอดภัยจากอุปกรณ์ ซึ่งได้รับการยืนยันจากทางบริษัทแม่ของฮิตาชิในญี่ปุ่นว่า อุปกรณ์มีความปลอดภัยยังใช้งานได้ หากบำรุงรักษาตามระยะรอบ และเปลี่ยนอะไหล่บางส่วนจะสามารถใช้งานได้ตลอด และยังคงปลอดภัยดี ซึ่งที่ผ่านมา ทดม.ตรวจสอบบำรุงรักษาตามกำหนดเสมอ โดยล่าสุดอุปกรณ์ทางเลื่อนได้รับการตรวจสอบไปเมื่อวันที่ 21 มิ.ย.ที่ผ่านมา
นายการันต์ ยังกล่าวด้วยว่า ทดม.มีแผนปรับเปลี่ยนอุปกรณ์ทางเลื่อนภายในท่าอากาศยานอยู่แล้ว ซึ่งจะเสนอขอใช้งบประมาณในปี 2568 และจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ จะเสนอของบประมาณเร่งด่วนเพื่อปรับเปลี่ยนอุปกรณ์ทางเลื่อนก่อนกำหนด โดยจะเร่งเปลี่ยนภายในปีงบประมาณ 2567 นอกจากนี้จะเพิ่มความปลอดภัย และความมั่นใจแก่ผู้โดยสาร จะเพิ่มความถี่ในการเข้าตรวจสอบอุปกรณ์ให้มากขึ้น
อย่างไรก็ดี ทดม.ยอมรับว่าอุปกรณ์ทางเลื่อนที่ใช้งานอยู่ในปัจจุบันนั้น เป็นเทคโนโลยีเก่าหากเทียบกับทางเลื่อนของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ซึ่งระบบความปลอดภัยอัตโนมัติ เซ็นเซอร์บริเวณซี่หวีของทางเลื่อนในเทคโนโลยีเก่าเป็นการเช็คความตึงของโซ่ ส่วนแบบใหม่จะมีอุปกรณ์เซ็นเซอร์บริเวณใต้ซี่หวี ระบบความปลอดภัยอัตโนมัติจะทำงานได้ไวกว่า แต่อย่างไรตอนนี้ยังไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริงของเหตุที่เกิดขึ้น ว่าเกิดจากเหตุขัดข้องส่วนใดหรือไม่
“ที่ผ่านมาดอนเมืองตรวจสอบซี่หวีทางเลื่อนตลอด ในเช้าวันนี้ก่อนเปิดใช้งานก็มีการตรวจสอบ ซึ่งพบว่าวันนี้ไม่มีซี่หวีบริเวณปลายทางเลื่อนหักเลย แต่ภาพที่ออกไปว่าหัก คือ ภาพของกระเป๋าล้อเลื่อนเข้าไปชน ทำให้ซี่หวีหักไป โดยดอนเมืองตรวจสอบตลอดเพื่อไม่ให้ซี่หวีทางเลื่อนหักเกิน 2 ชิ้น เป็นไปตามความปลอดภัย เพราะหากซี่หวีหักชิ้นเดียวก็ยังคงใช้งานได้อยู่ แต่หากหักสองชิ้นจะมีการปรับเปลี่ยนทันที”
ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุ ทดม.ได้ปิดทุกจุดที่เป็นทางเลื่อนเพื่อสอบสาเหตุ ซึ่งมีจำนวน 20 จุด และเพื่อความปลอดภัย ตอนนี้ต้องตรวจสอบหาข้อเท็จจริงก่อน โดยยังไม่ขอฟันธงเหตุ แต่จากการตรวจสอบทางเลื่อนยืนยันว่าตรวจสอบตามมาตรฐานมาตลอด แต่อุบัติเหตุคงต้องดูเชิงลึกอีกที หากพบว่าเกิดความผิดพลาดจากอุปกรณ์ จะไปดูสัญญาที่ทำไว้กับสยามฮิตาชิ เพื่อดำเนินการตามสัญญา ส่วนค่ารักษาผู้ป่วย ค่าชดเชยต่างๆ ทดม.จะรับผิดชอบเต็มที่
นายการันต์ กล่าวทิ้งท้ายว่า ในนามท่าอากาศยานดอนเมือง ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งกับเหตุที่เกิดขึ้น โดยท่าอากาศยานพร้อมที่จะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทุกกรณี เราขอความเชื่อมั่นจากผู้มาใช้บริการ ว่าจะตรวจสอบและแก้ไขปรับปรุงประสิทธิภาพให้มีปลอดภัย และจะทำให้ไม่มีอุบัติเหตุแบบนี้เกิดขึ้นเป็นครั้งที่สอง