ไขข้อข้องใจ ขับ 'รถ EV' ลุยน้ำ จะพังหรือเสี่ยงไฟช็อตหรือไม่

ช่วงนี้เป็นช่วงฤดูฝน โดยหลาย ๆ พื้นที่โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ ฝนตกหนัก อีกทั้งกลุ่มผู้ใช้ยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่ปัจจุบันมียอดจดทะเบียน  ตั้งแต่เดือน ม.ค.-พ.ค.2566 ที่จดทะเบียนตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ ทั้งสิ้น 32,450 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 2565 ถึง 474.43%  และอาจกำลังสงสัยว่าถ้าขับรถ EV ขณะฝนตก น้ำท่วมขัง จะสามารถทำได้หรือไม่ 

ทั้งนี้ จากข้อมูล PTTGroup บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ระบุว่า  รถ EV สามารถใช้งานได้ตามปกติแม้โดนฝน เพราะมอเตอร์ แบตเตอรี่ และอุปกรณ์เชื่อมต่อระบบไฟฟ้า ต่างได้รับการปกป้องเป็นอย่างดีด้วยฉนวนไฟฟ้า 

นอกจากนี้ ยังสามารถับรถ EV ลุยน้ำท่วม น้ำขัง และฝนตกหนักได้ แต่ความสูงของน้ำนั้นก็ไม่ควรเกินล้อรถ ที่ระดับประมาณ 40 เซ็นติเมตร อีกทั้ง ยังไม่ควรจอดรถ EV แช่น้ำที่ท่วมขังเป็นเวลานาน เพราะอาจส่งผลกระทบต่อระบบต่าง ๆ ของรถ EV ได้ โดยเฉพาะระบบแบตเตอรี่ 

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ไม่ควรทำอีกสิ่งที่สำคัญคือ การเสียบสายชาร์จไฟฟ้า ทั้งแบบ AC และ DC ในขณะที่ฝนกำลังตก แต่หากผู้ใช้รถ EV มีการชาร์จไฟฟ้ารถ EV ไว้แล้วหน้าที่ฝนจะตก ก็สามารถชาร์จไฟฟ้าต่อไปได้โดยไม่มีปัญหาอะไร 

ดังนั้น หากจำเป็นจะต้องขับรถ EV ในขณะน้ำท่วม ควรเพิ่มความระมัดระวังยิ่งขึ้น โดยใช้ความเร็วต่ำ และคอยระมัดระวังสิ่งกีดขวางบนท้องถนนที่อาจเข้ามากระทบกับแบตเตอรี่ที่เป็นส่วนประกอบสำคัญของรถ EV 

นอกจากนี้ ประเทศไทยถือว่ามีสภาพอากาศที่ร้อน ๆ ในยามที่ไม่มีฝนตก หากจอดรถตากแดด จะทำให้สิ่งของต่าง ๆ ในรถเกิดผลเสียได้ สิ่งที่ไม่ควรเก็บไว้ในรถ ประกอบด้วย

แบตเตอรี่สำรอง (Power Bank) เพราะความร้อนจะทำให้เสื่อมประสิทธิภาพได้ 

อุปกรณ์ที่มีแบตเตอรี่ทุกชนิด ความร้อนอาจทำให้วงจรภายในได้รับความเสียหาย เสี่ยงต่อการช็อตและระเบิดได้ เช่น โทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต โน้ตบุ๊ก 

สเปรย์แอลกอฮอล์ สเปรย์กระป๋อง ความร้อนทำให้แก๊สในกระป๋องขยายตัว มีแรงดันสูง เสี่ยงเกิดการระเบิดได้

ไฟแช็ก เป็นสารเคมีอันตรายที่ไม่ควรโดนความร้อน

แผ่นยางกันลื่นหน้ารถ หากโดนแดดเผาละลาย จะกลายเป็นคราบเหนียวติดคอนโซลหน้ารถได้

ยา แสงแดดทำให้ยาเสื่อมสภาพ คุณสมบัติในการรักษาลดลง

ข้อมูลอ้างอิง : https://ptt2023.com/ElectricVehicle