ราชกิจจาฯ เผยแพร่ประกาศ ยกเว้นภาษีนำเข้าชิ้นส่วน-แบตเตอรี่ รถ EV-เรือไฟฟ้า
ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ ประกาศกระทรวงการคลัง ยกเว้นอากรศุลกากรสำหรับชิ้นส่วนยานยนต์ไฟฟ้า หรือเรือแบบพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่
เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การยกเว้นอากรศุลกากรสำหรับชิ้นส่วนยานยนต์ไฟฟ้า หรือเรือแบบพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ ความว่า
เพื่อประโยชน์แก่การเศรษฐกิจของประเทศ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 12 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชกำหนดพิกัดอัตราศุลกากร พ.ศ. 2530 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โดยความเห็นชอบ ของคณะรัฐมนตรีออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 ในประกาศนี้ “ยานยนต์ไฟฟ้า” หมายความว่า รถยนต์ รถกระบะ รถจักรยานยนต์ รถสามล้อ รถโดยสาร หรือรถบรรทุก แบบพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ (Battery Electric Vehicle : BEV)
“เศษ” หมายความว่า ส่วนที่เหลือจากการผลิตซึ่งไม่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ตามวัตถุประสงค์ เดิมที่นำเข้าได้
ข้อ 2 ให้ยกเว้นอากรสำหรับของและส่วนประกอบของของ ดังต่อไปนี้ ไม่ว่าจะจัดอยู่ ในพิกัดประเภทใด ที่นำเข้ามาตั้งแต่วันที่ประกาศนี้ใช้บังคับถึงวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2568 เพื่อประกอบหรือผลิตเป็นยานยนต์ไฟฟ้า หรือเรือแบบพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ ขึ้นใหม่ โดยไม่รวมถึงยานยนต์ไฟฟ้า หรือเรือแบบพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ ดัดแปลง
(1) แบตเตอรี่ (battery)
(2) มอเตอร์ขับเคลื่อนยานยนต์ไฟฟ้า (traction motor)
(3) คอมเพรสเซอร์สำหรับยานยนต์ไฟฟ้า
(4) ระบบบริหารจัดการแบตเตอรี่ (BMS)
(5) ระบบควบคุมการขับขี่
(6) ออนบอร์ดชาร์จเจอร์ (on-board charger)
(7) ดีซี/ดีซี คอนเวอร์เตอร์ (DC/DC converter)
(8) อินเวอร์เตอร์ (inverter) รวมถึง พีซียู อินเวอร์เตอร์ (PCU inverter)
(9) รีดักชัน เกียร์ (reduction gear) ของตามวรรคหนึ่งที่นำเข้าในลักษณะที่ประกอบติดอยู่ร่วมกัน ตั้งแต่ 2 ชิ้นขึ้นไป ให้ได้รับ ยกเว้นอากรตามประกาศนี้ แต่ของตามวรรคหนึ่งที่นำเข้าในลักษณะที่ประกอบติดอยู่ร่วมกันกับของที่ ไม่ได้รับยกเว้นอากรตามประกาศนี้จะไม่ได้รับสิทธิยกเว้นอากร
ข้อ 3 การยกเว้นอากรตามข้อ 2 ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไข ดังต่อไปนี้
(1) มีหนังสือรับรองจากสถาบันยานยนต์ว่าเป็นของหรือส่วนประกอบของของสำหรับนำมา เพื่อประกอบหรือผลิตเป็นยานยนต์ไฟฟ้า หรือเรือแบบพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่
(2) ของที่ได้รับยกเว้นอากรต้องนำไปใช้ประกอบหรือผลิตเป็นยานยนต์ไฟฟ้า หรือเรือ แบบพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ ให้แล้วเสร็จภายในกำหนดเวลาหนึ่งปีนับแต่วันที่นำของเข้า
หากกมีเหตุขัดข้องให้ขอขยายระยะเวลาต่ออธิบดีกรมศุลกากรก่อนครบกำหนดเวลาดังกล่าว และอธิบดีกรมศุลกากรอาจขยายระยะเวลาได้ตามสมควรแต่ต้องไม่เกินหกเดือน
หากปรากฏในภายหลังว่าของที่ได้รับยกเว้นอากรไม่สามารถหรือไม่ได้นำไปใช้ประกอบหรือผลิต เป็นยานยนต์ไฟฟ้า หรือเรือแบบพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ ภายในกำหนดเวลาตามวรรคหนึ่ง ให้ผู้นำของเข้า ส่งของนั้นออกไปนอกราชอาณาจักรหรือชำระอากรโดยถือสภาพของของ ราคา และอัตราอากร ที่เป็นอยู่ในวันที่นำของเข้า
ข้อ 4 เศษที่ไม่ใช้ หรือเศษที่ใช้ไม่ได้ของของที่ได้รับยกเว้นอากรตามประกาศนี้ ให้ผู้นำของเข้า ขออนุญาตทำลาย ส่งออกไปนอกราชอาณาจักร หรือดำเนินการอย่างอื่นตามที่อธิบดีกรมศุลกากร ประกาศกำหนด หากไม่ดำเนินการดังกล่าวให้ถือว่าสิทธิที่ได้รับยกเว้นอากรสิ้นสุดลงในวันที่ ครบกำหนดเวลาตามข้อ 3 (2) และต้องชำระอากรโดยถือสภาพของของ ราคา และอัตราอากร ที่เป็นอยู่ในวันที่สิทธิที่ได้รับยกเว้นอากรสิ้นสุดลงเป็นเกณฑ์ในการคำนวณอากร
ข้อ 5 ผู้นำของเข้าต้องยื่นขออนุมัติก่อนการนำของเข้า และจะได้รับการยกเว้นอากร เมื่อได้รับอนุมัติ
ข้อ 6 ผู้นำของเข้าต้องปฏิบัติตามพิธีการที่อธิบดีกรมศุลกากรประกาศกำหนด
ข้อ 7 ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2566
อาคม เติมพิทยาไพสิฐ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง