สนข.เตรียมชงรัฐบาลทุ่ม 9.3 พันล้าน ลุยแผน W-Map คมนาคมทางน้ำ
สนข.เตรียมเสนอรัฐบาลใหม่ทุ่มงบ 9.3 พันล้านบาท ลุยแผนพัฒนาการเดินทางทางน้ำในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล หวังเพิ่มโครงข่ายขนส่งทางน้ำครบ 196.6 กิโลเมตร นำร่องเฟสแรก 4 เส้นทาง ทยอยเปิดบริการปี 2568
นายปัญญา ชูพานิช ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เปิดเผยว่า ปัจจุบัน สนข.ได้ศึกษาแผนปฏิบัติการด้านการพัฒนาการเดินทางทางน้ำในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล (พ.ศ. 2566 - 2575) หรือ W-Map มุ่งเน้นให้เกิดเส้นทางในการเดินทางทางน้ำจาก 131.2 กิโลเมตร เป็น 196.6 กิโลเมตร เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการเดินทางของประชาชน ลดปัญหาการจราจรติดขัด ซึ่งขณะนี้ได้ศึกษาแล้วเสร็จเสนอไปยังกระทรวงคมนาคมพิจารณา
โดยตามแผนพัฒนาดังกล่าว คาดการณ์ว่าจะจัดใช้งบลงทุนรวม 9,322.10 ล้านบาท ประกอบด้วย เส้นทางเดิมในปัจจุบัน จำนวน 4 เส้นทาง อาทิ เส้นทางเดินเรือแม่น้ำเจ้าพระยา เส้นทางคลองผดุงกรุงเกษม และเส้นทางคลองประเวศบุรีรมย์ ระยะทาง 65.4 กิโลเมตร วงเงินลงทุน 1,321.05 ล้านบาท จะมีการพัฒนาบริการจุดเชื่อมต่อล้อ ราง เรือ ให้สะดวกมากยิ่งขึ้น ซึ่งรวมไปถึงการพัฒนาท่าเรือต่างๆ ให้มีบริการสิ่งอำนวยความสะดวกรองรับผู้โดยสาร
ขณะที่เส้นทางพัฒนาใหม่ในแผนระยะสั้น (ระหว่างปี 2566 - 2570) มีจำนวน 4 เส้นทาง ระยะทาง 74.3 กิโลเมตร คาดใช้งบประมาณลงทุน 5,305.07 ล้านบาท ประกอบด้วย 1.เส้นทางเดินเรือในคลองลาดพร้าว ช่วงสายไหมถึงพระโขนง (S1) วงเงินลงทุน 1,446.21 ล้านบาท ระยะทาง 25.7 กิโลเมตร จำนวน 23 ท่าเรือ คาดพร้อมเปิดให้บริการในปี 2569
2. เส้นทางเดินเรือในคลองแสนแสบ (S2) วงเงินลงทุน 3,240.70 ล้านบาท จะแบ่งออกเป็น ช่วงวัดศรีบุญเรืองถึงถนนสุวินทวงศ์ ระยะทาง 12 กิโลเมตร จำนวน 16 ท่าเรือ, ช่วงสะพานผ่านฟ้าลีลาศถึงวัดศรีบุญเรือง ระยะทาง 17.3 กิโลเมตร จำนวน 28 ท่าเรือ และช่วงป้อมพระสุเมรุถึงสะพานผ่านฟ้าลีลาศ หรือคลองบางลำพู ระยะทาง 1.5 กิโลเมตร จำนวน 3 ท่าเรือ คาดพร้อมเปิดให้บริการในปี 2569
3. เส้นทางเดินเรือในคลองขุดมหาสวัสดิ์ - คลองบางกอกน้อย ช่วงประตูน้ำฉิมพลีถึงศิริราช (S3) วงเงินลงทุน 397.53 ล้านบาท ระยะทาง 17.1 กิโลเมตร จำนวน 18 ท่าเรือ คาดเปิดให้บริการในปี 2568
4. เส้นทางเดินเรือในคลองขุดมหาสวัสดิ์ ช่วงประตูน้ำมหาสวัสดิ์ถึงวัดชัยพฤกษมาลา (S4) วงเงินลงทุน 219.93 ล้านบาท ระยะทาง 28 กิโลเมตร จำนวน 13 ท่าเรือ ซึ่งคาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในปี 2568
นายปัญญา ยังกล่าวต่อว่า ภายใต้แผนพัฒนาการเดินทางทางน้ำกรุงเทพฯ และปริมณฑล สนข.ได้ศึกษาเส้นทางที่จะพัฒนาในระยะยาว (ระหว่างปี 2571 - 2575) จำนวน 3 เส้นทาง ระยะทาง 56.9 กิโลเมตร คาดใช้งบประมาณรวม 2,695.98 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะทยอยเปิดบริการในปี 2572 ประกอบด้วย
1.เส้นทางเดินเรือในคลองเปรมประชากร ช่วงวัดรังสิตถึงบางซื่อ
2. เส้นทางเดินเรือในแม่น้ำเจ้าพระยาส่วนต่อขยาย ช่วงปากเกร็ดถึงที่ว่าการอำเภอเมืองจังหวัดปทุมธานี
3. เส้นทางเดินเรือในคลองประเวศบุรีรมย์ส่วนต่อขยาย ช่วงตลาดเอี่ยมสมบัติถึงวัดสังฆราชา
“แผนพัฒนาการเดินทางทางน้ำนี้ สนข.รับหน้าที่ในการศึกษาความเป็นไปได้ และจัดลำดับเส้นทางที่มีความสำคัญเร่งด่วน เพื่อนำเสนอแผนนี้ให้กับกระทรวงคมนาคม และคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.)เพื่อบรรจุเป็นวาระของการพัฒนาโครงข่ายขนส่ง พร้อมทั้งมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผู้ดูแลเส้นทางทางน้ำต่างๆ ไปพัฒนา อาทิ กรุงเทพมหานคร (กทม.) และกรมเจ้าท่า เป็นต้น”
ทั้งนี้ สนข.มั่นใจว่าแผนพัฒนาการเดินทางทางน้ำกรุงเทพฯ - ปริมณฑล จะได้รับการพิจารณาจากกระทรวงคมนาคมและเสนอเข้าสู่ที่ประชุม คจร.รวมไปคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาภายในปีนี้ โดยหลังมีการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ มั่นใจว่าจะมีการผลักดันแผนดังกล่าวสู่การปฏิบัติ เนื่องจากเป็นแผนการลงทุนที่เหมาะสม สามารถแก้ปัญหาการจราจรติดขัด เป็นทางเลือกให้แก่ประชาชนในการเดินทางเชื่อมกรุงเทพฯ และปริมณฑล
สำหรับรูปแบบการลงทุน เบื้องต้นศึกษาความเหมาะสมเป็นการเปิดประกวดราคาจัดหาเอกชนเข้ามาให้บริการเดินเรือในเส้นทางต่างๆ ซึ่งหน่วยงานที่กำกับดูแลเส้นทางน้ำจะเป็นผู้เปิดประกวดราคาเอง อย่างไรก็ดี สนข.ประเมินว่าภายหลังพัฒนาเส้นทางเดินทางทางน้ำที่กำหนดไว้แล้วเสร็จ จะสร้างความสะดวกในคมนาคมทางน้ำ เพิ่มท่าเรือบริการจาก 103 แห่ง เป็น 200 แห่ง และจะดึงดูดผู้โดยสารใช้บริการในปี 2570 เพิ่มเป็น 66,060 คนต่อวัน ก่อนขยายต่อเนื่องในปี 2575 เป็นจำนวน 83,484 คนต่อวัน