ทอท.รับลูกนายกฯ เศรษฐา เคลียร์ตารางบินรับท่องเที่ยวจีน
ทอท.รับลูก “นายกฯ เศรษฐา” เตรียมเคลียร์สล็อตการบินถูกทิ้งร้างในตารางบินฤดูหนาวนี้ หวังเพิ่มขีดความสามารถเปิดรับเที่ยวบินจีนเพิ่มขึ้น 20% มั่นใจนโยบายฟรีวีซ่าจะกระตุ้นนักท่องเที่ยวตัดสินใจเดินทาง ขณะที่ กพท.เร่งประสานทุกแอร์ไลน์ให้มีความพร้อมรับการฟื้นตัว
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี นำทีมคณะกรรมการด้านเศรษฐกิจของพรรคเพื่อไทย ประชุมที่พรรคเพื่อไทยร่วมกับผู้ประกอบการสายการบินของไทย 8 สายการบิน เมื่อวันที่ ประกอบด้วย การบินไทย บางกอกแอร์เวย์ส ไทยแอร์เอเชีย ไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์ นกแอร์ ไทยสมายล์ ไทยไลอ้อนแอร์ และไทยเวียตเจ็ท
รวมถึงหารือกับบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท.และสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) เกี่ยวกับสถานการณ์คมนาคมทางอากาศที่จะส่งเสริมการท่องเที่ยวช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว (ไฮซีซัน) ปลายปีนี้
สำหรับปัญหาที่เสนอนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย อาทิ
1.การเพิ่มจำนวนเที่ยวบินให้ทันไฮซีซันอย่างน้อย 20%
2.การเพิ่มศักยภาพเครื่องบินให้การปรับเที่ยวบินที่จะเพิ่มขึ้น
3.การเพิ่มโอกาสผลักดันนักท่องเที่ยวในตลาดขนาดใหญ่ เช่น จีน และอินเดีย
4.การเพิ่มจำนวนเครื่องบินให้เหมาะสมกับการส่งเสริมการท่องเที่ยว
นายเศรษฐา กล่าวว่า ขอขอบคุณ ทอท.ที่ร่วมมือส่งเสริมการทำงานกับรัฐบาลเพื่อไทย ในการเตรียมตัวล่วงหน้าเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวช่วงไฮซีซัน ซึ่งส่งเสริมรายได้เข้าประเทศและกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น ทั้งการบริหารจัดการในสนามบิน การเพิ่มเที่ยวบิน และการเพิ่มหรือขยายรันเวย์
“ข้อเสนอของสายการบินเป็นความร่วมมือที่ดีในการร่วมกันส่งเสริมและสร้างรายได้เข้าประเทศ เป็นเรื่องดีที่ทุกสายการบินตอบรับนโยบายฟรีวีซ่าในประเทศที่มีศักยภาพ เช่น จีน ซึ่งคาดว่าทุกสายการบินต้องการขยายจำนวนเที่ยวบินรับนักท่องเที่ยวตอบรับนโยบายทั้งเที่ยวบินภายในประเทศและต่างประเทศ”
ทั้งนี้ รัฐบาลเพื่อไทยมีแผนจะไปโปรโมตการท่องเที่ยวไทยในต่างประเทศปี 2567 ในเที่ยวบินที่มีความพร้อม ซึ่งแต่ละสายการบินมีสัญญาณที่ดีว่าหากรัฐบาลสามารถเพิ่มความต้องการนักท่องเที่ยวไทยได้ สายการบินจะแข่งขันกันโปรโมตการท่องเที่ยวร่วมกัน ซึ่งจะทำให้นักท่องเที่ยวเข้าถึงตั๋วโดยสารในราคาเหมาะสม
นายกีรติ กิจมานะวัฒน์ ผู้อํานวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จํากัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยภายหลังหารือร่วมกับ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) และผู้ประกอบการสายการบินของไทย รวม 8 สายการบิน โดยระบุว่า ทอท.ได้ยืนยันความพร้อมถึงการรองรับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามาในช่วงตารางบินฤดูหนาว เริ่มต้นในเดือน ต.ค.นี้ ที่ถือเป็นไฮซีซันทางการท่องเที่ยว
อีกทั้งยังได้รับทราบถึงนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการเปิด Free visa ในบางประเทศที่มีศักยภาพ เช่น จีน และอินเดีย กระตุ้นให้นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ตัดสินใจเดินทางท่องเที่ยวในไทยมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้ ทอท.ต้องเตรียมความพร้อมขีดความสามารถของท่าอากาศยาน โดยเฉพาะในส่วนของตารางการบิน (สล็อต) ในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ท่าอากาศยานดอนเมือง และหัวเมืองท่องเที่ยวอย่างภูเก็ต และเชียงใหม่
“รัฐบาลได้ยืนยันถึงนโยบายกระตุ้นการท่องเที่ยวซึ่งเป็นเม็ดเงินก้อนใหญ่สามารถฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว โดยต้องขอขอบคุณที่รัฐบาลจะผลักดันนโยบาย Free visa ให้ทันต่อช่วงไฮซีซันนี้ เพราะจะทำให้นักท่องเที่ยวฟื้นตัวในทันที โดยเฉพาะตลาดจีนที่ปัจจุบันยังไม่ค่อยเดินทางมา หากเทียบกับช่วงก่อนเกิดโควิด-19”
ทั้งนี้ ทอท.ตอบรับนโยบายรัฐบาลโดยจะเตรียมความพร้อมส่วนของการจัดสรรสล็อตการบินในท่าอากาศยานต่างๆ ให้เพียงพอต่อการฟื้นตัวของสายการบินในประเทศเป้าหมายโดยเฉพาะจีน เนื่องจากปัจจุบันสล็อตการบินในท่าอากาศยานต่างๆ ยังมีสายการบินจองไว้แต่ไม่ทำการบิน ดังนั้นหลังจากนี้ ทอท.จะประสานไปยังสายการบินเพื่อขอคืนสล็อต และนำมาจัดสรรใหม่ให้กับสายการบินจีนที่ต้องการเดินทางเข้ามา โดยคาดการณ์ว่าจะเพิ่มเที่ยวบินได้มากถึง 20%
นายกีรติ ยังกล่าวด้วยว่า แม้ว่าปัจจุบันนักท่องเที่ยวจีนจะยังไม่มีดีมานด์เดินทางมามากนัก ซึ่งอาจเกิดจจากหลายปัจจัยทั้งในด้านเศรษฐกิจในประเทศจีนเอง แต่ ทอท.เชื่อว่าหากรัฐบาลประกาศ Free visa จะเป็นแรงจูงใจให้นักท่องเที่ยวตัดสินใจเดินทางมาไทยเป็นเป้าหมายแรก และการที่ ทอท.จัดสรรตารางบินให้เพิ่มมากขึ้น มีสายการบินกลับมาทำการบินมากขึ้น ก็จะส่งผลต่อราคาบัตรโดยสารที่จะปรับตัวลดลง เป็นอีกหนึ่งแรงจูงใจในการเดินทางท่องเที่ยว
ด้านนายสุทธิพงษ์ คงพูล ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) กล่าวว่า การหารือร่วมกับนายกรัฐมนตรี และสายการบินในครั้งนี้ กพท.จะเป็นผู้ประสานแก่สายการบินและท่าอากาศยานต่างๆ เพื่อให้มีความพร้อมต่อการรองรับดีมานด์เดินทางในช่วงไฮซีซันนี้ ซึ่งต้องยอมรับว่าในช่วงโควิดที่ผ่านมา สายการบินได้รับผลกระทบและลดจำนวนเครื่องบินให้บริการลง ดังนั้นในระหว่างนี้ต้องเป็นการเตรียมความพร้อมให้แก่สายการบินเพื่อพร้อมกลับมารองรับการเดินทาง