'พ.ร.บ.ขนส่งทางราง' ดีเลย์ต่ออีก 1 ปี รัฐบาลมาช้าไม่ทันยืนร่างต่อสภาฯ

'พ.ร.บ.ขนส่งทางราง' ดีเลย์ต่ออีก 1 ปี รัฐบาลมาช้าไม่ทันยืนร่างต่อสภาฯ

“กรมราง" รับ พ.ร.บ.ขนส่งทางรางดีเลย์ต่ออีก 1 ปี หลังเสนอรัฐบาลใหม่ไม่ทัน ยันกฎหมายลูกมีความพร้อมครบ 82 ฉบับ สามารถเคาะเงื่อนไขออกใบอนุญาตผู้ขับขี่ได้

นายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง (ขร.) เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดงานสัมมนาโครงการศึกษา ออกแบบ และพัฒนาระบบฐานข้อมูลผู้ประกอบการและการออกใบอนุญาตด้านการขนส่งทางรางผ่านระบบดิจิทัล (e-License R) ครั้งที่ 3 โดยระบุว่า ขณะนี้ ขร. จัดทำรายละเอียดต่างๆ ในการออกใบอนุญาตประกอบกิจการขนส่งทางราง ทั้งใบอนุญาตผู้ประกอบการ ผู้ประจำหน้าที่ และการจดทะเบียนรถขนส่งทางราง เสร็จเรียบร้อยแล้ว ซึ่งพร้อมดำเนินการออกใบอนุญาตฯ ทันที เมื่อร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การขนส่งทางราง มีผลบังคับใช้

อย่างไรก็ดี แนวทางปฏิบัติขณะนี้ต้องรอดูว่ารัฐบาลจะยืนยันการพิจารณาร่างกฎหมายดังกล่าวที่ค้างอยู่กลับไปสภาผู้แทนราษฏรว่าจะเดินหน้ากฎหมายต่อได้ทันภายในวันที่ 2 ก.ย.นี้ ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของกรอบเวลาที่รัฐธรรมนูญเปิดช่องไว้ว่าจะต้องยืนยันกลับมาภายใน 60 วันนับตั้งแต่ประชุมสภาผู้แทนราษฏรครั้งแรกเมื่อวันที่ 4 ก.ค.ที่ผ่านมาหรือไม่ โดยหากไม่ทันร่าง พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าวก็จำเป็นต้องเข้าสู่กระบวนการพิจารณาใหม่

กฎหมายลูกพร้อมใช้รอ พ.ร.บ.มีผล

“ตอนนี้กฎหมายลูกที่อยู่ภายใต้ พ.ร.บ.ขนส่งทางรางทั้ง 82 ฉบับ พิจารณาในรายละเอียดหมดแล้ว เหลือเพียงรอ พ.ร.บ.ขนส่งทางรางประกาศใช้ ซึ่งตามกรอบหากรัฐบาลสามารถยืนยันนโยบายผลักดัน พ.ร.บ.นี้ต่อภายในวันที่ 2 ก.ย.นี้ ก็จะทำให้ พ.ร.บ.มีผลประกาศใช้ภายในปีนี้ แต่หากไม่ทันก็คงต้องดีเลย์ออกไปราว 1 ปี เพราะต้องกลับไปเริ่มกระบวนการใหม่ตั้งแต่เสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.)”

นายพิเชฐ กล่าวต่อว่า ในระหว่างที่จะมีการรอนโยบายรัฐบาลพิจารณาผลักดันร่าง พ.ร.บ.การขนส่งทางรางต่อนั้น ขร.ก็จะดำเนินการพิจารณาในรายละเอียดของกฎหมายลูกทั้ง 82 ฉบับร่วมกับผู้ประกอบการให้มีความสอดรับต่อสถานการณ์และการปรับตัวของระบบขนส่งทางรางให้มากขึ้น ซึ่งเบื้องต้นประเมินว่าหากรัฐบาลยืนยันสานต่อ พ.ร.บ.การขนส่งทางรางไม่ทัน 2 ก.ย.นี้ แต่เนื่องจากรายละเอียดภายใน พ.ร.บ.ค่อนข้างชัดเจนแล้ว ดังนั้นอาจใช้เวลาไม่นานในการเสนอเข้าสู่กระบวนการพิจารณาใหม่

\'พ.ร.บ.ขนส่งทางราง\' ดีเลย์ต่ออีก 1 ปี รัฐบาลมาช้าไม่ทันยืนร่างต่อสภาฯ

สำหรับกฎหมายลูกว่าด้วยเรื่องการออกใบอนุญาตด้านการขนส่งทางรางผ่านระบบดิจิทัล (e-License R) ปัจจุบันได้ข้อสรุปแบ่งใบอนุญาตออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ 1.ใบอนุญาตผู้ประกอบกิจการขนส่งทางราง 8 ราย มีอายุ 30 ปี แบ่งเป็น 1.1 ใบอนุญาตประกอบกิจการรางเพื่อการขนส่ง อัตราค่าธรรมเนียม 3 แสนบาท 1.2 ใบอนุญาตประกอบกิจการเดินรถขนส่งทางราง อัตราค่าธรรมเนียม 1.5 แสนบาท และ 1.3 ใบอนุญาตประกอบกิจการรางเพื่อการขนส่ง และการเดินรถขนส่งทางราง อัตราค่าธรรมเนียม 4.5 แสนบาท

2. ใบอนุญาตผู้ประจำหน้าที่ อาทิ พนักงานขับรถไฟ/รถไฟฟ้า/รถไฟความเร็วสูง และพนักงานควบคุมการเดินรถ ซึ่งปัจจุบันมีอยู่รวมประมาณ 2,236 คน โดยใบอนุญาตจะมีอายุ 5 ปี กำหนดให้สำหรับผู้ที่มีอายุ 20 ปีขึ้นไป โดยมีอัตราค่าธรรมเนียมออกใบอนุญาต 2 พันบาท

และ 3.ใบอนุญาตจดทะเบียนรถขนส่งทางราง ซึ่งผู้ประกอบการต้องนำข้อมูล อาทิ รถไฟ/รถไฟฟ้า/รถไฟความเร็วสูง มีตู้กี่ตู้ มาจดทะเบียนทั้งหมด โดยปัจจุบันมีประมาณ 10,266 คัน และมีข้อกำหนดออกใบอนุญาตมีอายุ 8 ปี และระหว่างถือครองใบอนุญาตต้องมีการตรวจสภาพตามที่กำหนด หากไม่ตรวจจะถูกพักใช้รถ และเพิกถอนใบอนุญาต สำหรับอัตราค่าธรรมเนียมจดทะเบียนรถขนส่งทางราง แบ่งออกเป็น ค่าหนังสือจดทะเบียนขนส่งทาง 1,000 บาท และแผ่นป้ายทะเบียนรถขนส่งทางราง 1,000 บาท

ออกใบอนุญาตฟรีในครั้งแรก

ทั้งนี้ ใบอนุญาตฯ ทุกประเภท ขร.จะออกให้ผู้ประกอบการ และผู้ปฏิบัติหน้าที่รายเดิมโดยไม่เสียค่าธรรมเนียม แต่เมื่อใบอนุญาตหมดอายุจำเป็นต้องมีการทดสอบ และผ่านสมรรถนะก่อนจึงจะได้รับการต่อใบอนุญาตฯ ทั้งนี้หากพบว่าผู้ประกอบการ พนักงานขับรถ และรถขนส่งทางราง ไม่มีใบอนุญาต หรือไม่ส่งข้อมูลให้ ขร. ตรวจสอบ และทำใบอนุญาตปลอม จะมีบทลงโทษทางปกครอง และทางอาญา หรือทั้งจำ และปรับ

สำหรับขั้นตอนของการขอใบอนุญาตต่างๆ ผู้ขอใบอนุญาตจะต้องยื่นขอใบอนุญาตผ่านเว็บไซต์ https://elicens.drt.go.th/ เพื่อลงทะเบียน โดย e-License R จะเชื่อมโยงกับระบบของ 2 หน่วยงานภาครัฐ ได้แก่ ระบบยืนยันตัวบุคคลกลาง (e-Authentication) ของสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (DGA) และระบบรับชำระเงินกลางของบริการภาครัฐ ของกรมบัญชีกลาง เพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน และสะดวกในการเข้าใช้บริการ โดยใบอนุญาตที่ออกให้นั้นจะเป็นใบอนุญาตอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งสามารถดูได้ผ่านแอพพลิเคชั่น DRT

ทั้งนี้ การออกใบอนุญาต e-License R จะทำให้ ขร. สามารถรวบรวมฐานข้อมูลผู้ที่มีศักยภาพ รถที่มีมาตรฐาน อีกทั้งในอนาคตหากมีผู้ประกอบการรายใหม่ๆ ก็สามารถมีบุคลากร หรือรถพร้อมทำงานในระบบราง และการออกใบอนุญาตขนส่งทางรางผ่านระบบดิจิทัล โดยการดำเนินงานนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งในแผนงาน ขร. ที่มุ่งมั่นส่งเสริมการพัฒนาระบบขนส่งทางรางให้มีความทันสมัย ปลอดภัย มีประสิทธิภาพ เพื่อให้ประชาชนมั่นใจในการเดินทางด้วยระบบขนส่งทางราง