'พีระพันธุ์' ประกาศข่าวดี ไทยชนะคดี 'โฮปเวลล์'
“พีระพันธุ์” เผยยินดีกับคนไทยชนะคดีโฮปเวลล์ หลังศาลปกครองกลางนัดอ่านคำพิพากษา ปมคมนาคมและการรถไฟฯ ยื่นคำร้องขอพิจารณาพิพากษาคดีใหม่
นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน โพสลงเฟสบุ๊คส่วนตัว พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค - Pirapan Salirathavibhaga โดยระบุว่า “ยินดีกับคนไทย เราชนะคดีโฮปเวลล์ครับ” #ชนะคดีโฮปเวลล์ #สู้ให้ทุกปัญหาพึ่งพาได้ทุกเรื่อง
โดยประเด็นดังกล่าวสืบเนื่องจากวันนี้ (18 ก.ย.) เวลา 13.30 น. ศาลปกครองกลางนัดอ่านคำพิพากษา ในคดีหมายเลขดำที่ 107/2552 คดีหมายเลขดำที่ 2038/2551 คดีหมายเลขดำที่ 1379/2552 คดีหมายเลขแดงที่ 366-368/2557 ระหว่าง กระทรวงคมนาคม ที่ 1 กับพวกรวม 2 คน (ผู้ร้อง) กับ บริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด (ผู้คัดค้าน) คดีพิพาทเกี่ยวกับเรื่องที่มีกฎหมายกำหนดให้อยู่ในเขตอำนาจศาลปกครอง (คำขอพิจารณาคดีใหม่)
คดีนี้ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาในคดีหมายเลขแดง ที่ อ. 221 - 223/2562 ให้ยกคำร้องของผู้ร้องทั้งสอง และให้บังคับตามคำชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการโดยให้ผู้ร้องทั้งสองปฏิบัติตามคำชี้ขาด ให้แล้วเสร็จภายใน 180 วันนับแต่วันที่คดีถึงที่สุด ต่อมาผู้ร้องทั้งสองได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลพิจารณาคดีใหม่ ซึ่งศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งให้รับคำขอพิจารณาพิพากษาคดีใหม่ของผู้ร้องทั้งสองไว้พิจารณา และให้ศาลปกครองชั้นต้นพิจารณาคำขอให้ศาลมีคำสั่งงดการบังคับคดีของผู้ร้องทั้งสองต่อไป เนื่องจากศาลปกครองสูงสุด
โดยที่ประชุมใหญ่ตุลาการในศาลปกครองสูงสุดพิเคราะห์แล้วเห็นว่า คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ 5/2564 ลงวันที่ 17 มีนาคม 2564 ที่วินิจฉัยว่า มติที่ประชุมใหญ่ตุลาการในศาลปกครองสูงสุด ครั้งที่ 18/2545 เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2545 ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ จึงเป็นกรณีที่ข้อกฎหมายที่ศาลปกครองสูงสุดใช้ในการทำคำพิพากษาหรือคำสั่งเปลี่ยนแปลงไปในสาระสำคัญ ซึ่งทำให้ผลแห่งคำพิพากษาหรือคำสั่งขัดกับกฎหมายที่ใช้บังคับอยู่ในขณะนั้น กระทรวงคมนาคม และการรถไฟแห่งประเทศไทย จึงชอบที่จะขอให้ศาลปกครองพิจารณาพิพากษาหรือมีคำสั่งชี้ขาดคดีปกครองใหม่ได้ ตามมาตรา 75 วรรคหนึ่ง (4) แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542
แม้ว่าคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญข้างต้นไม่มีผลทำให้คำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด ในคดีหมายเลขแดงที่ อ. 221 - 223/2562 ซึ่งทำขึ้นโดยอาศัยมติที่ประชุมใหญ่ตุลาการในศาลปกครองสูงสุดดังกล่าว ใช้บังคับมิได้หรือต้องสิ้นผลบังคับผูกพันลง ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ มาตรา 212 วรรคสาม แต่มิได้มีผลเป็นการห้ามมิให้คู่กรณีหรือบุคคลภายนอกผู้มีส่วนได้เสียตามคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด
ในคดีนี้ นำผลแห่งคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญข้างต้นมาใช้เป็นข้ออ้างในการขอให้ศาลปกครองพิจารณาพิพากษาหรือมีคำสั่งชี้ขาดคดีนี้ใหม่ ตามมาตรา 75 วรรคหนึ่ง (4) แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542 แต่อย่างใด
สำหรับปัจจุบันมูลค่าที่รัฐต้องคืนให้กับโฮปเวลล์จากกรณีการยกเลิกสัญญาก่อสร้างโครงการระบบการขนส่งทางรถไฟยกระดับในกรุงเทพมหานคร (Bangkok Elevated Road and Train System-BERTS) เป็นวงเงินราว 2.7 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นเงินต้นตามที่คณะอนุญาโตตุลาการวินิจฉัยชี้ขาดไว้ที่ 11,888 ล้านบาท รวมอัตราดอกเบี้ย 7.5% ต่อปีหรือเกิดขึ้นเฉลี่ยวันละ 2.4 ล้านบาท นับจากวันที่คณะอนุญาโตตุลาการตัดสินในปี 2551