“ภูมิธรรม”ยันต้นเดือนต.ค.ลดราคาสินค้า ย้ำต้องยุติธรรมทุกฝ่าย

“ภูมิธรรม”ยันต้นเดือนต.ค.ลดราคาสินค้า ย้ำต้องยุติธรรมทุกฝ่าย

“ภูมิธรรม” ย้ำลดราคาสินค้าขอศึกษาต้นทุนลดมากน้อยแค่ไหน หลังรัฐบาลลดค่าไฟ ค่าน้ำมัน เตรียมคุยผู้ประกอบการรายใหญ่สัปดาห์หน้า เผยแบ่งงาน รมช.แล้ว คุมงานหลักทั้งค้าภายใน -ส่งออก พ่วงกรมการค้าต่างประเทศ อคส. และ sacit ด้านรมช.พาณิชย์ คุม 6 หน่วยงาน

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงการความคืบหน้าในการลดราคาสินค้าหลังจากรัฐบาลมีมาตรการลดค่าไฟฟ้าและราคาน้ำมันดีเซล ว่า การพิจารณาปรับลดราคาสินค้า ได้มอบนโยบายให้กรมการค้าภายในไปศึกษาดูว่าหลังจากที่รัฐบาลได้ปรับลดค่าไฟฟ้า และน้ำมัน ซึ่งเป็นต้นทุนสำคัญส่วนหนึ่งลงมาแล้ว ต้นทุนสินค้าจะลดลงมากน้อยแค่ไหน เพื่อที่จะได้เป็นข้อมูลไปคุยกับผู้ประกอบการว่าจะหาจุดสมดุลกันยังไง เพื่อช่วยดูแลและลดภาระให้กับประชาชน โดยต้นเดือนต.ค.2566 จะมีความชัดเจน  

ส่วนที่ระบุไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะมีสินค้าประมาณ 20 รายการ เช่น ข้าว หมูไก่ ไข่ไก่ ที่จะปรับลดราคาลงนั้น เป็นการสื่อสารคาดเคลื่อน เพราะจริง ๆ ต้องมาดูก่อนว่าต้นทุนลดลงมากน้อยแค่ไหน และสินค้านั้น ๆ นอกจากต้นทุนที่ลดลงจากค่าไฟ ค่าน้ำมัน ที่ส่งผลต่อต้นทุนค่าขนส่งแล้ว ยังมีต้นทุนอื่น ๆ เพิ่มขึ้นหรือลดลงหรือไม่ ถ้าลดลง ก็จะยิ่งเป็นผลบวกให้สินค้าลดราคาลงได้ แต่ถ้าเพิ่มขึ้น ก็ต้องมาชั่งน้ำหนักอีกทีว่าต้นทุนโดยรวมลดลงมากน้อยแค่ไหน ถึงจะเป็นขั้นตอนที่จะลดราคาสินค้าต่อไป
 

ทั้งนี้ การดูแลลดราคาสินค้าจะดูแลให้มีความยุติธรรม กับทุกฝ่าย เพื่อไม่ให้เป็นกลายเป็นการสร้างปัญหาใหม่ ทำให้ขณะนี้ไม่สามารถตอบได้ทันที ว่าจะลดราคาสินค้ารายการใดได้บ้าง เนื่องจากจะต้องหาจุดสมดุล ภายใต้การดำเนินการของรัฐบาลที่ต้องการลดรายจ่าย

อย่างไรก็ตามสัปดาห์ที่ผ่านมาได้หารือกับผู้ประกอบการรายย่อยและโรงสีข้าวไปแล้ว ประเมินสถานการณ์ราคาข้าว และในสัปดาห์หน้าจะทยอยหารือกับผู้ประกอบการห้างสรรพสินค้า ผู้ส่งออก และผู้ผลิตสินค้ารายใหญ่ เพื่อให้ได้ข้อมูลชัดเจนก่อน และจะสรุปการลดราคาสินค้าได้ในช่วงต้นเดือนหน้า

ส่วนราคาอาหารปรุงสำเร็จ ที่จำหน่ายภายในศูนย์อาหารของห้าง ซึ่งจะได้รับอานิสงส์โดยตรงจากการลดค่ากระแสไฟฟ้า จะมีการปรับราคาจำหน่ายอาหารลงหรือนั้นไม่ คงต้องให้ผู้ประกอบการมีส่วนช่วยในการคิดด้วย ว่าจะลดราคาในส่วนใดได้บ้าง เพราะไม่ได้ขึ้นอยู่กับต้นทุน ค่าไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว

นายภูมิธรรม ยังกล่าวถึงการแบ่งงานการดูแลในกระทรวงพาณิชย์ ว่า ตนจะดูแลกรมการค้าภายใน กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กรมการค้าต่างประเทศ องค์การคลังสินค้า(อคส.) ศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ(องค์การมหาชนส่วนที่เหลือมอบหมายให้นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่ากระทรวงพาณิชย์ ดูแลกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กรมทรัพย์สินทางปัญญา สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า(สนค.) สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ(องค์การมหาชน) สถาบันระหว่างประเทศเพื่อการค้าและการพัฒนา(องค์การมหาชน)

หน่วยงานผมรับผิดชอบดูแลเพราะเกี่ยวข้องกับนโยบายรัฐบาล ที่จะลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ โดยเป็นเรื่องการดูแลปากท้อง ค่าครองชีพ และการเพิ่มรายได้เข้าประเทศ ส่วน อคส. มีปัญหาเยอะ มีหลายเรื่องคั่งค้าง ที่ต้องเข้าไปจัดการไม่ได้จะมาล้างแค้นใคร รวมถึง sacit อย่างไรก็ตาม หากได้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอีกคน ก็จะให้มีการแบ่งงานเพื่อการดูแลกำกับระหว่าง 2 รัฐมนตรีอีกครั้ง

ส่วนการแต่งตั้งข้าราชการที่จะมีตำแหน่งว่าง 2 ตำแหน่ง คือ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า และรองปลัดกระทรวงพาณิชย์ ที่จะเกษียณอายุราชการ จะพิจารณาแต่งตั้งเพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่างนั้นจะเสนอครม.วันที่ 26  ก.ย.ทั้งนี้อย่าได้กังวล ขอให้สบาย และทำงานตามนโยบายที่ได้รับมอบหมายไปเพื่อขับเคลื่อนงานตามนโยบายรัฐบาล