“ธรรมนัส”ตั้งคณะกรรมการ ปราบลักลอบนำเข้าสินค้าเกษตร ทุบราคาในประเทศ
ธรรมนัส สั่งปราบขบวนการลักลอบนำเข้าสินค้าเกษตรเถื่อน ตั้งกรรมการประสาน ดีเอสไอ กรมศุล ทหาร ตำรวจ สกัดน้ำยางเพื่อนบ้านเร่ขายผู้ประกอบการไทย ลั่นจับได้ ไล่ยึดทรัพย์ทั้งขบวนการ ขณะจี้กรมปศุสัตว์เข้มงวดหมูเถื่อนหวั่นผู้เลี้ยงรายย่อยไม่ฟื้น
ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ได้แต่งตั้งคณะกรรมการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวกับความมั่นคง ประกอบด้วย กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ กรมศุลกากร ทหาร ตำรวจ และกรมการค้าภายใน ร่วมกันตรวจสอบและสกัดการลักลอบนำเข้าสินค้าเกษตร ทุกชนิด
ทั้งนี้เนื่องจากที่ผ่านมา มีขบวนการลักลอบนำเข้าสินค้าผิดกฎหมายหลายชนิด ทั้งยางพารา และเนื้อสุกร ซึ่งในส่วนของยางพารา เบื้องต้นพบว่ามีการซื้อขายจากประเทศเพื่อนบ้าน และนำเข้ามาตามพื้นที่ตะเข็บชายแดน เพื่อส่งให้บริษัทเอกชนผู้ประกอบการเกี่ยวกับยางพารา ในราคาที่ต่ำกว่ายางพาราในประเทศ แต่เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายที่ไทยห้ามนำเข้าน้ำยางและยางพาราแปรรูปขั้นต้น
"ผมได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่เพื่อสืบหาข้อเท็จจริง และพบว่ามีการลักลอบนำเข้า ที่เป็นสาเหตุหลักๆที่ส่งผลให้ยางพาราในประเทศตกต่ำ ต่อเนื่องและยาวนาน เป็นการทำลายอาชีพ โดยขบวนการลักลอบขนยางพาราจากเพื่อนบ้าน ทะลักเข้ามาในประเทศไทย หลายจังหวัดทที่เป็นตะเข็บชายแดน เพื่อขายให้เอกชนไทย จึงอยากขอความร่วมมือกับภาคเอกชน ควรใช้ยางพาราในประเทศ ส่วนหนึ่งเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร"
ร้อยเอก ธรรมนัส กล่าวว่า คณะกรรมการที่แต่งตั้งขึ้นจะใช้เวลา 10 วัน เพื่อเคลียร์ปัญหาทั้งหมด เมื่อพบผู้กระทำความผิด จะใช้กฏหมายลงโทษ ขยายผล และยึดทรัพย์ ผ่านทุกกลไกที่สามารถดำเนินการได้ ซึ่งจะมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นฝ่ายประเมินความเสียหาย ตลอดห่วงโซ่ ที่เกิดกับเกษตรกร ประเทศไทย ทั้งปริมาณและมูลค่า
นอกจากนี้ยังมีหมูเถื่อน ที่ปราบไม่เคยหมด ได้สั่งการให้กรมปศุสัตว์ เอาจริงเอาจัง เข้มงวดให้มากกว่าที่เป็นอยู่ เพราสถานการณ์การเลี้ยงหมูในประเทศกำลังฟื้นตัว หากลักลอบนำเข้าเนื้อหมูที่ไม่ปลอดภัยเข้ามาบริโภคอย่างต่อเนื่อง การปราบปรามรักษาโรคในประเทศก็ไม่สามารถจะทำได้ ซึ่งปัจจุบันการเลี้ยงหมูของเกษตรกรรายย่อยเลิกกิจการไปมาก การกลับมาเลี้ยงใหม่ต้องใช้เงินลงทุนสูง หากเนื้อหมูเถื่อนยังมีอยู่ เกษตรกรรายย่อยของไทยก็สูญหายไปด้วย
นอกเหนือจากนี้การบริโภคเนื้อหมูเถื่อนที่ไม่ผ่านการตรวจรับรองยังเสี่ยงต่อสุขภาพผู้บริโภคอีกด้วย จึงอยากให้ระมัดระวังเรื่องนี้และเลือกซื้อเนื้อหมูจากร้านที่มีสัญลักษณ์เนื้อหมูปลอดภัยของกรมปศุสัตว์เป็นสำคัญ