ซินเจนทา ผุดนวัตกรรมปราบเชื้อราในนาข้าว เพิ่มผลผลิต ยกคุณภาพชีวิตชาวนาไทย
ซินเจนทา พัฒนานวัตกรรมใหม่ ช่วยป้องกันการเกิดปัญหาโรคในนาข้าว เปิดตัวผลิตภัณฑ์นวัตกรรมใหม่ “รีเฟลกซ์ อีโว่” พร้อมถ่ายทอดเทคโนโลยีความรู้การป้องกันโรคในนาข้าวในกับเกษตรกรชาวนา
นางสาวสุนิสา จัตุพร ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท ซินเจนทา ครอป โปรเทคชั่น จํากัด กล่าวว่า “โรคในนาข้าวถือเป็นอุปสรรคอย่างมากของเกษตรกรชาวนา ไม่ว่าจะเป็น โรคกาบใบแห้งหรือราหลุม โรคเมล็ดด่าง โรคใบจุดสีน้ำตาลก่อให้เกิดปัญหาตั้งแต่การปลูกจนกระทั่งเก็บเกี่ยว โดยเฉพาะช่วงข้าวกัดหางปลาทู ซึ่งเป็นช่วงระยะเวลาที่สำคัญในการสร้างรวงและการพัฒนาเกสร ที่เป็นจุดเริ่มต้นของเมล็ดข้าวที่มีคุณภาพ ข้าวเต็มเมล็ด
ดังนั้นความท้าทายของซินเจนทาคือการคิดค้นพัฒนาผลิตภัณฑ์นวัตกรรมใหม่ๆที่สามารถช่วยตอบโจทย์และแก้ไขปัญหาให้กับเกษตรกรชาวนาให้สามารถปลูกข้าวได้โดยปราศจากโรคพืช เจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง และให้ผลผลิตที่มีคุณภาพเป็นที่น่าพอใจ ซึ่งนวัตกรรมนี้มีชื่อว่า “รีเฟลกซ์ อีโว่”
“รีเฟลกซ์ อีโว่” ได้รับอนุมติขึ้นทะเบียนในประเทศไทยเมื่อปี 2021 สำหรับป้องกันกำจัดโรคกาบใบแห้ง โรคเมล็ดด่างในนาข้าว ซึ่งเป็นเทคโนโลยีขั้นสูงมีสารออกฤทธิ์เรียกว่า “ไอโซไพราแซม” ทำหน้าที่เกาะติดกับใบพืชเคลือบอยู่ที่ชั้นผิวใบหลังจากทำการฉีดพ่นสาร สามารถช่วยปกป้องต้นข้าว แม้ต้องเผชิญอยู่ในสภาพอากาศที่มีฝนหรือแสงแดดก็ตาม และปกป้องพืชได้ยาวนาน ซึ่งหากข้าวถูกโรคเชื้อราหรือโรคพืชเข้าทำลาย“ไอโซไพราแซม” จะทำหน้าที่ล็อคเชื้อราและยับยั้งการทำงานของเชื้อราและกำจัดโรคพืชให้หมดไป ทำให้ต้นข้าวปลอดจากโรคเชื้อรา มีเกสรผสมสมบูรณ์ ออกรวงอย่างสม่ำเสมอ และเมล็ดแกร่ง ได้ผลผลิตที่เพิ่มขึ้น
นายณัฐวุฒิ ผึ้งเถื่อน และ นางสาวพรรษา น้อยเปลี่ยน เกษตรกรผู้ปลูกข้าวบนเนื้อที่กว่า 300 ไร่ อำเภอมโนรมย์ จังหวัดชัยนาท กล่าวว่า “ผมกับภรรยาทำนามา 16 ปี ทดลองใช้ ‘รีเฟลกซ์ อีโว่ ครั้งแรกเมื่อช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา
โดยแบ่งฉีดเนื้อที่ประมาณ 10 ไร่ พบว่าข้าวที่ปลูกพันธุ์เดียวกันมีใบธงสีเขียวและมีขนาดใหญ่กว่า ไม่มีโรค ไม่เป็นรากระถิน ส่วนแปลงข้างกันที่ไม่ได้ฉีดประมาณ 20 ไร่ จะมีรากระถินเยอะ เมื่อเทียบกันแล้วแปลง 10 ไร่ ที่ใช้ ‘รีเฟลกซ์ อีโว่’ ได้ผลผลิตประมาณ 10-11 เกวียน
ส่วนแปลง 20 ไร่ ได้ผลผลิตประมาณ 18 เกวียน หรือประมาณ 9 เกวียนต่อ 10 ไร่ ซึ่งเราทำนา 3 ครั้ง ต่อปี เมื่อก่อนราคาข้าวเปลือกประมาณ 7-8 พันบาท ต่อเกวียน ปัจจุบันราคาขึ้นมาประมาณหมื่นกว่าบาทต่อเกวียน เราก็มีรายได้เพิ่มขึ้นบวกกับการมีตัวช่วยป้องกันโรคในนาข้าว ยิ่งทำให้เรามีผลผลิตที่ดี ข้าวมีเมล็ดที่ใส สวย มีคุณภาพ สามารถนำไปขายเป็นแม่พันธุ์ดีได้อีกด้วย
“งานนี้เราได้ถ่ายทอดเทคโนโลยี ให้ความรู้ในการป้องกันโรคในนาข้าว ซึ่งพี่น้องเกษตรกรสามารถเห็นถึงความแตกต่างระหว่างการใช้สารตามวิถีของเกษตรกร และวิธีการใช้นวัตกรรมของซินเจนทาในแต่ละช่วงการเจริญเติบโตของต้นข้าว เพื่อให้พี่น้องเกษตรกรชาวนาไทยสามารถนำความรู้ที่ได้ไปต่อยอดในการปลูกข้าวที่ปลอดโรค ให้ผลผลิตที่สมบูรณ์ แข็งแรง เป็นที่น่าพอใจ สามารถสร้างรายได้เพิ่มมากขึ้น
โดยซินเจนทามีความมุ่งหวังว่า นวัตกรรมดังกล่าวจะช่วยพยุงระดับผลผลิตของเกษตรกรซึ่งจะส่งผลช่วยให้ผลผลิตข้าวในระดับประเทศมั่นคงขึ้น ดันอันดับการส่งออกข้าวไทยให้ก้าวขึ้นมาอีกระดับ” นางสาวสุนิสา กล่าวเสริม