‘มาม่า’ ทุ่ม 2 พันล้าน เปิดโรงงานใหม่!!

‘มาม่า’ ทุ่ม 2 พันล้าน เปิดโรงงานใหม่!!

ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ เปิดบ้านโชว์ศักยภาพโรงงานผลิตมาม่า พร้อมเตรียมแผนเพิ่มกำลังการผลิตรองรับความต้องการที่เพิ่มมากขึ้นทั้งใน และต่างประเทศ ตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนการขายต่างประเทศ 40 - 50% คาดรายได้ปีนี้โต 4% ส่วนปีหน้าตั้งเป้ารายได้โต 5 – 7%

มูลค่าตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในไทยมีมูลค่าราว 20,000 ล้านบาท ปี 2565 'มาม่า' ครองส่วนแบ่งตลาด 49% คนไทยยังคงบริโภคบะหมี่ เฉลี่ย 52.3 ซอง/คน/ปี สูงสุดเป็นอันดับ 9 ของโลก ทิศทางตลาดในอนาคตยังขยายตัวได้ เพราะหากเทียบประเทศอื่นๆ เช่น เวียดนาม เกาหลี การบริโภคเฉลี่ยสูงกว่า 70 ซอง/คน/ปี เป็นต้น

ผู้จัดการใหญ่ บมจ.ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ นายพันธ์ พะเนียงเวทย์ ระบุ จากการผลิต “มาม่า” ที่มีหลากหลายรสชาติ และมีรูปแบบที่หลากหลาย และการขยายตลาดที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้ปัจจุบันบริษัท ได้ขยายกำลังการผลิตเพิ่มในโรงงานหลายแห่ง โดยมีการปรับปรุงเครื่องจักรเดิม รวมถึงการเปลี่ยนเครื่องจักรใหม่ที่ให้ประสิทธิภาพ และความเร็วในการผลิตเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ยังมีแผนก่อสร้างโรงงานผลิตแห่งใหม่ทั้งใน และต่างประเทศ เพื่อรองรับการทำตลาดที่มากขึ้นในอนาคต

บริษัทวางแผนใช้งบลงทุนกว่า 2,000 ล้านบาท ลงทุนสร้างโรงงานผลิตบะหมี่แห่งใหม่ แบ่งเป็นเครื่องจักร 1,600 ล้านบาท และที่ดิน-การก่อสร้าง 400 ล้านบาท เป็นการลงทุนใหญ่ในรอบ 20 ปี ในพื้นที่แถบ EEC อาทิ ชลบุรี ระยอง หรือพื้นที่แถบแม่น้ำโขง อาทิ มุกดาหาร หนองคาย ซึ่งจะทำให้มีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น 30% จากเดิม 450,000 ซองต่อวัน เป็น 600,000 ซองต่อวัน

ปัจจุบันโรงงานผลิต มาม่า มีทั้งหมด 8 แห่ง แบ่งเป็นในประเทศ 5 แห่ง โดย 3 แห่ง เป็นโรงงานผลิตเส้นบะหมี่ ได้แก่ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี 1 แห่ง ลำพูน 1 แห่ง ระยอง 1 แห่ง และโรงงานผลิตเส้นขาว ที่ราชบุรี 1 แห่ง และโรงงานผลิตในต่างประเทศ  อีก 4 แห่ง ได้แก่ เมียนมา กัมพูชา บังกลาเทศ และฮังการี  

ปี 2565 มียอดขายรวม 27,000 ล้านบาท กำไรสุทธิกว่า 2,700 ล้านบาท สำหรับภาพรวมยอดขายมาม่าช่วง 9 เดือนปีนี้ อยู่ที่ 15,568 ล้านบาท แบ่งเป็นในประเทศ 11,306 ล้านบาท และต่างประเทศ 4,262 ล้านบาท

โดยในปี 2566 ตั้งเป้ายอดขายเติบโต 4% และปี 2567 จะเติบโตอยู่ที่ 5 - 7% ปัจจุบันสัดส่วนการทำตลาดแบ่งเป็นในประเทศ 70% และต่างประเทศ 30% ในอนาคตตั้งเป้าว่าจะเพิ่มสัดส่วนการทำตลาดต่างประเทศอยู่ที่ 40 - 50% ส่วนยอดขายที่เคยตั้งเป้าหมายไว้แตะ 30,000 ล้านบาท คาดว่าจะเห็นในปี 2568 - 2570 

 

 

ทีมข่าวเนทีวี รายงาน

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์