'ธีระชัย' ชี้ ลดโซฮอล์ 91 'พีระพันธุ์' หลงทาง-หลงกล หวั่นปั๊มเล็กประท้วง

นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ "เจาะลึกทั่วไทย inside thailand" วันที่ 19 ต.ค. 2566 ถึงประเด็นที่ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน จะลดราคาน้ำมันเบนซิน (แก๊สโซฮอล์ 91) ลง 2.50 บาทต่อลิตร ว่า เป็นการทำงานแบบหลงทางและหลงกล

ทั้งนี้ การบริหารราคาน้ำมันจะมี 2 กระเป๋า แบ่งเป็นกระเป๋าของรัฐกับกระเป๋าผู้ประกอบการ ดังนั้น การจะช่วยประชาชนจะต้องรื้อโครงสร้างน้ำมัน แต่ยังปล่อยให้กลุ่มธุรกิจเป็นเสือนอนกินและไม่แบ่งกำไรให้ประชาชน ดังนั้น รัฐบาลค่อยควักกระเป๋ารัฐก่อน จึงมองว่าไม่เป็นธรรม 

ซึ่งประเด็นการลดภาษีน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 หากดูนโยบายพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ผ่านมา ได้มีการปรับราคาน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 และโซฮอล์ 95 ให้มีราคาใกล้เคียงกัน ซึ่งเข้าใจว่ารัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ มองว่าการให้มีชนิดน้ำมันในสถานีบริการน้ำมัน (ปั๊มน้ำมัน) มากเกินไป ทางปั้มก็จะมีหัวจ่ายเพิ่ม ส่งผลถึงค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นด้วย ซึ่งแก๊สโซฮอล์ 91 ความจำเป็นที่ต้องใช้น้อยลงมาแล้ว แต่นายพีระพังธุ์ กลับมาเลือกลดราคา

"จะเห็นว่าปั้มน้ำมันในต่างจังหวัดขนาดกลางและขนาดย่อมได้เลิกขายไปแล้ว ซึ่งการที่นายพีระพันธ์ เลือกลดราคาแก๊สโซฮอล์ 91 มาก จะทำให้ประชาชนหันมาเติมโซฮอล์ 91 ที่ราคาถูก ก็จะกลับตาลปัตรให้โซฮอล์ 91 เกิดขึ้น ปั้มเล็กที่เลิกขายแล้วก็อาจจะมาเรียกร้อง ปัจจุบันจะเห็นมีเพียง 1 ปั๊มใหญ่ที่ยังขาย"

ทั้งนี้ จึงอยากจะฝากว่า ก่อนจะกดราคาให้เกิดข้อแตกต่างที่ 2.70-2.80 บาทต่อลิตร นั้นสวนทางการลดค่าใช้จ่ายขายปลีก จะแก้ปัญหาของคนที่เป็นเสือนอนกินได้หรือยัง จะเกิดความได้เปรียบเสียเปรียบปั๊มใหญ่กับปั๊มเล็กหรือไม่ ดังนั้น ควรที่จะไปรื้อโครงสร้างธุรกิจน้ำมันเพื่อคลายบางส่วนก่อน ไม่ควรลดภาษี หรือให้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง กู้เงินมาลด ถือว่าหลงทาง สิ่งสำคัญคือ ควรลดกำไรผู้ประกอบการ เพราะกำไรก็เท่ากับเงินของประชาชนก็ควรลดราคาด้วยเงินของประชาชน         

"บ้านเรามีน้ำมันขายหลายเกรดจนเกินไปทั้งโซฮอล์ อี85, อี20 โซฮอล์91 และโซฮอล์ 95 เป็นต้น ซึ่งตามนโยบายลุงตู่ ทำให้ราคาน้ำมันแคบลง โซฮอล์ 95 วิ่งได้ไกลกว่าคนเลยเติม ในอดีตอาจจะมีเพราะกำลังการซื้อของประเทศจำเป็นต้องมี ถ้าจะลดค่าใช้จ่ายการค้าน้ำมัน ควรลดชนิดน้ำมันก็จะลดค่าใช้จ่ายอัตโนมัติ"

นอกจากนี้ นโยบายรัฐบาลพล.อ.ประยุทธุ์ โดย นายสุพัฒนพงษ์ พันธุ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กับนายพีระพันธุ์ ถือว่าเป็นพรรคการเมืองเดียวกัน ซึ่งเดิมตนเองก็ได้ตั้งความหวังนายพีระพันธุ์ไว้สูง เพราะมีประวัติทำเพื่อประชาชน จึงน่าจะให้ความหวังที่จะมีความคิดพลิกแพลง อาทิ จะนำน้ำมันเขียวมาให้เกษตรกร แสดงว่ามีแนวคิดจะทำอะไรเพื่อประชาชนอยู่แล้ว จึงควรเจาะลึกกว่านี้นิดนึง เพราะการลดราคาโดยใช้กลไกภาครัฐจะหนุนกลุ่มทุน ควรมองอะไรให้เป็นลักษณะที่สนใจประชาชนมากกว่า