เริ่มแล้ว "วิถีหม่อนไหม" อวดความเป็นไทย"โมโตจีพี 2023"
โดดเด่นในงาน "โมโตจีพี 2023" "วิถีหม่อนไหม" อวดความเป็นไทย ให้นักแข่งและนักท่องเที่ยวทั่วโลก ซอฟท์พาวเวอร์ ด้านวัฒนธรรม ที่ได้รับความสนใจจากผู้เข้าชมงานเป็นอย่างมาก
นายศรัญญู พูลลาภ รองอธิบดีกรมหม่อนไหม เปิดเผยว่า กรมหม่อนไหมร่วมกับจังหวัดบุรีรัมย์ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานเกษตรจังหวัดบุรีรัมย์ สำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดบุรีรัมย์ ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรบุรีรัมย์ ศูนย์ขยายพันธ์ุพืชที่ 5 บุรีรัมย์ และภาคีเครือข่าย จัดนิทรรศการ “วิถีหม่อนไหม” ในการแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก “โมโตจีพี” รายการ “โออาร์ ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ 2023” (OR THAILAND GRAND PRIX 2023)
ระหว่างวันที่ 27-29 ตุลาคม 2566 ณ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์อาชีพการปลูกหม่อนเลี้ยงไหม ซึ่งเป็นวิถีชีวิตที่อยู่คู่กับชาวไทย ที่มีมาอย่างยาวนาน
สำหรับนิทรรศการ “วิถีหม่อนไหม” จะเป็นการนำเสนอการปลูกหม่อนเลี้ยงไหมทั้งระบบ ครบวงจร ในรูปแบบเสมือนจริง ที่สามารถมองเห็น ได้ยินเสียง มีการเคลื่อนไหว และสามารถสัมผัสได้ ที่เริ่มจากการ ปลูกหม่อน การเลี้ยงไหม การสาวไหม การฟอกย้อมเส้นไหมด้วยสีธรรมชาติ การทอผ้าไหม และการจัดแสดงเครื่องหมายรับรองมาตรฐานผ้าไหมตรานกยูงพระราชทานนาน
โดดเด่น คือผ้าซิ่นตีนแดง ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) เป็นการยกระดับและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผ้าซิ่นตีนแดง ผ้าไหมเอกลักษณ์ ประจำจังหวัดบุรีรัมย์ คือ เป็นผ้าที่ทอด้วยไหมทั้งผืน แต่ในส่วนของหัวซิ่นและตีนซิ่นทุกผืนจะเป็นพื้นสีแดงสด ส่วนตัวซิ่นจะเป็นลวดลายมัดหมี่ ในอดีตใช้วิธีการทอเฉพาะเป็นหัวซิ่น และตีนซิ่นแล้วจึงนํามาต่อกัน แต่ในปัจจุบันนิยมทอต่อเนื่องเป็นผืนเดียวกันโดยไม่ต้องต่อหัวซิ่นและตีนซิ่น
ตลอดจน การแปรรูปอาหารจากหม่อนไหม ซึ่งสามารถนำมาประกอบอาหารในชีวิตประจำวันได้ เช่น ผัดกระเพราดักแด้ ยำดักแด้ ใบหม่อนทอดกรอบ ชาใบหม่อน เป็นต้น เพื่อเผยแพร่และประชาสัมพันธ์การปลูกหม่อนเลี้ยงไหมให้กับผู้เข้าร่วมงานจากทั่วโลก และเป็น ซอฟท์พาวเวอร์ (soft power) ด้านวัฒนธรรมไทยให้นักแข่งและนักท่องเที่ยวได้มาสัมผัสวิถีชีวิตหม่อนไหม และเผยแพร่ไปทั่วโลก ซึ่งได้รับความสนใจจากนะกท่องเที่ยวที่มาชมงานเป็นอย่างมาก