9เดือน11บิ๊กคอร์ปอสังหารายได้ตามเป้า ค่าย“แสนสิริ” รั้งแชมป์รายได้สูงสุด

9เดือน11บิ๊กคอร์ปอสังหารายได้ตามเป้า ค่าย“แสนสิริ” รั้งแชมป์รายได้สูงสุด

11บิ๊กคอร์ปอสังหา9เดือนรายได้-กำไรตามเป้า! ค่าย“แสนสิริ” รั้งแชมป์รายได้สูงสุด ตามด้วย เอพี ไทยแลนด์ และ ศุภาลัย แนวโน้มดีมานด์อสังหาระดับลักชัวรีพุ่ง

ไตรมาสสุดท้ายของปี 2567 ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยยังคงเผชิญกับความท้าทายหลายประการแม้จะมีการฟื้นตัวในบางกลุ่ม ทั้งจากอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ยังปรับลงไม่มากเท่าที่ควร เศรษฐกิจที่ชะลอตัว และภาระหนี้ครัวเรือนที่สูงซึ่งส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อที่อยู่อาศัย

ถึงแม้กระนั้นอสังหาริมทรัพย์ ยักษ์ใหญ่วงกการยังคงทำรายได้ 9 เดือนที่ผ่านมาได้เป็นไปตามเป้า ซึ่งความต้องการในตลาดลักชัวรีและโครงการพัฒนาในทำเลที่มีศักยภาพยังคงเติบโตจากรายใหญ่ที่มีความพร้อมในการลงทุนแลพัฒนาที่เหมาะสมทำให้สามารถดึงดูดกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
 

9เดือน11บิ๊กคอร์ปอสังหารายได้ตามเป้า ค่าย“แสนสิริ” รั้งแชมป์รายได้สูงสุด

อันดับ 1 แสนสิริ รายได้รวม 28,877 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 4,009 ล้านบาท
แสนสิริมีรายได้รวม อยู่ที่ 28,877 ล้านบาท โตขึ้น 4.7% จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา และกำไรสุทธิ 4,009 ล้านบาท ลดลง 15.8% เนื่องจากปีที่แล้วมีการบันทึกกำไรพิเศษ ทั้งนี้ รายได้จากการขายโครงการในไตรมาส 3 สัดส่วน 2 ใน 3 ยังคงมาจากโครงการแนวราบ โดยมีรายได้หลักมาจากโครงการบ้านเดี่ยวระดับลักซ์ชัวรีและซูเปอร์ลักซ์ชัวรีที่แสนสิริเป็นเจ้าตลาด

อันดับ 2 เอพี ไทยแลนด์ รายได้รวม 28,049 ล้านบาท กำไรสุทธิ 3,727 ล้านบาท
เอพี ไทยแลนด์ มีรายรวม 28,049 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 3,727 ล้านบาท โดยรายได้ลดลง 3% จาก 28,921 ล้านบาท และกำไรสุทธิลดลง 21 % จาก 4,719 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยกลุ่มสินค้าแนวราบยังคงเป็นโปรดักต์ไฮไลต์ของเอพี ไทยแลนด์
 

อันดับ 3 ศุภาลัย รายได้รวม 22,792 ล้านบาท กำไรสุทธิ 4,201 ล้านบาท
ศุภาลัย สร้างรายได้รวมที่ 22,792 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.8% จาก 21,538 ล้านบาท และได้กำไรสุทธิ 4,201 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.8% จาก 3,972 ล้านบาท โดยรายได้หลักมาจากการโอนกรรมสิทธิ์โครงการแนวราบ และคอนโดมิเนียม

อันดับ 4 แลนด์แอนด์เฮ้าส์ รายได้รวม 20,419 ล้านบาท กำไรสุทธิ 2,898 ล้านบาท
แลนด์แอนด์เฮ้าส์ มีรายได้รวม 20,419 ล้านบาท ผลงานกำไรสุทธิ 2,898 ล้านบาท โดยรายได้ลดลง 4.1% จาก 21,289 ล้านบาท และกำไรสุทธิลดลง 27.4% จาก 3,989 ล้านบาท

อันดับ 5 พฤกษา รายได้รวม 15,607 ล้านบาท กำไรสุทธิ 753 ล้านบาท
พฤกษา มีรายได้ 15,607 ล้านบาท ลดลง 21.6% กำไรสุทธิลดลง 63.9% เหลือ 753 ล้านบาท จากปีก่อนมีกำไร 2,082 ล้านบาท เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจและการอนุมัติสินเชื่อที่เข้มงวดมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มลูกค้าที่มีความเปราะบาง

อันดับ 6 เอสซี แอสเสท รายได้รวม 14,688 ล้านบาท กำไรสุทธิ 1,220 ล้านบาท
เอสซี แอสเสท ทำรายได้รวม 14,688 ล้านบาท ลดลง 7.2% จาก 15,821 ล้านบาท ทำกำไรสุทธิ 1,220 ล้านบาท ลดลง 25.2% จาก 1,631 ล้านบาท โดยรายได้หลักจากการขายมาจากรายได้ของแนวราบที่เติบโต 15% และรายได้จากแนวสูงที่เติบโตขึ้น 9%

อันดับ 7 ออริจิ้น รายได้รวม 9,638 ล้านบาท กำไรสุทธิ 1,318 ล้านบาท
ออริจิ้น มีรายได้ 9,638 ล้านบาท ลดลง 22.3% จาก 12,410 ล้านบาท กำไรสุทธิลดลง 45% เหลือ 1,318 ล้านบาท จากปีก่อนมีกำไร 2,396 ล้านบาท

อันดับ 8 แอสเซทไวส์ รายได้รวม 7,767 ล้านบาท กำไรสุทธิ 1,300 ล้านบาท
แอสเซทไวส์ ทำรายได้รวม 7,767 ล้านบาท รายได้เพิ่มขึ้น 62.5% จาก 4,781 ล้านบาท ทำกำไรสุทธิ 1,300 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 113.7% จาก 608 ล้านบาท

อันดับ 9 ควอลิตี้เฮ้าส์ รายได้รวม 6,641 ล้านบาท กำไรสุทธิ 1,683 ล้านบาท
ควอลิตี้เฮ้าส์ ทำรายได้รวม 6,641 ล้านบาท รายได้ลดลง 3.6% จาก 6,885 ล้านบาท ทำกำไรสุทธิ 1,683 ล้านบาท ลดลง 11.2% จาก 1,896 ล้านบาท

อันดับ 10 แอล.พี.เอ็น. รายได้รวม 5,978 ล้านบาท กำไรสุทธิ 226 ล้านบาท
แอล.พี.เอ็น. ทำรายได้รวม 5,978 ล้านบาท รายได้เพิ่มขึ้น 7.4% จาก 5,563 ล้านบาท ทำกำไรสุทธิ 226 ล้านบาท ลดลง 33% จาก 336 ล้านบาท

อันดับ 11 อนันดา รายได้รวม 5,167 ล้านบาท กำไรสุทธิ 321 ล้านบาท
อนันดา ทำรายได้รวม 5,167 ล้านบาท รายได้เพิ่มขึ้นถึง 107.8% จาก 2,486 ล้านบาท ทำกำไรสุทธิ 321 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 147% จาก -686 ล้านบาท