อุ้มน้ำมัน-LPG ฉุด 'กองทุนน้ำมัน' ติดลบทะลุ 1 แสนล้านอีกรอบ
"กองทุนน้ำมัน" โอด สิ้นปี 2566 บัญชีติดลบทะลุ 1 แสนล้าน อีกรอบ หลังลดเก็บเงินแก๊สโซฮอล์ 91 และ E85 เข้ากองทุนฯ พร้อมปรับลดราคาดีเซลไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตร ส่งผลภาพรวมเงินไหลออกกว่า 7 พันล้านต่อเดือน และอุดหนุน LPG ทำเงินไหลออกอีก 373 ล้านบาท ล้าสุด ติดลบกว่า 7.5 หมื่นล้าน
แหล่งข่าวจากกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า ภายหลังจากนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน นำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 31 ต.ค. 2566 โดยมีมติปรับลดราคาน้ำมันกลุ่มเบนซิน แก๊สโซฮอล์ เป็นเวลา 3 เดือน (7 พ.ย. 2566 ถึง 31 ม.ค. 2567)
ทั้งนี้ คณะกรรมการบริหารน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) เมื่อวันที่ 2 พ.ย. 2566 ที่ได้ทำการสรุปราคาขายปลีก ลดราคาน้ำมันเบนซินแต่ละชนิดดังนี้ น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 ลดลง 2.50 บาท/ลิตร, น้ำมันเบนซิน ULG 95 และน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 ลดลงประมาณ 1 บาท/ลิตร และน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 และ E85 ลดลงประมาณ 80 สตางค์/ลิตร โดยน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 และ E85 มีการใช้เงินกองทุนน้ำมันชดเชยเพิ่มให้เหมาะสม มีผลตั้งแต่วันที่ 7 พ.ย. 2566 ถึง 31 ม.ค. 2567
โดยใช้วิธีด้วยการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันและลดการเก็บเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง สำหรับผู้ใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 และ E85 ส่งผลให้รายรับกองทุนน้ำมันฯ หายไป 11.19 ล้านบาทต่อวัน จากเดิมกองทุนน้ำมันฯ มีรายได้จากการเก็บเงินผู้ใช้เบนซิน-แก๊สโซฮอล์ รวม 74.56 ล้านบาทต่อวัน จึงเหลือเพียง 66.37 ล้านบาทต่อวัน
"ภาพรวมกองทุนน้ำมันฯ ปัจจุบันยังอยู่ในภาวะเงินไหลออกวันจากการอุดหนุนน้ำมันดีเซลเฉลี่ยประมาณวันละประมาณ 3-4 บาทต่อลิตร รวมเป็นเงินประมาณ 200 ล้านบาทต่อวัน หรือเดือนละประมาณ 6,000-7,000 ล้านบาท ซึ่งมาจากการอุดหนุนราคาดีเซลไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตร รวมทั้งลดการเก็บเงินผู้ใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 และ E85 ทำให้เงินไหลออกประมาณ 190 ล้านบาทต่อวัน นอกจากนี้ ยังนำเงินไปอุดหนุนราคาก๊าซหุงต้ม (LPG) ทำให้เงินไหลออก 12.44 ล้านบาทต่อวัน"
อย่างไรก็ตาม สถานะกองทุนน้ำมันฯ ล่าสุดที่รายงานโดย สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) ณ วันที่ 5 พ.ย. 2566 พบว่าสถานะกองทุนน้ำมันฯ เริ่มที่จะติดลบมากขึ้น โดยติดลบรวม 75,625 ล้านบาท ซึ่งมาจากบัญชีน้ำมันติดลบ 30,185 ล้านบาท และบัญชี LPG ติดลบ 45,440 ล้านบาท
แหล่งข่าว กล่าวว่า กระทรวงพลังงานได้คาดการณ์ว่า ณ สิ้นปี 2566 นี้ กองทุนน้ำมันฯ จะประสบกับปัญหาการเงินที่มีบัญชีติดลบในระดับ 1 แสนล้านบาท อีกครั้ง หลังจากเคยติดลบสูงสุดเป็นประวัติการณ์มาแล้วกว่า 1.3 แสนล้านบาท ในปี 2565 และปรับลดลงได้ถึง 6 หมื่นล้านบาท เมื่อเดือน มิ.ย. 2566) เนื่องจากปัจจัยจากการกลับมาปรับลดราคาดีเซลไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตร จากเดิมเคยขยับขึ้นไปได้ถึง 32 บาทต่อลิตร
"จากการลดการจัดเก็บเงินของผู้ใช้น้ำมันเบนซิน แก๊สโซฮอล์ 91 และ E85 ในครั้งนี้ ส่งผลให้กองทุนน้ำมันฯ มีเงินไหลออกจากบัญชีน้ำมันถึงเดือนละประมาณ 7 พันล้านบาท และบัญชี LPG ไหลออกราว 373 ล้านบาทต่อเดือน ดังนั้น สิ้นปี 2566 นี้ กองทุนน้ำมันฯ อาจจะต้องกลับมาติดลบ 1 แสนล้านบาทอีกครั้ง"