แก้ปัญหาหนี้ทั้งระบบ อย่าทำให้ประชาชนผิดหวัง

การประชุมผู้นำความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชียแปซิฟิก (เอเปค) ที่นครซานฟรานซิสโก เป็นการประชุมที่โลกจับตาเพราะประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐได้พบกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน ครั้งแรกในรอบหนึ่งปีหลังสองมหาอำนาจเศรษฐกิจตึงเครียดกันอย่างหนักสะสมในหลายประเด็น สำหรับไบเดนนี่คือครั้งแรกที่เขาพบกับสีบนแผ่นดินสหรัฐ (ปีก่อนพบกันในการประชุมจี20 ที่เกาะบาหลี อินโดนีเซีย) สำหรับสี นี่คือการมาสหรัฐครั้งแรกในรอบ 6 ปี นอกเหนือจากโจทย์ที่ทั้งคู่มีปัญหาคาใจต่อกันแล้ว ปีนี้ยังไม่เหมือนปีอื่นๆ เมื่อสงครามระหว่างอิสราเอลกับฮามาสยังดำเนินอยู่ สหรัฐเรียกร้องมาตลอดให้จีนใช้อิทธิพลที่มีคุยกับอิหร่าน

นักวิเคราะห์เกรงว่าการที่โลกจับตาการพบกันระหว่างผู้นำประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่อันดับหนึ่งและสองของโลก อาจบดบังการประชุมผู้นำเอเปคให้เหลือแค่ละครสลับฉาก แต่ใครจะว่าอย่างไรผู้นำที่ไปร่วมเวทีใหญ่ระดับนี้ก็ต้องใช้เวลาให้เกิดประโยชน์มากที่สุด ซิลิคอนวัลเลย์เมืองศูนย์กลางไฮเทคและนวัตกรรมโลกตั้งอยู่ในเขตอ่าวซานฟรานซิสโก เมื่อมีการประชุมใหญ่ที่นครแห่งนี้ย่อมเป็นโอกาสดีที่ผู้นำแต่ละประเทศจะได้มีโอกาสพบปะกับผู้นำภาคธุรกิจของสหรัฐ โดยเฉพาะธุรกิจเทคโนโลยีที่เป็นเทรนด์ของโลก

สำหรับไทยมีข่าวดี นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคลังได้เข้าหารือ กับผู้บริหารบริษัท Microsoft ผู้บริหารบริษัท Google และได้ปิดดีลการลงทุนในไทยเป็นผลสำเร็จโดยทั้งสองบริษัทจะมีการเข้ามาลงทุนในไทยมากกว่าบริษัทละ 100,000 ล้านบาท รวมแล้ว 200,000 ล้านบาท นอกจากนี้นายกฯ เศรษฐายังได้คุยกับบริษัทเทคอื่นๆ ด้วย มีผลงานก็ขอยกย่องแต่งานใหญ่รอนายกฯ ยังมีอยู่ เจ้าตัวแถลงเองว่า สิ้นเดือน พ.ย.จะแถลงใหญ่เรื่องการแก้ปัญหาหนี้ทั้งระบบ ทั้งหนี้ กยศ. หนี้ครู หนี้นอกระบบ และเอสเอ็มอีที่ติดมาตรา 21 ประกาศแบบนี้บรรดาลูกหนี้ได้ยินก็หูผึ่ง “ความไม่มีหนี้เป็นลาภอันประเสริฐ” แต่อยากเตือนไว้เมื่อประกาศใหญ่ล่วงหน้าย่อมเกิดความคาดหวังว่าจะแก้หนี้ได้จริง และเมื่อความคาดหวังสูงรัฐบาลต้องระวังอย่าให้ประชาชนผิดหวัง อย่าทำให้เซ็งเหมือนเงินดิจิทัล