งาน CIIE 2023 โอกาสทอง”สินค้าไทย” เปิดตลาดสู่แดนมังกร
กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ นำทัพผู้ประกอบการไทย ลุยงานมหกรรมแสดงสินค้านำเข้านานาชาติ ( CIIE 2023 ) หาลู่ทางและโอกาสใหม่ๆในตลาดจีน คาดยอดขายทะลุ 300 ล้านบาท
งานแสดงสินค้า China International Import Expo ครั้งที่ 6 หรือ CIIE 2023 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 5-10 พ.ย. 2566 จัดขึ้นที่นครเซี่ยงไฮ้ สาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งเป็นงานมหกรรมแสดงสินค้านำเข้านานาชาติประจำปีที่มีความสำคัญลำดับแรกของจีนและเป็นงานแสดงสินค้าที่ใหญ่ที่สุดในโลกด้วยงาน โดย CIIE เป็น 1 ใน 3 งานที่สำคัญที่สุดของกระทรวงพาณิชย์จีน จัดขึ้นครั้งแรกในปี 2561 เพื่อแสดงศักยภาพความเป็นพี่ใหญ่แห่งอาเซียนและมหาอำนาจด้านเศรษฐกิจ โดยปีนี้มีผู้แทนจาก 154 ประเทศ ภูมิภาค และองค์กรระหว่างประเทศเข้าร่วม ในจำนวนนี้ มีผู้แสดงสินค้ามากกว่า 3,400 ราย และผู้เยี่ยมชมมืออาชีพ 394,000 คน
ในส่วนของประเทศไทย กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศได้เข้าร่วมงาน 2 ส่วนหลัก ได้แก่
1.Thai Food and Agricultural Products Pavilion มีสินค้านำไปจัดแสดงจำนวน 20 คูหา เช่น ผลไม้แปรรูป เครื่องแกงเครื่องปรุงรส อาหารทะเล ขนมขบเคี้ยว
2.Thailand Pavilion เพื่อประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ประเทศไทย ผ่านสินค้า บริการและ Soft Power ของไทย เช่น ตราสัญลักษณ์ Thai SELECT ที่ให้กับร้านอาหารที่มีรสชาติไทยแท้ การจัดแสดงเครื่องหมายสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) เครื่องหมาย Thailand Trust Mark (เครื่องหมายแห่งคุณภาพ “Trusted Quality”) ของสินค้าไทย แพลตฟอร์มพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ thaitrade.com .
โดยเฉพาะในส่วนของThai Food and Agricultural Products Pavilion ได้นำผู้ประกอบการไทยจำนวน 20 บริษัทนำสินค้าเข้าร่วมจัดแสดงในส่วนองค์กรและธุรกิจ กลุ่มสินค้าอาหารและเกษตรแปรรูป เพื่อขยายโอกาสทางการตลาด เจรจาธุรกิจ นอกจากนี้ยังมีภาคเอกชนรายใหญ่ของไทยเข้าร่วมงาน อาทิ CP กระทิงแดง ชาตรามือ ปตท. (น้ำมันและการค้าปลีก) คาเฟ่อเมซอน ดอกบัวคู่ ธนาคารกสิกรไทย และ ปตท. โออาร์ เป็นต้นคาดยอดขายจากกิจกรรมต่างๆ ในครั้งนี้ รวมกว่า 330 ล้านบาท
“บัณฑิต พิสิทธิวิทยานนท์” ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด บริษัทต้าเจีย จำกัด ซึ่งเป็นผู้ประกอบการนำเข้าข้าวไทย กล่าวว่า เคยมาร่วมงาน CIIE มา 2 ครั้งแล้ว ถือเป็นงานสำคัญที่ช่วยเปิดตลาดให้กับผู้ประกอบการไทย โดยบริษัทได้นำข้าวหอมมะลิมาแสดง ซึ่งได้รับการตอบรับและได้เจรจากับผู้นำเข้าของจีนในนำข้าวมาจำหน่าย โดยผู้บริโภคจีนนิยมบริโภคข้าวหอมมะลิไทย แต่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาจีนเปิดให้ประเทศเพื่อนบ้านนำเข้าข้าวมาจำหน่ายในจีนมากขึ้น ทั้งเวียดนาม กัมพูชา ถือเป็นคู่แข่งสำคัญของไทย
ปัจจุบันข้าวหอมมะลิไทยเริ่มมีคู่แข่งจากประเทศเพื่อนบ้านมากขึ้น จึงอยากให้รักษาคุณภาพของข้าวหอมมะลิของไทย โดยเฉพาะกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์ของข้าวหอมมะลิไทย เพื่อเป็นตัวดึงดูดให้ผู้บริโภคชาวจีนยังคงบริโภคข้าวไทย
นอกจากนี้ทางภาครัฐต้องเร่งโปรโมทข้าวไทยในตลาดจีนให้มากขึ้น สำหรับสิ่งที่ผู้ประกอบการต้องทำ คือ การศึกษากฎระเบียบการค้าของประเทศนั้นๆให้ถี่ถ้วน เช่น การจดเครื่อง หมายการค้า เพื่อป้องกันการลอกเลียนแบบ การผลิตสินค้าให้ตอบโจทย์ตลาดและมีคุณภาพ
ขณะที่“นิโลบล กุลวราพร” เจ้าหน้าการตลาดต่างประเทศอาวุโส ธุรกิจต่างประเทศ บริษัทสหพัฒนพิบูล จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า บริษัทได้นำบะหมี่สำเร็จรูปมาจำหน่ายในประเทศจีนมาก่อนหน้านี้ซึ่งได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคชาวจีน ปีนี้ก็ได้นำสินค้าใหม่มาจัดแสดงเป็นขนมขบเคี้ยวที่ทำมาจากเศษบะหมี่ในรสชาติต่าง โดยเฉพาะรสต้มยำกุ้ง ซึ่งเป็นที่นิยมของชาวจีน คาดว่าน่าจะได้รับการตอบรับเช่นเดียวกับบะหมี่สำเร็จรูป
“ตลาดจีนถือเป็นตลาดใหญ่ด้วยจำนวนประชากรที่มาก จึงเป็นโอกาสของสินค้าไทยที่จะเข้ามาเปิดตลาดจีน โดยเฉพาะมานำเสนอในงาน CIIE เพราะเป็นงานแสดงสินค้านำเข้าที่ใหญ่ที่สุดของประเทศจะได้พบปะเจรจากับผู้นำเข้า ซึ่งสินค้าไทยก็เป็นที่นิยมของชาวจีน ผู้ประกอบการไทยควรเข้ามาร่วมในงานนี้ “
งาน CIIE ถือเป็นงานที่ช่วยเปิดตลาดจีนให้กับสินค้าไทย โดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ได้นำผู้ประกอบการเข้าร่วมงานทุกปี ซึ่งจะช่วยให้ผู้ประกอบการหาลู่ทางและโอกาสโอกาสทางการตลาดของประเทศที่มีขนาดใหญ่เป็นพิเศษมีประชากรมากกว่า 1,400 ล้านคน
ทั้งนี้ CIIE ครั้งที่ 6 มีข้อตกลงเบื้องต้นสำหรับการซื้อสินค้าและบริการในระยะเวลา 1 ปี เป็นมูลค่ารวม 7.84 หมื่นล้านดอลลาร์ (ราว 2.84 ล้านล้านบาท) ซึ่งแตะระดับสูงเป็นประวัติการณ์