นบข.เคาะชดเชยดอกเบี้ย 4 % ให้โรงสีซื้อข้าวเก็บสต๊อก
นบข. เคาะอนุมัติโครงการชดเชยดอกเบี้ยให้กับโรงสี ในการซื้อข้าวเก็บสต๊อก อัตรา 4% วงเงิน 780 ล้านบาท เตรียมชง ครม. อนุมัติ 28 พ.ย.นี้ พร้อมคิกออฟจ่ายเงินไร่ละ 1,000 บาท ให้กับเกษตรกร 4.68 ล้านครัวเรือนพร้อมโอนเข้าบัญชีเช้าวันที่ 28 พ.ย.นี้เช่นกัน
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) พร้อมด้วย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และนายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ว่า ที่ประชุมได้มีมติอนุมัติการดำเนินโครงการชดเชยดอกเบี้ยให้ผู้ประกอบการค้าข้าวในการเก็บสต็อก ปีการผลิต 2566/67 โดยจะช่วยชดเชยดอกเบี้ยให้กับโรงสีที่เก็บสต็อกข้าวในอัตรา 4% วงเงินงบประมาณ 780 ล้านบาท เพื่อให้มีสภาพคล่องในการรับซื้อข้าวเปลือกจากเกษตรกรที่กำลังออกสาตลาดในขณะนี้
โดยใช้เงินจากกองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร จ่ายไปก่อน และรัฐบาลจะจ่ายคืนให้ทีหลัง และจะนำเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาในวันที่ 28 พ.ย.2566 นี้
สำหรับการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว จำนวน 4.68 ล้านครัวเรือน ช่วยไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกิน 20 ไร่ หรือครัวเรือนละ 20,000 บาท ที่ ครม. ได้มีมติไปก่อนหน้านี้ ขณะนี้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ได้อนุมัติวงเงินดำเนินการแล้ว จะมีการคิกออฟจ่ายเงินให้กับเกษตรกรในวันที่ 28 พ.ย.2566 และคาดว่าภายใน 5 วันจะจ่ายได้ครบทั้งประเทศ
นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า ขณะนี้ราคาข้าวปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เมื่อเทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยข้าวเปลือกหอมมะลิ ราคาอยู่ที่ 14,300 บาทต่อตัน หลังจากที่ได้ประสานโรงสีให้เข้าไปรับซื้อ และมีการเปิดตลาดนัดข้าวเปลือก ทำให้ราคาเพิ่มขึ้นเป็น 14,550 บาทต่อตัน สูงสด 15,300 บาทต่อตัน ข้าวเปลือกเจ้า จาก 11,000 บาทต่อตัน เพิ่มเป็น 11,450-11,700 บาทต่อตัน ข้าวเปลือกเหนียว ราคา 12,900 -13,800 บาทต่อตัน
ทั้งนี้ข้อมูลจากกรมการค้าภายใน ระบุว่า โครงการชดเชยดอกเบี้ยให้ผู้ประกอบการค้าข้าวในการเก็บสต็อก ปีการผลิต 2566/67 จะช่วยชดเชยดอกเบี้ยโรงสีเก็บสต็อกข้าว 4% งบประมาณ 780 ล้านบาท เป้าหมาย 4 ล้านตัน โดยให้โรงสีเก็บสต็อก 2-6 เดือน มีระยะเวลารับซื้อ ตั้งแต่ ครม. อนุมัติ ถึง 31 มี.ค.2567 (ทั่วไป) และตั้งแต่ 1 ม.ค.-30 มิ.ย.2567 (สำหรับภาคใต้) และมีระยะเวลาเก็บสต็อก ตั้งแต่ ครม.อนุมัติ ถึง ธ.ค.2567 ส่วนระยะเวลาโครงการ ตั้งแต่ ครม. อนุมัติ ถึง 31 ต.ค.2568