EEC ปิดจ็อบเมกะโปรเจกต์ ลุยสร้างไฮสปีด-เมืองการบินปี 67
“อีอีซี” ลุ้นอัยการเคาะปม “ซีพี” ไม่รับบัตรส่งเสริม BOI ดันส่งมอบพื้นที่สร้างไฮสปีดเชื่อมสามสนามบินตามแผน ม.ค.นี้ พร้อมเร่งเจรจาสางปัญหาโครงสร้างร่วมสนามบินอู่ตะเภา มั่นใจปี 2567 เริ่มตอกเสาเข็ม 2 โครงการ
การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ได้เริ่มก่อสร้างไปแล้ว 2 โครงการ ประกอบด้วย โครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3 และโครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุดเฟส 3
ขณะที่โครงการที่ยังไม่เริ่มก่อสร้างมี 2 โครงการ ประกอบด้วย โครงการรถไฟ้าความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง สุวรรณภูมิ อู่ตะเภา) และโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการ
จุฬา สุขมานพ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) เปิดเผยว่า คณะกรรมการเร่งรัดการลงทุนในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ครั้งที่ 1/2566 ซึ่งมี “สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานการประชุม เมื่อวันที่ 8 ธ.ค.2566 ได้ติดตามความคืบหน้าและแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับโครงการลงทุน เพื่อให้เดินหน้าตามแผนงานกำหนดจะทยอยเริ่มงานก่อสร้างภายในปี 2567
การเร่งรัดการลงทุนได้ติดตามความคืบหน้า โดยเฉพาะโครงการลงทุน 4 โครงสร้างพื้นฐานหลักของอีอีซี ประกอบด้วย โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน ที่ประชุมมีมติให้เร่งรัดการส่งมอบพื้นที่ส่วนที่เหลือ ช่วงพญาไทถึงบางซื่อให้เสร็จภายใน พ.ค.2567 ส่วนพื้นที่อื่น มีความพร้อมสำหรับการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงและพื้นที่เชิงพาณิชย์ (transit oriented development, TOD) แล้ว
อย่างไรก็ดี การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) อยู่ระหว่างเตรียมออกหนังสืออนุญาตเข้าพื้นที่ (NTP) ซึ่งในเงื่อนไขของการออก NTP ระบุไว้ว่าเอกชนคู่สัญญาจะต้องได้รับบัตรส่งเสริมการลงทุน (BOI) ส่งผลให้ขณะนี้สถานะดำเนินการจึงคงเหลือแต่รอให้เอกชนคู่สัญญาส่งเอกสารไปที่ BOI เพื่อรับบัตรส่งเสริมการลงทุน เพื่อครบเงื่อนไขเริ่มต้นโครงการที่กำหนดในสัญญา ซึ่งกระทรวงคมนาคม โดย ร.ฟ.ท.จะเร่งรัดเอกชนคู่สัญญาให้แล้วเสร็จภายใน ม.ค. 2567
“ตอนนี้การรถไฟฯ ได้ใช้สิทธิในการขอพิจารณาออกหนังสือ NTP เนื่องจากในเงื่อนไขการออกหนังสือระบุว่าทางเอกชนจะต้องได้รับ BOI ก่อน แต่เนื่องจากปัจจุบันติดเพียงปัญหาเดียว ในขณะนี้การรถไฟฯ เตรียมพื้นที่พร้อมส่งมอบแล้ว เรื่องนี้จึงได้ยื่นไปยังสำนักงานอัยการสูงสุดเพื่อพิจารณาเงื่อนไข หากตีความว่าสามารถส่งมอบพื้นที่ได้โดยไม่ต้องรอ BOI ก็จะทำให้โครงการนี้เริ่มตอกเสาเข็มตามแผนในปีหน้า”
รวมทั้งภายในเดือน ธ.ค.2566 จะมีการหารือร่วมกับเอกชนคู่สัญญารถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน เพื่อเริ่มกระบวนการออก NTP เพราะนอกจากโครงการจะมีความล่าช้ามามากแล้ว คำขอรับบัตรส่งเสริมการลงทุน BOI ที่ทางเอกชนดำเนินการไว้จะหมดอายุการออกบัตรในวันที่ 22 ม.ค.นี้ ดังนั้นจึงมีกรอบกำหนดที่จำเป็นต้องเร่งรัด เพราะหากบัตร BOI หมดอายุก็ต้องดำเนินการขอพิจารณาต่ออายุ ซึ่งอาจทำให้ต้องใช้เวลาในการพิจารณา
ขณะที่ปัญหาการพิจารณาแก้ไขสัญญาร่วมลงทุนในโครงการไฮสปีดเทรนเชื่อมสามสนามบิน ปัจจุบันผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) โดยในวันที่ 13 ธ.ค.2566 จะมีการประชุมร่วมกับเอกชนคู่สัญญาเพื่อพิจารณารายละเอียดร่างสัญญาอีกครั้ง ก่อนจะเสนอไปยังอัยการสูงสุด หากพิจารณาเห็นชอบก็จะเสนอกลับมายัง กพอ.เพื่อนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติลงนามสัญญาใหม่
ทั้งนี้ การดำเนินงานของโครงการไฮสปีดเชื่อมสามสนามบิน จะทำงานคู่ขนานระหว่างการยื่นขอตีความจากอัยการสูงสุดในประเด็นส่งมอบพื้นที่ออก NTP โดยไม่ต้องรอเอกชนรับบัตรส่งเสริม BOI และดำเนินงานส่วนของการขอพิจารณาแก้ไขสัญญาร่วมทุนใหม่ ซึ่งงานก่อสร้างไม่จำเป็นต้องรอให้การแก้ไขสัญญาแล้วเสร็จ เพราะรายละเอียดของการแก้ไขสัญญา มีประเด็นสำคัญในการพิจารณาเรื่องถ้อยคำเหตุสุดวิสัย และการทำแนวท้ายสัญญาเรื่องแบ่งจ่ายค่าสิทธิบริหารแอร์พอร์ตเรลลิงก์
อย่างไรก็ดี หาก ครม.เห็นชอบให้แก้ไขสัญญา และมีการลงนามร่วมกับเอกชนแล้วนั้น ทางเอกชนจะต้องเริ่มจ่ายค่าสิทธิบริหารแอร์พอร์ตเรลลิงก์ ที่เสนอขอผ่อนจ่ายรวม 7 งวด แบ่งเป็น
งวดที่ 1-6 งวดละ 1,067.11 ล้านบาท
งวดที่ 7 จำนวน 5,328.47 ล้านบาท
รวมทั้งเมื่อลงนามสัญญาแล้วเสร็จ เอกชนจะต้องจ่ายค่าสิทธิรวม 3 งวด ย้อนหลังของปี 2564-2566 วงเงินรวมกว่า 3,000 ล้านบาท ส่วนที่เหลืออีก 4 งวดจ่ายตามกำหนดสัญญาภายในวันที่ 24 ต.ค.ของแต่ละปี
ส่วนความคืบหน้าของโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก ขณะนี้กองทัพเรือเตรียมประกาศจัดซื้อจัดจ้างงานก่อสร้างทางวิ่ง 2 และทางขับ ภายในกลาง ธ.ค.นี้ โดยที่ประชุมได้เร่งรัดให้ สกพอ. ร.ฟ.ท. และเอกชนคู่สัญญารถไฟความเร็วสูง และสนามบินอู่ตะเภา สรุปแผนการทำงานร่วมกันในส่วนของโครงสร้างร่วมบริเวณสนามบินอู่ตะเภา โดยให้ได้ข้อสรุปภายในเดือน ธ.ค.นี้ และโครงการสนามบินอู่ตะเภา จะเริ่มก่อสร้างได้ภายใน ม.ค.2567