“มวยไทย” ติดชาร์ตอันดับที่ 3 แพลตฟอร์มออนไลน์‘เว่ยป๋อ”จีน
“มวยไทย”Soft Power ไทย ติดชาร์ตอันดับที่ 3 ของ‘เว่ยป๋อ’ สื่อสังคมออนไลน์ชื่อดังของจีน หลังสาวจีนวัย 32 ปีปั่นจักรยานมาหา”บัวขาว”ที่ไทย ด้านสคต.เซี่ยงไฮ้ แนะผู้ประกอบการที่ต้องศึกษาและหาช่องทางก่อนจะมาเปิดตลาด”มวยไทย”ในจีน
รัฐบาลนำโดยพรรคเพื่อไทยได้ประกาศนโยบายขับเคลื่อน ซอฟต์พาวเวอร์ (Soft Power )โดยมีเป้าหมายเพิ่มรายได้ให้ประเทศ 4 ล้านล้านบาทต่อปี ภายในระยะเวลา 4 ปีของรัฐบาล หรือเพิ่มรายได้ให้คนไทย 20 ล้านครัวเรือนประมาณ 2 แสนบาทต่อปี หรือประมาณ 16,000 บาทต่อเดือน โดยขับเคลื่อนผ่านอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ 11 อุตสาหกรรม ประกอบด้วย ท่องเที่ยว เทศกาล กีฬา อาหาร ภาพยนตร์ ดนตรี ศิลปะ หนังสือ เกม ออกแบบและแฟชั่น
“มวยไทย” ถือเป็น 1 ใน ซอฟต์พาวเวอร์ ที่จะผลักดันอย่างเต็มรูปแบบ โดย “มวยไทย” เป็นศิลปะการต่อสู้อันเป็นเอกลักษณ์ของชาติมาอย่างยาวนาน และเป็นที่รู้จักและโด่งดังไปทั่วโลก นักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่เข้ามาเที่ยวในเมืองไทยไฮไลท์หนึ่งคือการไปชมมวยไทย บางคนก็ซื้อกางเกงมวยไทยกลับไปเป็นที่ระลึก โดยเฉพาะชาวจีนที่ปัจจุบันกำลังได้รับความนิยมจากชาวจีนมาก
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครเซี่ยงไฮ้ รายงานว่า ปัจจุบันมีชาวจีนหลากหลายกลุ่ม อาทิ กลุ่มนักเพาะกล้าม กลุ่มนักศึกษา หรือแม้กระทั่งกลุ่มหนุ่มสาววัยทำงานที่หันมาสนใจฝึกฝนอย่างจริงจัง หรือนำรูปแบบท่าทางมวยไทยมาเป็นพื้นฐานในการออกกำลัง ชาวจีนจำนวนมากเดินทางมาเมืองไทยในตอนนี้ไม่ได้เพียงแต่เพื่อหาของกินหรือมาสถานที่ท่องเที่ยวเหมือนอย่างเคย แต่ค่ายมวยไทยหรือยิมมวย ได้เป็นอีกหนึ่งจุดหมายของทริปการท่องเที่ยวของชาวต่างชาติ รวมถึงนักท่องเที่ยวชาวจีน นอกจากนี้ ชาวจีนส่วนหนึ่งได้สมัครเรียนมวยไทยในประเทศจีน โดยชาวจีนจำนวนมากหาคอร์สเรียนจากแอปพลิเคชั่นต้าจงเตี่ยนผิง(大众点评) เพื่อเป็นการออกกำลังกายและเพิ่มทักษะการป้องกันตัว โดยค่าใช้จ่ายในการเรียนแต่ละคอร์สนั้นสูงพอควร แต่ก็ไม่ได้มีชาวจีนจำนวนมากให้ความสนใจ
แต่หากข้ามจากเรื่องกีฬา อุปกรณ์มวยชิ้นสำคัญอย่าง “กางเกงมวยไทย”และ “นวมมวย” ถือเป็นของฮิตของชาวต่างชาติชื่นชอบประเทศไทย รวมถึงเป็น “ของที่ระลึก” ในการมาเยี่ยนประเทศไทยเป็นอันดับต้น ๆ อีก เพื่อสวมใส่เป็นการยืนยันว่า “ฉันเคยมาเยือนเมืองไทย”
และเมื่อไม่นานมานี้ ได้มีรายงานข่าวเกี่ยวกับชาวจีนที่ชื่นชอบนักมวยไทยจึงออกมาแสดงตัวตนให้สังคมชาวจีนได้รับรู้ถึงความตั้งใจของเขา จากรายงานข่าวเมื่อวันที่ 24 พ.ย. 2566 คุณ ‘หลี่ เจินเซียง’ สาวจีนวัย 32 ปี ผู้คลั่งไคล้ศิลปะการต่อสู้ของไทย ได้เดินทางด้วยรถจักรยานคู่ใจของเธอมากถึงจังหวัดเชียงใหม่ โดยเธอได้เดินทางมาจากเมืองเหมียนหยาง (绵阳) มณฑลเสเฉวน(四川) ประเทศจีน เพื่อมาหา ‘บัวขาว บัญชาเมฆ’ ฮีโร่ในดวงใจของเธอที่ ซึ่งเป็นผู้ปลุกกระแส ‘ซอฟต์พาวเวอร์’ ให้กับมวยไทย จนติดชาร์ตอันดับที่ 3 ของ‘เว่ยป๋อ’ สื่อสังคมออนไลน์ชื่อดังของจีน โดยเธอได้ใช้เวลาในการเดินทางทั้งหมด 35 วัน กับระยะทางรวมทั้งสิ้น 2,409 กม.
“สกรรจ์ แสนโสภา “ผู้อำนวยการสคต.ในเมืองเซี่ยงไฮ้ แสดงความเห็นว่า หากดูจากข้อมูล มวยไทยถือว่าได้รับความนิยมในชาวจีนทุกกลุ่มวัยเป็นอย่างสูง เนื่องจากเป็นศิลปะการป้องกันตัวที่มีเอกลักษณ์และช่วยส่งเสริมให้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง พร้อมทั้งยังถือให้เป็นงานอดิเรกที่เพิ่มทักษะทุกส่วนของร่างกายเป็นอย่างดี การเลือกช่องทางในการโปรโมทผ่านสื่อออนไลน์นั้นทำให้ชาวจีนสามารถเข้าถึงได้ง่ายและสะดวกสบายต่อการเรียนรู้ หากพิจารณาให้ดีจะเห็นได้ว่า ชาวจีนยุคนี้ค่อนข้างรักสุขภาพเลือกบริโภคเพื่อสุขภาพ ดังนั้นผู้ประกอบการไทยที่สนใจมาทำตลาดในจีน ควรศึกษาตลาด ช่องทางการประชาสัมพันธ์สินค้าและพฤติกรรมอย่างใกล้ชิดเพื่อไปปรับใช้ให้เป็นประโยชน์ต่อไป
“มวยไทย' ถือเป็นอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ของไทย โดยมวยไทยเป็นซอฟพาวเวอร์อันดับต้น ๆ ของประเทศไทย ซึ่งจะเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจให้เพิ่มมากขึ้นในเวทีโลก