สภาพัฒน์เตือนการคลังประเทศเสี่ยงสูง จี้ปฏิรูปภาษี - เพิ่มรายได้ - ลดรายจ่าย
”สภาพัฒน์“ส่งความเห็นประกอบการพิจารณากรอบการคลังระยะปานกลางของประเทศ 2567-2571 ชี้การคลังเสี่ยงสูง หลังรายจ่ายภาครัฐเพิ่มแตะ 4 ล้านล้าน หนี้สาธารณะขยับเป็น 63% ของจีดีพี แนะปฏิรูประบบภาษี การจัดเก็บรายได้ ลดรายจ่ายไม่จำเป็น รองรับภาระการคลังที่เพิ่มขึ้นในอนาคต
รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาลเปิดเผยว่าสภาพัฒนาการเศรษฐกิจ และสังคมแห่งชาติ (สศช.) ได้จัดทำความเห็นประกอบการจัดทำแผนการคลังระยะปานกลาง พ.ศ.2567-2571 ของประเทศ ตามที่คณะกรรมการการเงินการคลังของรัฐได้เสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบเมื่อวันที่ 27 ธ.ค.ที่ผ่านมา
โดยมีสาระสำคัญว่า ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีขอให้สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เสนอความเห็นในส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อประกอบการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี เรื่อง แผนการคลังระยะปานกลาง 2567-2571 นั้น สศช.พิจารณาแล้ว เห็นควรให้ความเห็นชอบแผนการคลังระยะปานกลาง ตามที่คณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังของรัฐเสนอ
อย่างไรก็ตามสำนักงานฯ มีความเห็นเพิ่มเติมว่า ในระยะปานกลางและระยะยาว แรงกดดันทางการคลังยังอยู่ในเกณฑ์สูงตามแนวโน้มการเพิ่มขึ้นของภาระดอกเบี้ยและผลกระทบจากการปรับตัวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ในขณะที่ความเสี่ยงจากความผันผวนของระบบเศรษฐกิจการเงินโลกยังอยู่ในเกณฑ์สูง ทำให้มีความจำเป็นที่จะต้องมีพื้นที่ทางการคลังที่เพียงพอเพื่อการสร้างศักยภาพการขยายตัวทางเศรษฐกิจ รวมทั้งเพื่อรองรับการเพิ่มขึ้นของรายจ่าย ด้านสวัสดิการสังคม และสถานการณ์ความผันผวนรุนแรงที่อาจเกิดขึ้น
ดังนั้นการดำเนินนโยบายการคลังในระยะต่อไปจึงควรแสดงถึงความมุ่งมั่นในการเพิ่มการจัดเก็บรายได้และการลดรายจ่ายโดยมีแนวทางที่ชัดเจนและเป็นรูปธรรมโดยเฉพาะการปฏิรูปโครงสร้างภาษีและการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บรายได้ การทบทวนและยกเลิกมาตรการทางภาษีที่ไม่เกิดความคุ้มค่าและบิดเบือนกลไกตลาด การลดความซ้ำซ้อน และการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีที่มีวัตถุประสงค์เป็นการเฉพาะเท่าที่จำเป็น
ควบคู่ไปกับการลดทอนรายจ่ายที่ไม่จำเป็น การเพิ่มประสิทธิภาพการใช้จ่าย และการปรับโครงสร้างรายจ่ายให้มีความสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงทางโครงสร้างเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ รวมทั้งให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการด้านการคลัง โดยเฉพาะการเพิ่มงบชำระคืนต้นเงินกู้ให้มีความสอดคล้องกับการเพิ่มขึ้นของต้นทุนการกู้เงินและภาระดอกเบี้ยเพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังและอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศ จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณาดำเนินการต่อไปตามข้อเสนอของ สศช.
สำหรับกรอบการคลังระยะปานกลางของประเทศที่ ครม.เห็นชอบ นั้นงบประมาณรายจ่ายของรัฐบาลในปี 2571 จะเพิ่มขึ้นเป็น 4.07 ล้านล้านบาท ขณะที่รายได้ของภาครัฐคาดว่าจะอยู่ที่ 3.39 ล้านล้านบาท ขาดดุลงบประมาณ ณ ปี 2571 6.8 แสนล้านบาท หนี้สาธารณะคงค้างที่ 14.7 ล้านล้านบาท คิดเป็นหนี้สาธารณะ 63.61% ต่อจีดีพีในปี 2561