'เศรษฐา' ไฟเขียวข้อเสนอคมนาคม เร่งสร้าง 'สนามบินล้านนา'

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังร่วมประชุมติดตามความคืบหน้าโครงการเชื่อมโยงระบบขนส่ง และการเดินทางในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยระบุว่า การเดินทางมาตรวจราชการในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ครั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งที่กระทรวงคมนาคมได้เสนอในที่ประชุม รวมถึงการบรรเทาหมอกควัน และฝุ่นละออง PM 2.5

โดยมีประเด็นสำคัญที่ได้รับการพิจารณา ประกอบด้วยโครงการก่อสร้าง"สนามบินล้านนา" (เชียงใหม่แห่งที่ 2) ซึ่งรัฐบาลจะเร่งผลักดัน บนพื้นที่ประมาณ 8 พันไร่ ตั้งอยู่ในอำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ และอำเภอบ้านธิ จังหวัดลำพูน สถานะขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการ โดยกระทรวงฯ มีเป้าหมายให้สามารถรองรับปริมาณผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้นจากการขยายตัวของเศรษฐกิจ และการเพิ่มเส้นทางการบินในอนาคต

อย่างไรก็ดี โครงการดังกล่าวอยู่ภายใต้ความรับผิดชอบของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เบื้องต้นคาดว่าจะใช้วงเงินลงทุนก็ประมาณ 7 หมื่นล้านบาท โดย ทอท.ต้องลงทุนซื้อที่ดินทั้งหมดเพื่อนำมาพัฒนาโครงการ ส่วนรูปแบบการพัฒนาจะก่อสร้างทางวิ่งขนาดกว้าง 45 เมตร ยาว 3,800 เมตร รวมไปถึงลานจอดอากาศยานพื้นที่รวม 860,000 ตารางเมตร มีพื้นที่สำหรับผู้โดยสารประมาณ 30,084 ตารางเมตรและพื้นที่จอดรถผู้โดยสารประมาณ 2,600 ตารางเมตร

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังเห็นชอบข้อเสนอของกระทรวงคมนาคม ในโครงการพัฒนาถนนวงแหวนรอบเมืองเชียงใหม่ รอบที่ 3 (ทล.121) ระยะทางรวม 52.957 กิโลเมตร เพื่อแก้ปัญหาปริมาณรถสะสม และการจราจรติดขัดบริเวณทางแยกสัญญาณไฟ และแผนพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะเพื่อเชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยว 7 แห่ง ได้แก่ สวนพฤกษศาสตร์  ไนท์ซาฟารี อุทยานหลวงราชพฤกษ์ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ น้ำตกห้วยแก้ว สวนสัตว์เชียงใหม่ และเวียงกุมกาม

โดยแผนพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะเพื่อเชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยว 7 แห่ง ปัจจุบันกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) อยู่ระหว่างประสานผู้ประกอบการขนส่งเข้ามาทำการเดินรถในเส้นทาง สำหรับรถสองแถว (รถแดง) ได้กำชับให้เข้มงวดการติดป้ายแสดงราคาที่เป็นมาตรฐานชัดเจนบริเวณตัวรถและเพิ่มจุดหยุด – รับส่งผู้โดยสารให้ครอบคลุม และสะดวกในการเดินทาง รวมทั้งให้ส่งเสริมระบบขนส่งสาธารณะเป็นยานยนต์ไฟฟ้า (EV) เพื่อลดปัญหามลพิษและฝุ่น PM 2.5

นายสุริยะ กล่าวต่อว่า ตนได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการความร่วมมือในการทำงาน ช่วยกันพัฒนาโครงข่ายทางถนน สนับสนุนการใช้รถไฟฟ้า เพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งสาธารณะ และเร่งผลักดันระบบขนส่งสาธารณะให้ทั่วถึงเพื่อลดการใช้ยานพาหนะส่วนบุคคล ดึงดูดให้คนเชียงใหม่หันมาใช้ระบบขนส่งสาธารณะในการเดินทาง ลดปัญหาการจราจร ประหยัดพลังงาน และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ช่วยลดปัญหาการเกิด PM 2.5