EEC ตัวช่วยขับเคลื่อนการลงทุนไทยปี 2567
เศรษฐกิจไทยใช้เวลา 4ปีกว่าจะฟื้นจากวิกฤตโควิดกลับมายืนจุดเดิม เศรษฐกิจไทยหดตัวแรงราว-6%ในปี 2563 และกลับมาฟื้นตัวเพียง1.5% 2.6%และราว2.6%ในช่วงปี 2564 – 2566 เศรษฐกิจไทยฟื้นช้าและโตต่ำลงมาก เพราะเครื่องยนต์เศรษฐกิจกลับมาทำงานไม่ครบและไม่เต็มที่
ในอนาคตเศรษฐกิจไทยจะกลับมาโตเกิน3%ได้อีกครั้งจะต้องอาศัยเครื่องยนต์การลงทุนมาเป็นตัวช่วยสำคัญ
การปรับกลยุทธ์ใหม่ในแผนระยะ 5ปีของEECมุ่งดึงดูดเม็ดเงินลงทุนต่างชาติเชิงรุกเจาะกลุ่มศักยภาพ และวัดผลสร้างเม็ดเงินลงทุนจริง จะช่วยขับเคลื่อนให้การลงทุนไทยโตขึ้นได้อย่างเป็นรูปธรรม ท่ามกลางปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ และโลกแบ่งขั้ว การย้ายฐานการลงทุนไปประเทศใกล้เคียง หรือประเทศขั้วพันธมิตรเริ่มชัดขึ้น บรรยากาศการดึงดูดเม็ดเงินลงทุนต่างชาติเข้มข้น โดยเฉพาะกลุ่มประเทศอาเซียนในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า(EV)และดิจิทัล
EECปรับแผนการดำเนินงานระยะ5ปี (ปี2566 – 2570) ใหม่กำหนดแผนพัฒนาอุตสาหกรรมเป้าหมาย5คลัสเตอร์หลักและกำหนดมุมมองใหม่ในการดึงดูดเม็ดเงินลงทุนต่างชาติ สรุปแนวทางหลัก ๆ ได้ดังนี้
กำหนดอุตสาหกรรมเป้าหมาย 5 คลัสเตอร์หลัก ได้แก่1)การแพทย์และสุขภาพ2)ดิจิทัล เช่น ดิจิทัล หุ่นยนต์ อิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ3)ยานยนต์สมัยใหม่ เช่นEV 4) BCGเช่น เกษตรและเทคโนโลยีชีวภาพ เชื้อเพลิงและเคมีชีวภาพ และ5)บริการ เช่น ท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ การบินและโลจิสติกส์ตั้งเป้าสร้างเม็ดเงินลงทุนจริง 5แสนล้านบาท (เฉลี่ยปีละ1แสนล้านบาท)เป้าหมายใหม่จะเพิ่มเม็ดเงินลงทุนในประเทศให้เติบโตได้มากราว+40%จากแผนเดิมช่วงปี 2561 – 2565 ซึ่งบรรลุเป้ามูลค่าการขอรับส่งเสริมการลงทุนBOI 2.2ล้านล้านบาท
แต่เม็ดเงินลงทุนจริงในพื้นที่ยังไม่มากเฉลี่ยปีละ7หมื่นล้านบาทเท่านั้น จัดทีมดึงดูดนักลงทุนต่างชาติบนหลักการบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทานเน้นเจรจากลุ่มธุรกิจต่างชาติหัวหอกที่เข้ามานำธุรกิจอื่นที่เกี่ยวข้องให้ตามมาได้ และช่วยขยับตำแหน่งของไทยในห่วงโซ่อุปทานโลกไปสู่ระดับต้นน้ำมากขึ้นได้และเจรจาสิทธิประโยชน์ส่งเสริมการลงทุน5คลัสเตอร์หลักเป็นกรณี พรบ.EECกำหนดกรอบการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลสูงสุดเอาไว้แล้ว
ในทางปฏิบัติจะพิจารณาสิทธิประโยชน์เป็นกรณี โดยคำนึงถึงการเป็นอุตสาหกรรมเป้าหมายพิเศษ ความสำคัญของกิจการต่อSupply chainและValue chainและการสร้างประโยชน์ต่อประเทศเป็นสำคัญจัดแพ็กเกจสิทธิประโยชน์การลงทุนใหม่ ทั้งมาตรการภาษีและมิใช่ภาษี เช่น สิทธิยกเว้นหรือลดหย่อนภาษี สิทธิการถือครองกรรมสิทธิ์ในที่ดินหรือห้องชุด และการอนุญาตให้อยู่อาศัยในระยะยาวเป็นกรณีพิเศษ(EEC long-term VISA)โดยให้วีซ่าระยะยาวตามสัญญาจ้าง พร้อมใบอนุญาตทำงาน สำหรับผู้ประกอบการในพื้นที่EECหรือ ผู้ทำงานเกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมเป้าหมายพิเศษ รวมถึงคู่สมรสและบุตร
สร้างระบบนิเวศการลงทุน พัฒนาแหล่งระดมทุนEEC (EEC Fundraising venue)รองรับการระดมทุนที่ใช้เงินตราต่างประเทศตั้งแต่1ม.ค.2567เริ่มจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งจะช่วยให้บริษัทไทยและบริษัทต่างประเทศที่ใช้เงินตราต่างประเทศในการระดมทุน รวมถึงบริษัทไทยที่จะไปจดทะเบียนในต่างประเทศจะมีทางเลือกในการระดมทุน และมีทางเลือกเครื่องมือทางการเงินมากขึ้นได้จัดบริการภาครัฐแบบเบ็ดเสร็จครบวงจรโดยยกระดับกฎหมายการให้บริการอนุมัติและอนุญาตตาม พรบ.EECได้แก่ กฎหมายว่าด้วยการขุดดินและถมดิน การควบคุมอาคาร การจดทะเบียนเครื่องจักร การสาธารณสุขคนเข้าเมือง การจดทะเบียนพาณิชย์โรงงาน และการจัดสรรที่ดิน จะช่วยลดอุปสรรคและเร่งระยะเวลาเริ่มลงทุนได้จริง จากเดิม2ปีเหลือ9เดือน
EECปรับกลยุทธ์ใหม่ ทำงานเชิงรุก เท่าทันกระแสโลกและการแข่งขันสูง เร่งดึงดูดเม็ดเงินลงทุนต่างชาติให้ไทยมีที่ยืนบนห่วงโซ่การผลิตโลกมูลค่าสูงขึ้น จะช่วยยกระดับบทบาทการลงทุนให้กลับมาเป็นฟันเฟืองสำคัญของเศรษฐกิจได้อีกครั้ง